ก.พ.แถลงปรับใหญ่ระบบคัดนร.ทุน หาคนที่ใช่มากกว่าเก่ง แนะติดต่อทูตไทยเอาผิด

ก.พ.ตั้งโต๊ะแถลงพร้อมปรับโครงการระบบขอรับทุนการศึกษารัฐ ชี้เก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องหาคนที่ใช่ – มีจิตสำนึก แนะมหิดลติดต่อสถานทูตไทยเอาผิดคนหนีทุน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. ม.ล.พัชรภากร เทวกุล รองเลขาธิการ ก.พ. แถลงกรณีอดีตอาจารย์คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้รับทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทและเอก ที่สหรัฐ จนเมื่อสำเร็จการศึกษา แล้วหลีกเลี่ยงไม่กลับมาใช้ทุนคืน ทั้งยังได้เปลี่ยนสัญชาติ และทำงานเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดว่า ปัจจุบันนอกจากมีทุนของรัฐบาลที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ก.พ.แล้ว ยังมีแหล่งทุนของรัฐจากเจ้าของทุนอื่นๆ ตามความจำเป็นและความต้องการในการพัฒนาวิทยาการเฉพาะด้าน ตามประเภทหรือสังกัดของข้าราชการเพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนของภาครัฐในการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ อาทิ ทุนกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอื่นๆ ส่วนกรณีปัญหาที่เป็นข่าวนั้นเป็นทุนการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ทั้งนี้ ในส่วนของ ก.พ.จะจัดสรรทุนเป็นจำนวน 500 คน ในแต่ละปี ซึ่งเงื่อนไขข้อผูกพันในการรับทุนของรัฐบาล ประกอบด้วย 1.ผู้รับทุน จะต้องกลับเข้าปฎิบัติราชการหรือปฏิบัติงานของทางราชการในกระทรวง กรม หรือหน่วยงานของรัฐเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน 2.กรณีที่ผู้ได้รับทุนไม่เข้าปฎิบัติราชการหรือปฏิบัติงานของทางราชการเพื่อชดเชยใช้ทุนตามสัญญาที่ทำไว้ จะต้องชดใช้เงินทุนที่จ่ายไปบวกดอกเบี้ยปรับอีก 2 เท่าของจำนวนเงินทุนดังกล่าว ส่วนเงื่อนไขการทำสัญญาการขอรับทุนของรัฐบาล 1.สัญญาการรับทุนระหว่างผู้รับทุนของรัฐบาลกับหน่วยงานเจ้าของทุน 2.สัญญาค้ำประกันระหว่างผู้ค้ำประกันผู้รับทุนรัฐบาลกับหน่วยงานเจ้าของทุน

“ที่ต้องปรับ 2 เท่ากับผู้ที่ทำผิดสัญญาการชดใช้ทุน ก็เพราะว่าเรามองเห็นความสำคัญในการได้รับทุน เพราะคนที่ได้รับ เมื่อได้รับแล้ว ก็จะทำให้คนอื่นเสียโอกาส ซึ่งทางรัฐบาลคาดหวังว่าความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการร่ำเรียนต่างประเทศ จะช่วยกลับมาพัฒนาราชการของไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ถือเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ส่วนปัญหาเกี่ยวกับผู้ค้ำ เราไม่ได้นิ่งนอนใจที่ผ่านมาจะเห็นว่ารัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขเกี่ยวกับผู้ค้ำมาโดยตลอด เพื่อให้ตรงกับการเปลี่ยนแปลงของประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยหมวดค้ำประกัน ว่า 1.ไม่ฟ้องผู้ค้ำคนกว่าจะทวงหนี้ชั้นต้น 2.ต้องมีการกำหนดวงเงินระยะเวลาการค้ำประกันที่ชัดเจนในสัญญา” ม.ล.พัชรภากร กล่าว และว่า ปัจจุบันผู้รับทุนของ ก.พ.ที่ทำผิดสัญญาชดใช้ทุนซึ่งต้องดำเนินการตามกฎหมาย มีจำนวน 23 ราย ประกอบด้วย ผู้ทำผิดสัญญาก่อน พ.ศ. 2539 จำนวน 14 ราย ทำสัญญาช่วงปี พ.ศ. 2539 – 2551 จำนวน 8 ราย ทำสัญญาช่วงปี 2552 ถึงปัจจุบันจำนวน 1 ราย ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนผู้ทำสัญญาชดใช้ทุนในช่วงปี พ.ศ. 2552 – ปัจจุบัน ที่มีจำนวน 888 ราย จะเห็นว่าสัดส่วนผู้รับทุนที่กระทำผิดสัญญา คิดเป็นร้อยละ 0.11% โดยสาเหตุของการกระทำผิดสัญญาชดใช้ทุน เนื่องจาก 1.ไม่เดินทางกลับประเทศไทย 2.เปลี่ยนสายอาชีพ 3.ลาออกภายหลังปฏิบัติราชการชดใช้ทุนไปได้ระยะหนึ่ง 4.เหตุผลส่วนตัว

“ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในความสนใจของรัฐบาลทั้งนายกรัฐมนตรี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยได้สั่งการให้ ก.พ.หาวิธีการปรับปรุงแก้ไขทุนของรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเรามีแผนที่จะปรับปรุง 4 หลักสำคัญได้แก่ 1.ระบบการจัดกรอบทุนของรัฐบาล 2.การสรรหาคนที่ใช่เข้ามาทำงานราชการ 3.ว่าด้วยการดูแลจัดการศึกษา 4.การกลับมาทำงานเมื่อเรียนจบแล้ว เหล่านี้จะช่วยให้การแก้ไขปัญหามีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเรื่องดังกล่าวจะนำเข้าที่ประชุม ก.พ.เดือนหน้า นอกจากนี้ในอีก 2 สัปดาห์ จะประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)เพื่อวางกรอบต่างๆ ในการปฏิรูปโครงการเรื่องทุน โดยนำปัญหาการหนีทุนนี้มาพิจารณาด้วย” ม.ล.พัชรภากรกล่าว

Advertisement

รองเลขาฯ ก.พ. กล่าวว่า กรณีที่เป็นปัญหานี้ ซึ่งผู้ขอรับทุนได้ออกจากข้าราชการแล้ว จึงไม่อยู่ในความรับผิดชอบของ ก.พ. จึงแนะนำให้ทางมหาวิทยาลัยมหิดล ประสานไปยังสถานทูตไทย ณ กรุงวอชิงตันดี.ซี. หรือหน่วยงานที่ผู้ดูแลนักเรียนไทยที่นั่น เพื่อขอความร่วมมือประสานไปยังคู่กรณี ซึ่งทาง ก.พ.พร้อมสนับสนุน ทั้งนี้ คิดว่าเรื่องการหนีทุนเป็นปัญหาที่ตัวบุคคล ซึ่งถือเป็นส่วนน้อย แต่กระนั้นก็ต้องแก้ไขที่ระบบด้วย เพราะที่ผ่านมาเรามักคัดเลือกจากคนเก่ง ซึ่งต่อจากนี้จะมีการทบทวนเรื่องเหล่านี้เพราะต้องไม่ใช่คนเก่งเพียงอยากเดียวที่จะได้รับทุน จะต้องดูว่าคนเหล่านั้นใช่ หรือตรงกับความต้องการหรือไม่ ซึ่งคนที่จะได้รับทุนต่อไปต้องมีจิตสำนึกด้วย อย่างไรก็ตาม ก.พ.ขอรับนำเสนอแนะต่างๆจากหลายฝ่ายที่เสนอเข้ามา และขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวจนนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image