‘จิ๊บ ศศิกานต์’ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เปิดนโยบาย ‘กรุงเทพฯเมืองปลอดภัย’ ชูแก้ปัญหา 3 ระยะ ลั่นให้ความสำคัญเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ LGBTQ ผู้ด้อยโอกาส ด้าน ‘นายห้างวินท์’ ปัดส่งแข่งตัดคะแนนวิโรจน์
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 เมษายน ที่บริษัท เดอะ แพลตฟอร์ม จำกัด น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 16 พร้อมด้วย นายวินท์ สุธีรชัย หัวหน้ากลุ่มใส่ใจและอดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงข่าวเปิดตัวนโยบายผู้ว่าฯกทม. ภายใต้นโยบายเมืองปลอดภัย ใต้แนวคิด “กรุงเทพฯต้องปลอดภัยสำหรับทุกคน” โดยกำหนดแผนการทำงานออกเป็น 3 ระยะคือ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว และเน้นให้ความสำคัญกับเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ LGBTQ และผู้ด้อยโอกาส
น.ส.ศศิกานต์กล่าวว่า แม้จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ในวงการเมือง แต่มองว่าเป็นข้อได้เปรียบ เพราะตำแหน่งผู้ว่าฯไม่ใช่ตำแหน่งที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เนื่องจากมีหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลส่วนต่างๆ ต้องอาศัยการประสานงาน ซึ่งเราสามารถทำงานได้กับทุกพรรคการเมือง ทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายที่มีนโยบายที่ดีเพื่อประชาชนและเป็นคนดี จึงมองว่าหากผู้ว่าฯกทม.มาจากสังกัดพรรคใดพรรคหนึ่งจะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
น.ส.ศศิกานต์กล่าวว่า สำหรับการทำงานของกลุ่มใส่ใจ ยึดหลักภายใต้หลักการ 3 อย่าง คือ อำนาจต้องมาจากประชาชน ไม่ยอมรับการคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ และ การบริหารงานอย่างมืออาชีพตามหลักสากล ส่วนนโยบายผู้ว่าฯกทม.ของกลุ่มใส่ใจ แบ่งออกเป็น 3 ด้าน ประกอบด้วย ความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และสุขภาพ ความปลอดภัยในด้านคุณภาพชีวิตของผู้คน และการขยายอนาคตทางการศึกษาให้เด็กและเยาวชน ทั้งนี้ กทม.บอบช้ำมากพอแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมาใส่ใจ กทม. จึงขอโอกาสในการทำงาน และสัญญาจะดูแลทุกเรื่องด้วยความใส่ใจ
ด้านนายวินท์กล่าวถึงหลักนโยบายด้านบริหารของกลุ่มใส่ใจว่า นโยบายสุขภาพ ใส่ใจปอด ลดปัญหาฝุ่น PM2.5 วางแผนเปลี่ยนระบบขนส่งใน กทม.เป็นพลังงานสะอาด ประกอบด้วย แผนเริ่มตั้งแต่ 2 ปี 5 ปี และ 10 ปี ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ส่วนใหญ่เป็นตัวแทนของพรรคใหญ่ และเป็นชายวัยกลางคน โดยสถิติชายวัยกลางคนเป็นจำนวนที่น้อยนิดใน กทม. คนส่วนใหญ่ใน กทม.เกือบ 60% จะเป็นผู้หญิง จึงเสนอ น.ส.ศศิกานต์ที่เป็นผู้รู้จริง จะเป็นตัวแทนกลุ่มคนที่เยอะสุดใน กทม.แต่เป็นเสียงที่น้อยที่สุด
เมื่อถามว่าการส่ง น.ส.ศศิกานต์ลงผู้ว่าฯกทม.เพื่อตัดคะแนนนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร หรือไม่ นายวินท์กล่าวว่า การลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล จะอยู่ฝั่งไหน สามารถทำงานร่วมกันได้ ซึ่งตอนที่ตัวเองยังดำรงตำแหน่ง ส.ส.ไม่เคยไปทะเลาะเรื่องการเมืองกับใคร มีแต่ข้อเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องประชาชน แม้กระทั่งตอนลาออกมาก็ไม่ได้มีการไปทะเลาะกับใครทั้งนั้น ดังนั้น การสนับสนุน น.ส.ศศิกานต์ครั้งนี้จึงต้องการทำเพื่อแก้ปัญหาให้กับกรุงเทพฯอย่างแท้จริง
