อ.จุฬาฯ ชี้ 8 ตราบาปโดยรัฐส่วนกลาง ฉุดรั้งท้องถิ่น ทำกระจายอำนาจ ย่ำอยู่กับที่

อ.จุฬาฯ ชี้ 8 ตราบาปโดยรัฐส่วนกลาง ฉุดรั้งท้องถิ่น ทำกระจายอำนาจ ย่ำอยู่กับที่

เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่พรรคอนาคตใหม่ คณะก้าวหน้าจัดเสวนาเปิดตัวแคมเปญ “ขอคนละชื่อปลดล็อกท้องถิ่น” โดย นายวีระศักดิ์ เครือเทพ อาจารย์ภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยายในหัวข้อ “8 ปีกับ 8 ตราบาป ที่รัฐกระทำต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ตอนหนึ่งว่า ตราบาป 8 ประการที่เกิดขึ้นกับท้องถิ่น ตราบาปที่ 1 คือ การทำลายกลไกประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่น ทำให้ทิศทางการพัฒนาในระดับพื้นที่สะดุดและขาดตอน เกิดขึ้นสืบเนื่องจากการรัฐประหาร 2557 ที่มีคำสั่งแขวน และปลดผู้บริหารท้องถิ่นที่ประชาชนเลือกเข้ามา ก่อนจะแต่งตั้งข้าราชการที่ไม่มีความเข้าใจในพื้นที่ และความต้องการของประชาชนเข้าไปบริหารงานแทน เป็นหลักคิดที่ผู้มีอำนาจเชื่อว่ามีเสียงเหนือกว่าประชาชน

นายวีระศักดิ์กล่าวว่า ตราบาปที่ 2 คือ บิดเบือนกลไกการตรวจสอบ และนำกลไกเหล่านี้มาใช้เป็นเครื่องมือลงโทษนักการเมืองท้องถิ่นฝ่ายตรงข้าม ตราบาปที่ 3 คือ การเตะตัดขาการทำงาน และบอนไซท้องถิ่น เพื่อให้ปฏิบัติงานได้อย่างจำกัด ส่วนท้องถิ่นจะทำดีเกินหน้าไม่ได้ แม้เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชนก็ตาม ตราบาปที่ 4 คือวางยาท้องถิ่น ใครเชื่องเป็นลูกรัก ใครดื้อกลายเป็นแพะ เช่น การปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งที่ จ.เชียงใหม่ ในการรับมือวิกฤตโควิด-19 ที่ส่วนท้องถิ่นนั้นถูกกล่าวหาว่าใช้เงินซื้ออุปกรณ์ยังชีพให้ครัวเรือนด้วยราคาแพง ทั้งที่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าทำตามคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดทุกประการ

นายวีระศักดิ์กล่าวต่อว่า ตราบาปที่ 5 คือ การปล้นเงิน และผลงานอย่างถูกกฎหมาย เช่น รัฐบาลได้ผลงานจากการลดการเก็บภาษีจากประชาชน และผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นภาษีที่มาจากท้องถิ่น เช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประมาณ 7 หมื่นล้าน ทำให้ท้องถิ่นสูญเสียรายได้ แต่รัฐบาลได้ผลงานไป ทั้งที่การเก็บภาษีของท้องถิ่นถือเป็นการกระจายอำนาจทางการคลังเพื่อระดมเงินมาจัดทำสิ่งที่ท้องถิ่นต้องการ ตราบาปที่ 6 คือ การสร้างมายาคติว่าท้องถิ่นคดโกง ไม่พร้อม และเอาแต่หาเสียง ทำให้คนเข้าใจผิด และไม่หนุนเสริมท้องถิ่น ซึ่งหนักมากขึ้นในช่วงหลัง คือ หากท้องถิ่นทุจริตจะตีข่าวยาว แต่การทุจริตของส่วนกลางจะจบใน 1-2 วัน ทั้งนี้ ท้องถิ่นเป็นองค์กรที่เข้าถึง และตรวจสอบได้ง่าย ดังนั้น ถ้าใครโกงก็จับ สิ่งต่างๆ จะดีขึ้น

นายวีระศักดิ์กล่าวอีกว่า ตราบาปที่ 7 คือ การรวบอำนาจสู่ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคมากขึ้น ทั้งเรื่องงาน เงิน คน และความเป็นอิสระขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยการทำโครงสร้างระบบให้อ่อนแอ แต่เมื่อรวมอำนาจไปที่ส่วนกลางจริงทำให้เกิดระบบคอขวด ข้าราชการหนึ่งคนรับผิดชอบในทุกเรื่อง มีชื่อเซ็นเอกสารอนุมัติหลายโครงการ จนกระทบกลไกตรวจสอบภายใน และตราบาปที่ 8 คือ รัฐบริหารงานแบบ one-man show ทำให้ขาดวิสัยทัศน์การพัฒนาประเทศอย่างทั่วถึง เป็นธรรม และยั่งยืน ทำงานให้เสร็จ เบิกงบประมาณให้ครบ และคะแนนเคพีไอดีก็พอ ส่วนจะเป็นประโยชน์กับประชาชนหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

Advertisement

“ความจริงท้องถิ่นไทยเจ๋งและไปได้ไกลกว่าที่คิด ยกตัวอย่างการให้ผู้นำท้องถิ่นนั้น เป็นเหมือนผู้จัดการเศรษฐกิจ สร้างระบบเชื่อมต่อ เช่น การพัฒนาทำถนนคนเดินในชนบท ที่สร้างมูลค่าและรายได้ให้ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าไม่ปลดล็อก สร้างตราบาปให้ท้องถิ่น และถ้าไม่หนุนเสริมให้ท้องถิ่นทำงานได้อย่างอิสระ ประเทศไทยจะย่ำอยู่กับที่ไปอีกนาน” นายวีระศักดิ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image