กกต.ชักใบเหลือง 2 นายก อบจ. ‘ขวัญเรือน-พงษ์ศักดิ์’ ปมผู้ช่วยหาเสียงให้ซองบุญบวชพระ-หัวคะแนนให้เงินซื้อเสียง

กกต.ชักใบเหลือง 2 นายก อบจ. “ขวัญเรือน-พงษ์ศักดิ์” ปมผู้ช่วยหาเสียงให้ซองบุญบวชพระ-หัวคะแนนให้เงินซื้อเสียง

เมื่อวันที่ 13 เมษายน เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.กรณีมีมติให้ใบเหลืองนายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยให้สำนักงานฯ ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีใหม่ ตามพ.ร.บเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสองและให้ดำเนินคดีอาญากับนางปรีดา สมบุญศรี น.ส.วาสนา ระฆังทอง นางบุญช่วย ลาดบูลย์ น.ส.อรเพ็ญ กลางนุรักษ์ ผู้ช่วยหาเสียงตามมาตรา 65 (1) ประกอบมาตรา 126 วรรคหนึ่ง

โดย กกต.เห็นว่าปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าวันที่ 6 ธันวาคม 63 น.ส.อรเพ็ญ นางปรีดา น.ส.วาสนา ให้เงินคนละ 100 บาท และนางบุญช่วย ให้เงิน 1,000 บาทแก่ผู้อุปสมบท ในงานอุปสมบทที่วัดสุทธาวาส หมู่ 2 ต.โมถ่าย อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวในบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “อรเพ็ญ กลางนุรักษ์ ” พร้อมทั้งข้อความว่า “หาเสียงแห่นาคทุกอย่างทำด้วยใจ รักเต็มร้อยไปเลยค่ะ เบอร์ 6 สู้ๆค่ะ เข้าทุกประตูบ้านค่ะ วันนี้หมู่ 4 หมู่ 6” เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายพงษ์ศักดิ์ ซึ่งเข้าลักษณะเป็นการจัดทำให้เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณ เป็นเงินได้แก่ผู้ใดและช่วยเหลือเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ให้แก่ผู้ใดตามปกติประเพณีต่างๆ

ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนอยู่พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นมาตรา 65 (1) และระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2563 ข้อ 23 (5) แม้นายพงษ์ศักดิ์จะให้ถ้อยคำว่า ไม่รู้จัก และบุคคลทั้ง 4 ไม่ได้เป็นผู้ช่วยหาเสียงของตนเองตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าวแต่ก็เป็นการอ้างโดยไม่มีพยานหลักฐานมาสนับสนุนซึ่งการกระทำของบุคคลทั้ง 4 ส่งผลให้นายพงษ์ศักดิ์ได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้งเป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายพงษ์ศักดิ์เกิดจากการเลือกตั้งที่ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม

ขณะเดียวกัน กกต.มีคำวินิจฉัยให้ใบเหลืองนางขวัญเรือน เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว โดยให้สำนักงานฯ ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้วใหม่และสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายบุญเรือง ขุนหาญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสองและให้ดำเนินคดีอาญานายบุญเรืองตามมาตรา 65 (1) ประกอบมาตรา 126 วรรค 1

Advertisement

เนื่องจาก กกต.เห็นว่า พยานผู้ร้องและมารดาพยานซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เดียวกันต่างยืนยันว่าวันที่ 19 ธันวาคม 63 เวลา 07:00 น. นายบุญเรืองได้มาที่บ้านของพยานผู้ร้องและมารดาโดยนายบุญเรืองได้กล่าวข้อความตามปรากฏในคลิปวิดีโอประกอบคำร้องว่า “ทั้งสองสามคนนี่นะ มีใครอยู่ไอ้นั่น ไอ้นั่นของพ่อมัน” “ฝากเบอร์ 3 ด้วยนายก” “…เทียนทองให้ค่าน้ำมันรถคนละ 200” “ให้ค่าน้ำมัน เอาไป มีอะไร เดี๋ยวไปหาผู้ใหญ่ได้เลย” เข้าลักษณะเป็นการจัดทำให้เสนอให้สัญญาว่าจะให้หรือเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์ไปลงคะแนนให้แก่นางขวัญเรือน ไม่ใช่การพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับจำนวนสุนัขและแมวตามที่นายบุญเรืองกล่าวอ้าง

แม้นางขวัญเรือนให้ถ้อยคำว่าไม่ได้กระทำการตามที่ถูกกล่าวหา ไม่รู้จักกับนายบุญเรือง ไม่ทราบข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคลิปวิดีโอดังกล่าว ก็เป็นการกล่าวอ้างโดยไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวอ้าง ซึ่งการกระทำของนายบุญเรืองส่งผลให้นางขวัญเรือนได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้งเป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้วในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนางขวัญเรือนเกิดจากการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรมตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image