ผุดป้าย ‘รบกับหญ้าฆ่ากับมด’ กลางกองเกณฑ์ทหาร หนุ่มบางแค ร่วมค้าน

ผุดป้าย ‘รบกับหญ้าฆ่ากับมด’ กลางกองเกณฑ์ทหาร หนุ่มบางแค ร่วมต้าน

เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่วัดม่วง เขตบางแค กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการคัดเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2565 (เกณฑ์ทหาร) โดย กลุ่มตีนไก่ปฏิวัติ ทำกิจกรรมต่อต้านการเกณฑ์ทหารและรณรงค์ปฏิรูปกองทัพ ด้วยการสอบถามความคิดเห็นของชายไทยที่เดินทางมาเกณฑ์ทหารภายในวัดม่วง ผ่านการติดสติ๊กเกอร์บนฟิวเจอร์บอร์ดว่า ‘คุณเห็นด้วยหรือไม่กับการบังคับเกณฑ์ทหาร?’ ทั้งนี้ มีผู้ร่วมติดสติ๊กเกอร์ในฝั่ง ‘ไม่เห็นด้วย’ เป็นจำนวนมาก

กลุ่มตีนไก่ปฏิวัติยังแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ก่อนเริ่มสอบถามความเห็น ด้วยการเดินขบวนชูป้ายผ้าระบุข้อความ อาทิ “เลิกบังคับเกณฑ์ทหาร” “รบกับหญ้าฆ่ากับมด” “รับใช้ชาติหรือรับใช้ใคร” ไปจนถึงวาง 3 หุ่นศพจำลองลายพราง พร้อมโปรยกระดาษข้อความ “ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร” กระจายรอบจุดคัดเลือกทหารเกณฑ์ ไปจนถึงเหน็บหน้ากระจกรถบัสของกองทัพ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงเฝ้าสังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มตีนไก่ปฏิวัติยังโพสต์สรุปผลโพลจากการสอบถามความเห็นผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า วันนี้เราได้มาทำกิจกรรมที่วัดม่วง เขตบางแค จากผลที่เกิดขึ้น 99 เปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นด้วย (134 คน) เเละมีอีก 1 เปอร์เซ็นต์ที่เห็นด้วย ขอขอบคุณมวลชนเเละประชาชนทุกท่านที่มาร่วมเเสดงความคิดเห็น พบกันในครั้งหน้า

ด้าน กลุ่มทะลุฟ้า ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทางแฟนเพจ ตั้งคำถามถึงฤดูกาลแห่งการเกณฑ์ทหาร ความว่า แท้จริงแล้วค่ายทหารก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีไว้เพื่อพรากอิสรภาพคนจน นอกเหนือจากคุกหรือไม่ ?

Advertisement

ในทุกๆ ปีเมื่อมีการเกณฑ์ทหาร เรามักจะเห็นได้ว่ามีชายไทยจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกกังวลเมื่อถึงเวลาที่ต้องไปเสี่ยงโชคจับใบดำ-ใบแดง ในบางรายพ่อแม่ถึงขั้นพาลูกตนเองไปบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้รอดพ้นจากการได้ใบแดงเสียด้วยซ้ำ และเมื่อภายหลังการจับสลากเสร็จสิ้น ภาพชายไทยที่ได้ใบแดงที่เป็นลมล้มพับหรือร้องไห้อย่างคร่ำครวญนั้นก็เป็นสิ่งที่เห็นกันจนชินตาในทุกๆปี หรือมากไปกว่านั้นอาจจะได้เห็นภาพบางครอบครัวก็ถึงขั้นลมจับไปด้วย เมื่อเห็นบุตรชายของตนต้องไปเป็นพลทหาร

สิ่งที่น่าสังเกตมากที่สุดนั่นก็คงไม่พ้นการมองเห็นเป็นภาพรวมที่ว่า คนที่ต้องมาเกณฑ์ทหารส่วนใหญ่ล้วนเป็นลูกหลานคนรากหญ้าทั้งสิ้น คำตอบก็คือเพราะความจนล้วนๆ นั่นเอง ซึ่งพวกเราสามารถอธิบายได้ดังนี้

ในการที่จะหลบเลี่ยงการเป็นทหารมีอยู่เพียงประมาณ 3 อย่าง นั่นก็คือ 1.เป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้นตามกฎระเบียบ 2.การเรียน นศท. (รด.) และ 3.การยัดเงินใต้โต๊ะ โดยใน 2 ข้อหลังนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจะต้องใช้เงิน แม้กระทั่งการเรียน รด.ตอนมัธยมปลายก็ยังต้องใช้เงินจำนวนหนึ่งในการซื้อชุด โดยในส่วนนี้พวกเราก็ต้องยอมรับว่าผู้ปกครองบางคนก็ต้องตัดใจไม่ให้ลูกเรียน รด.เพราะไม่มีเงินซื้อชุด รด.อยู่จริงๆ และในส่วนนี้ยังไม่รวมถึงผู้ปกครองที่ไม่มีเงินส่งลูกเรียน หรือส่งลูกให้เรียนได้สูงสุดได้เพียงชั้น ม.3 อีกต่างหาก

จากที่เขียนมาผู้อ่านก็อาจจะพอสังเกตเห็นแล้วว่า ก็จะมีแต่ “คนจนจริงๆ” เท่านั้นที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการถูกเกณฑ์ทหารได้เลย และหากซ้ำร้ายถึงขีดสุด บางครอบครัวอาจจะต้องสูญเสียลูกชายที่เป็นหัวหลักในการดูแลครอบครัวด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามหากเป็นลูกหลานคนที่มีเงินก็จะสามารถโลดแล่นบนอิสรภาพนอกค่ายทหารได้อย่างสบายใจ ดังนั้นแล้วพวกเราจึงกล่าวว่าค่ายทหารนั้นก็ไม่ต่างจากจากคุก ที่มีไว้เพื่อกักขังคนจนซะเป็นส่วนใหญ่

ในเมื่อการเกณฑ์ทหารนั้นสร้างความลำบากใจแก่คนทุกชนชั้น ไม่ว่าจะคนรวยที่พยายามหลบเลี่ยง หรือคนจนที่ต้องมารับเคราะห์ เหตุใดแล้วจึงยังต้องมีการเกณฑ์ทหารที่มาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนด้วย สู้ยกเลิกไปเลยไม่ดีกว่าหรือ เพราะถ้ากระทรวงกลาโหมมั่นใจว่าการเป็นทหารนั้นดีจริงอย่างที่กล่าว เหตุใดจึงมีคนจำนวนมากที่พยายามหลบหลีกการเป็นทหารอยู่กัน

ขณะที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิความเท่าเทียมทางเพศ อย่าง Demhope เข้ามาร่วมแสดงความเห็นต่อโพสต์ของกลุ่มทะลุฟ้า ด้วยว่า “จริงค่ะ สุดท้ายคนที่จะต้องไปอยู่ในค่ายทหารคอยรับใช้นายก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากทหารเกณฑ์ที่มีฐานะยากจน”

นอกจากนี้ กลุ่ม Demhope ยังโพสต์ข้อความผ่านทางแฟนเพจ Demhope เปิดพื้นที่ให้ลงชื่อเพื่ออำนวยในการจัดส่งเอกสาร สมัครเข้ากองทัพ ความว่า

“ใครสนับสนุนการเกณฑ์ทหารเชิญค่ะ เราเปิดพื้นที่ให้คุณได้แสดงความรักชาติแล้ว สามารถสมัครได้ทุกเพศ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image