09.00 INDEX มหา ”อาณัติ” การเมือง “22 พค.” ฉายสะท้อน ทิศทาง อนาคตไทย
เหมือนกับว่าการเลือกตั้งชิงตำแหน่ง ”ผู้ว่าฯกทม.” และการเลือกตั้งชิงตำแหน่ง ”นายกเมืองพัทยา” จะเป็นการเลือกตั้งเฉพาะส่วนเฉพาะ เขตในระดับท้องถิ่น
กระนั้น ในเมื่อเป็นการเลือกตั้งในพื้นที่กทม. และในพื้นที่เมืองพัทยาซึ่งเป็น ”นครใหญ่” จึงมีความสำคัญ
เป็นความสำคัญที่ไม่เพียงแต่จะฉายสะท้อนลักษณะเฉพาะของพื้นที่ของเมือง ตรงกันข้าม กลับดำเนินไปในลักษณะอันเป็นตัวแทนของการเมืองระดับชาติ ระดับภาคได้อย่างเด่นชัด
เริ่มจากเมืองพัทยาอันแสดงให้เห็นถึงการดำรงอยู่ของการเมือง ในระดับภาค สะท้อนอิทธิพลซึ่งมีอยู่อย่างต่อเนื่องและยาวนานของ การเมืองภาคตะวันออกในท่ามกลางความขัดแย้งเปลี่ยนแปลง
เกิดการต่อสู้ระหว่าง ”บ้านใหญ่” กับอดีตบริวารและเครือข่าย และปรากฏตัวตัวเล่นใหม่ขึ้นมาเหมือนกับยาดำที่ชำแรกแทรกซึม
เข้าไปในทุกจุดของพื้นที่ประเทศไทย
ยิ่งใน ”กรุงเทพมหานคร” ยิ่งทำให้สามารถศึกษาและทำความ เข้าใจต่อการเมืองที่ดำรงอยู่ในสังคมประเทศไทยได้อย่างเด่นชัด
ความเป็นจริงของกรุงเทพมหานครเป็นตัวแทนได้อย่างดีสำหรับการเมืองในประเทศไทย มองอย่างกว้างๆหลวมๆ นั่นก็คือ สะท้อนการต่อสู้ระหว่างพลังอำนาจเก่ากับพลังอำนาจใหม่
เพียงแต่จะต้องค้นให้พบว่า พลังของอำนาจเก่าอวตารไปอยู่ใน รูปของคนใด และพลังของอำนาจใหม่อวตารไปอยู่ในรูปของคนใด
เริ่มตั้งแต่การประกาศของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ตามมาด้วยการเสนอตัวของ น.ส.รสนา โตสิตระกูล นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
พลันที่ นายสกลธี ภัททิยกุล ลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. พลันที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.
ความคึกคักและการเปรียบเทียบก็เริ่มแจ่มชัดไม่สลัวรัวราง
ไม่ว่าจะเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในพื้นที่ของเมืองพัทยา ไม่ว่าจะเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งของกรุงเทพมหานคร จึงเท่ากับได้รับโอกาสอย่างเป็นพิเศษในทางการเมืองก่อนพื้นที่อื่นๆ
ผลจากการตัดสินใจ ”เลือก” จึงทรงความหมายเป็นอย่างสูง
ระยะเวลาจากวันที่ 25 มีนาคม ไปจนถึงวันที่ 22 พฤษภาคมจึงเป็นระยะเวลาแห่งการใช้ดุลพินิจเพื่อตัดสินใจในทางการเมือง
นั่นก็คือ จะยืนยัน ”อาณัติ” ของประชาชนว่าจะดำเนินไปเช่นใด