ปลัดมหาดไทย ถกหอการค้า เสริมความร่วมเอกชนเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
เวลา 10.00 น. ที่ห้องรับรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับและร่วมหารือกับ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายปรัชญา สมะลาภา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย/ประธานภาคตะวันออก นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธานกรรมการหอการค้าไทย/ประธานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายธวัชชัย เศรษฐจินดา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย/ประธานภาคกลาง นายสมบัติ ชินสุขเสริม รองประธานกรรมการหอการค้าไทย/ประธานภาคเหนือ โดยมี นายกฤษณะ พินิจ สำนักพัฒนาและส่งเสริมการบริหารราชการจังหวัด นางสาววริษฐา สงวนเสริมศรี ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน นายปวเรศ รัฐขจร ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้แทนกรมการปกครอง กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมส่งเสริมการปคกรองท้องถิ่น ร่วมให้การต้อนรับและร่วมหารือ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยน้อมนำพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงมุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่พระองค์ทรงอยากเห็นพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นชนบทได้มีรายได้จากการทอผ้า ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ทำให้ตนและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งนอกเหนือจากการสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนแล้ว การสวมใส่ผ้าไทยยังช่วยลดภาวะโลกร้อน เพราะพระองค์ได้พระราชทานแนวพระดำริในการส่งเสริมการผลิตผ้าไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการทอผ้าโดยใช้สีธรรมชาติ ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม ไม่ใช้เครื่องจักรที่เป็นมลพิษต่ออากาศ และได้พระราชทานแนวทางในด้านการออกแบบผ้าไทยให้มีความทันสมัย เช่น ตัดเป็นสูทสากล เป็นชุดที่สวมใส่ได้อย่างทันสมัย โดยหากท่านประธานกรรมการหอการค้าไทย และคณะกรรมการหอการค้าไทยทั่วประเทศ ร่วมกันสวมใส่ผ้าไทยในการเดินทางปฏิบัติภารกิจทั้งในและต่างประเทศ ไปพูดคุย เจรจาการค้า และในทุกโอกาส เพื่อเป็นการส่งเสริมเผยแพร่ผ้าไทย เป็นทูตส่งเสริมผ้าไทยไปสู่สายตาประชาคมโลก เมื่อประชาคมโลกได้เห็นก็จะชื่นชมในภูมิปัญญาผ้าทอของคนไทย
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทยที่ได้ร่วมหารือและแลกเปลี่ยนแนวทางการทำงานเพื่อขับเคลื่อนสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจชุมชนฐานราก อันจะส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน โดยในด้านการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจังหวัดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านหรือกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ประเทศกัมพูชา (Cambodia) สปป.ลาว (Lao PDR) เมียนมา (Myanmar) และประเทศเวียดนาม (Vietnam) ด้วยการส่งเสริมบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์อันเป็นการส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจฐานรากให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่
จากนั้น คณะรองประธานหอการค้าไทยและกรรมการหอการค้าไทย ร่วมหารือการขับเคลื่อนสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ อาทิ การส่งเสริมการประกอบธุรกิจโรงแรม การพัฒนาแนวทางการจัดทำโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณภาครัฐ การปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยภาษีป้าย การส่งเสริมกลไกคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.จังหวัด) และการสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศเพื่อไม่ให้ไม้ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์อันส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานร่วมกับภาคเอกชน รวมถึงภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อทำให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งในมิติการปกครอง กฎหมาย เศรษฐกิจ สังคม และทุกด้าน อันจะส่งผลให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนคนไทยในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจะได้เน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในการส่งเสริมกลไกคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.จังหวัด) อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งใช้กลไกและเครื่องมือของกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ ทั้งท้องที่ อันได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และท้องถิ่น คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสำหรับประเด็นข้อหารือด้านอื่น ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้รับข้อเสนอไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ หากหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่ายมีข้อเสนอแนะในเชิงนโยบายเพื่อทำให้การขับเคลื่อนการทำงานของกระทรวงมหาดไทยได้รับการพัฒนากลไกให้เกิดประสิทธิภาพในการพัฒนาพื้นที่เพิ่มมากขึ้น สามารถให้คำแนะนำผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง
“ขอขอบคุณหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยที่ได้มาร่วมหารือประเด็นด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการส่งเสริมและพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ อันจะส่งผลให้เกิดความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการทำงานอันจะบังเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดให้กับพี่น้องประชาชนและสังคมไทย นำไปสู่การสร้างสิ่งที่ดี Change for Good ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยในทุกด้านอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
