เปิด 19 วัด ให้ ปชช.นำรถไปจอดเพื่อเดินทางต่อรถสาธารณะเข้าพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ตุลาคม นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะเลขานุการศูนย์ บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) แถลงว่า การประชุม ศตส.เช้าวันนี้ เป็นการประชุมเพื่อทบทวนการปฏิบัติในรอบวันที่ผ่านมา รวมทั้งการพิจารณาปรับมาตรการในเรื่องของการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการขนส่ง การอำนวยความสะดวกบริเวณรอบท้องสนามหลวง และพระบรมมหาราชวัง สรุปได้ว่า เรื่องการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนนั้น ส่วนราชการต่างๆ ทั่วประเทศจะร่วมในการจัดจุดช่วยเหลือ และให้บริการประชาชนในพื้นที่ชั้นใน เช่น บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้านหน้าของสวนสราญรมย์ อาคารกองสลากเก่า ศาลอาญา นอกจากนี้ยังได้รับความเมตตาจากคณะสงฆ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ได้เมตตาเปิดวัดพร้อมจัดสถานที่ในวัดให้เป็นที่พักผ่อน เลี้ยงอาหาร ดูแลเรื่องห้องน้ำ ฯลฯ
นายสุวพันธุ์กล่าวว่า สำหรับเรื่องการจราจร เนื่องจากพี่น้องประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมาก รถก็พยายามจะเข้ามาในพื้นที่ชั้นในเช่นเดียวกัน โดยบางส่วนก็มาปฏิบัติงาน แต่บางส่วนก็มาร่วมในพระราชพิธี ก็ขอเรียนว่ามีสถานที่จอดรถเพิ่มเติม โดยเป็นวัดรอบๆ ไม่ว่าเขตบางนา พระโขนง บางเขน ดอนเมือง หลักสี่ จตุจักร เขตพระนคร เขตดุสิต จะมีวัดจำนวนทั้งสิ้น 19 วัด จะเปิดวัดให้เป็นพื้นที่จอดรถได้ เช่น วัดศรีเอี่ยม ที่บางนา วัดวชิรธรรมสาธิต ที่พระโขนง วัดธาตุทอง ที่เขตวัฒนา วัดตรีทศเทพ วัดเทวราชกุญชร วัดมกุฏกษัตริยาราม วัดโสมนัส วัดราชาธิราช วัดเทพศิรินทร์ วัดสามพระยา วัดปากน้ำภาษีเจริญ วัดลาดพร้าว วัดมหาธาตุ วัดพระเชตุพน ฯลฯ วัดเหล่านี้อยู่ในพื้นที่ที่หากเข้าไปจอดรถแล้วจะทำให้การเดินทางเข้ามาโดนรถสาธารณะเป็นไปได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
นายสุวพันธุ์กล่าวอีกว่า อีกประเด็นหนึ่งในเรื่องของการอำนวยความสะดวก คือ เรื่องที่พี่น้องประชาชนต้องการเข้าไปถวายความอาลัยในพระบรมมหาราชวัง เช้านี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งฝ่ายเลขานุการ กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบของ คสช. กทม. จะลงไปดูพื้นที่เพื่อปรับการปฏิบัติให้สามารถอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องของความมั่นคง ยังคงใช้มาตรการดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่อยู่ ดังนั้น อาจจะมีการตั้งจุดตรวจบ้าง หรือมีการตรวจค้นพื้นที่บางพื้นที่บ้าง ซึ่งเป็นการปฏิบัติปกติเพื่อให้การรักษาความปลอดภัย และการดูแลภาพรวมของความสงบเรียบร้อยเดินหน้าต่อไปได้ จึงอยากเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ ทั้งนี้ มีการเผยแพร่ข่าวชุดหนึ่งทางแอพลิเคชั่นไลน์ เรื่องการตรวจค้นที่บางพลีเมื่อวานนี้ (17 ตุลาคม) แล้วพบสารทำระเบิด ข้อเท็จจริงคือมีการปฏิบัติการตรวจค้นจริง แต่ไม่พบสารประกอบระเบิด พบแต่ใบกระท่อม น้ำบูดู ซึ่งการเผยแพร่ข้อมูลลักษณะนี้อาจะทำให้เกิดความสับสน ดังนั้น หากพบว่ามีสิ่งที่น่าสงสัยทาง ศตส.ก็จะประสานงานกับทางฝ่ายความมั่นคงเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และแจ้งให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ
