วันที่ 1 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาลนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสำนักข่าวแห่งหนึ่งยื่นหนังสือถึงกองทัพบกเพื่อขอข้อมูลและคัดลอกสำเนาเอกสารในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารทางราชการพ.ศ. 2540 ว่า ปกติแล้วตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารทางราชการ สามารถขอข้อมูลได้อยู่แล้ว แต่ก็มีหลักเกณฑ์ในการขอข้อมูลทั้งหมด 7 ข้อ รวมทั้งบางอย่างอาจจะให้แนวทางไปเท่านั้น แต่ไม่ให้หมด บางอย่างให้หมด บางอย่างให้คัดลอกเอง อะไรที่เขาเห็นว่ายังไม่สามารถเปิดเผยได้ เขาจะสั่งว่าไม่ให้ แต่ถ้าผู้ขอยังติดใจ ยังสามารถอุทธรณ์ได้ และถ้าคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเรื่องดังกล่าว เห็นว่าไม่ต้องเปิดเผยก็จบ ก็ทำไปตามพ.ร.บ.ดังกล่าว
เมื่อถามว่า เทียบเคียงความผิดในโครงการจำนำข้าว ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กับอุทยานราชภักดิ์ ถ้าทุจริตจริง ใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบบ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า สิ่งที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิดโครงการรับจำนำข้าว คนที่ต้องรับผิดชอบคือประธานกขช.และนายกฯ ส่วนกรณีอุทยานราชภักดิ์ ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้นจริง คนที่เป็นประธานคณะกรรมการก่อสร้างโครงการอุทยานราชภักดิ์ ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย แต่ส่วนนี้จะมีความแตกต่างกันกับโครงการที่เป็นงบประมาณแผ่นดินทั้งหมด ที่ความสูญเสีย โดยไม่ใช่เป็นเรื่องที่เอางบประมาณแผ่นดินเข้ากระเป๋าตัวเอง แต่เป็นเรื่องที่ไม่ปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ
ส่วนกรณีอุทยานราชภักดิ์เป็นกรณีใช้งบฯของรัฐส่วนหนึ่ง งบบริจาคอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งต้องดูว่าความเสียหายจากส่วนไหน ตอบสั้นๆ ง่ายๆ ถ้ามีการชี้มูลความผิดทางอาญาก็ต้องรับผิดในทางแพ่ง โดยใช้พ.ร.บ.ว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ได้”นายวิษณุ กล่าว