“เทพไท” มั่นใจสังคมไทยรับได้ ถ้า ปชช.เลือกอุ๊งอิ๊ง เป็นนายกฯ ชี้เป็นไปตามกติกาประชาธิปไตย และอย่าสร้างเงื่อนไขให้อำนาจนอกระบบแทรกแซง
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อข้อความในเฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่ โทนี่ วู้ดซัม หรือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เสวนาในรายการ CARE Talk x CARE ClubHouse ในหัวข้อ “มองเมืองดูไบ ใส่ใจกรุงเทพฯ ถึงตัวอยู่ไกล แต่ใจยังคิมิโนโตะ” โดยมีรายละเอียดว่า
“ผมพร้อมยอมรับกติกาประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ
กรณีที่มีเพจเฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย โพสต์ข้อความของ โทนี่ วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ร่วมเสวนาในรายการ CARE Talk x CARE ClubHouse ในหัวข้อ ‘มองเมืองดูไบ ใส่ใจกรุงเทพฯ ถึงตัวอยู่ไกล แต่ใจยังคิมิโนโตะ’ โดยระบุตอนหนึ่งว่า ถ้าเกิดประชาชนเลือก (คุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี) แล้วได้เป็นจริง กลัวชะตากรรมจะซ้ำรอยไหม ก็ต้องถามประชาชนว่า 16 ปีที่ผ่านมา ช้ำพอหรือยัง เศรษฐกิจ ครอบครัวพังไป ล้มละลายจากการรัฐประหาร ถามว่าประชาชนเข็ดไหม ถ้าไม่เข็ด เอาอีกก็ไม่เป็นไร ผมมีบ้านหลายประเทศ”
สำหรับข้อความของคุณโทนี่ในเรื่องนี้ ผมมีความเห็นแยกออกเป็น 3 ประเด็น คือ 1.ถ้าประชาชนทั้งประเทศ เลือกพรรคเพื่อไทย มีจำนวน ส.ส.มากที่สุด และคุณแพทองธารได้รับโหวตจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าสังคมไทยต้องยอมรับ เพราะเป็นการได้มา ซึ่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามวิถีทางในระบบประชาธิปไตย
2.ถ้าหากคุณแพทองธารได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จะต้องบริหารประเทศชาติด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และยึดหลักนิติรัฐนิติธรรมอย่างเคร่งดรัด
3.การรัฐประหารจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ก็ต้องดูการบริหารประเทศด้วยว่า รัฐบาลได้สร้างเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหารหรือไม่
ถ้าหากย้อนกลับไปดูเหตุผลของการรัฐประหาร 2 ครั้งคือ การรัฐประหารของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ก็จะมีการอ้างสาเหตุในการรัฐประหาร ในทำนองเดียวกันคือ
1.รัฐบาลบริหารประเทศ เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น
2.มีการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง
3.มีการแทรกแซงองค์กรอิสระ
4.มีความขัดแย้ง และเกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน
ส่วนตัวไม่สนับสนุนการรัฐประหาร และเผด็จการทุกรูปแบบ เพราะการรัฐประหารเป็นวงจรอุบาทว์ที่เกิดขึ้นซ้ำซากในประเทศไทย และในขณะเดียวกันรัฐบาลที่ถูกรัฐประหาร ก็เป็นรัฐบาลที่ลุแก่อำนาจ สร้างเงื่อนไขให้อำนาจนอกระบบ เข้ามาแทรกแซง ควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศได้
ผมเห็นว่าการรัฐประหารเป็นความชั่วร้ายของการปกครองประเทศแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่ชั่วร้ายยิ่งกว่านั้น คือการสืบทอดอำนาจต่อจากการรัฐประหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องแสดงการปฎิเสธ ต่อต้าน ทำลายล้าง ระบบเผด็จการและการสืบทอดอำนาจให้หมดไปจากสังคมไทย”