‘ธีรัจชัย’ คาด ‘กมธ.กม.ลูก’ พิจารณาสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หลังสงกรานต์

นายธีรัจชัย พันธุมาศ
นายธีรัจชัย พันธุมาศ

‘ธีรัจชัย’ คาด ‘กมธ.กม.ลูก’ พิจารณาสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หลังสงกรานต์ เผย หลายฝ่ายเปลี่ยนทิศทางเสนอ หาร 500

เมื่อวันที่ 3 เมษายน นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ. … ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม กมธ.ในสัปดาห์นี้ ว่า วันที่ 6 เมษายน กมธ.งดประชุมเนื่องจากเป็นวันจักรี ส่วนวันที่ 7 เมษายน จะเป็นการประชุมร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยจะมีการลงมติ 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้จัดตั้งพรรคการเมือง และเรื่องอัตราค่าธรรมเนียมที่จะเรียกเก็บจากสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 2 แนวหลัก คือ ร่างหลักของรัฐบาลกำหนดให้ 20-200 บาท โดยระบุไว้ในกฎหมายพรรคการเมืองเลย ส่วนแนวของพรรคฝ่ายค้านมีความเห็นว่าไม่ควรกำหนดไว้ในกฎหมายพรรคการเมือง แต่ควรให้แต่ละพรรคการเมืองไปกำหนดกันเองว่า จะให้มีจำนวนเท่าไหร่ หรือจะมีหรือไม่มีก็ได้ โดยที่ประชุมจะพิจารณาสองเรื่องนี้เป็นหลัก ส่วนเรื่องไพรมารีโหวตอาจจะพิจารณาในการประชุมครั้งถัดไป อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับว่าการให้ความเห็นเพิ่มเติมจะมีมากแค่ไหน เพราะประธาน กมธ.เปิดให้อภิปรายอย่างเต็มที่

“ส่วนแนวโน้มการลงมติจะเป็นอย่างไรนั้น โดยหลักแล้วโครงสร้าง กมธ.เอื้อต่อฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐหรือฝ่ายที่มาจากการรัฐประหารให้ได้เปรียบ เพราะเสียง 1 ใน 3 เป็นของ ส.ว. และเป็นเสียงของฝ่ายรัฐบาลมากกว่ากึ่งหนึ่ง หากฝ่ายรัฐบาลกับฝ่าย ส.ว.จับมือกัน โอกาสที่จะพลิกชนะในชั้น กมธ.นั้นยากมาก จะเห็นได้จากการโหวตล่าสุดคือเรื่องบัตร 2 ใบเบอร์เดียวกันหรือคนละเบอร์นั้น ไม่ว่าจะพูดอย่างไร แต่ผลที่ออกมาก็จะเป็นไปตามที่ฝ่ายรัฐบาลกับ ส.ว.ต้องการ ซึ่งกฎหมายไทยหลังรัฐประหารเป็นเช่นนี้ การมีสมาชิกที่มาจากการแต่งตั้งมาเลือก และไม่เคยเปลี่ยนแปลงทิศทาง โดยเป็นทิศทางของการสนับสนุนรัฐบาล จึงทำให้กฎหมายที่ออกมายังไม่อิงกับความต้องการของประชาชนมากเท่าไรนัก เพราะทิศทางองค์ประกอบในการโหวตยังไม่ใช่ประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านพยายามที่จะเสนอหลักการที่ชอบธรรมและเราจะสู้เต็มที่ในแต่ละเรื่อง” นายธีรัจชัยกล่าว

นายธีรัจชัยกล่าวต่อว่า ส่วนร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น เมื่อกลับมาประชุมในวันที่ 20 เมษายนก็จะเป็นการพิจารณามาตราถัดไป ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าจะเป็นเรื่องไหนเพราะมีหลายร่าง แต่เรื่องสำคัญที่จะมีการพิจารณา คือ เรื่องสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าจะเป็นแบบหาร 100 หรือหาร 500 ซึ่งคงจะมีการถกเถียงกันมาก ทั้งนี้ ในตอนที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคก้าวไกลเป็นพรรคเดียวที่เสนอหาร 500 แต่ก็ถูกตีตกไป ซึ่งระบบ MMP ไม่ว่าจะพรรคใหญ่ พรรคกลาง พรรคเล็ก ไม่มีใครได้เปรียบ แต่เมื่อสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไป พรรคหลักรัฐบาลมีขนาดเล็กลง กลายเป็นมีพรรคขนาดกลางจำนวนมาก จึงมีหลายฝ่ายมองว่าหาร 500 จะดีหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกฝ่ายจะเอาแบบหาร 100 พรรคก้าวไกลจึงเสนอหาร 100 ไป แต่หากจะเสนอหาร 500 เราก็ยินดี เพราะคิดว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า ซึ่งในที่ประชุม กมธ.ก็มีพรรคเล็กเสนอหาร 500 มาอยู่แล้ว ส่วนพรรคอื่นตนไม่สามารถตอบแทนได้ แต่ทิศทางค่อนข้างมาทางหาร 500 พอสมควร อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูอย่างชัดเจนในวันพิจารณาอีกที

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image