‘สีดาลุยไฟ’ กระหึ่มหน้า ปชป. เฟมินิสต์ปลดแอกแถลงจี้ 5 ข้อ ‘รัชดา’ ขอโทษ ปชช.
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 18 เมษายน ที่หน้าสำนักงานพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก กลุ่มเฟมินิสต์ฟูฟู และนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทางเพศ นำโดย ‘มีมี่’ ‘ต้นอ้อ’ และ ‘ทาทา’ นักกิจกรรมผู้เคลื่อนไหวเพื่อความเป็นธรรมทางเพศ ทำการแสดงเต้น ‘สีดาลุยไฟ’ 2 รอบเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
‘มีมี่’ ระบุว่า เนื้อเพลงสีดาลุยไฟสะท้อนถึงการโทษผู้เสียหายเมื่อเกิดความรุนแรงทางเพศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ควรมีใครถูกข่มขืน และคนที่ผิดคือคนที่กระทำ ไม่ใช่เหยื่อ
ต่อมา เมื่อเวลา 10.50 น. ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ ได้เข้าร่วมรับชมการแสดง ‘สีดาลุยไฟ’
ต่อมา เมื่อเวลา 10.53 น. ทางกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกได้อ่านแถลงการณ์ มีเนื้อหาระบุว่า
‘จากกรณีข่าวอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหาในคดีกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา โดยมีผู้เสียหายทยอยแจ้งความดำเนินคดี และอาจจะยังมีผู้เสียหายที่ยังไม่ออกมาดำเนินคดีดังที่มีคลิปเสียงออกมานั้น ผู้เสียหายหลายรายออกมาเปิดเผยถึงความรู้สึกหวาดกลัว เพราะว่าผู้ต้องหาเป็นบุคคลที่มีอิทธิพล
นับจากข้อมูลที่ปรากฏจากสื่อนับตั้งแต่เกิดเหตุที่ประเทศอังกฤษ ผู้ต้องหามีรูปแบบพฤติกรรมซ้ำอย่างชัดเจนด้วยการหลอกล่อ กักขัง กระทำชำเรา ซึ่งเป็นพฤติกรรมการข่มขืนต่อเนื่องหลังจากที่มีการแจ้งความดำเนินคดีและตกเป็นข่าวผู้ต้องหา เขาได้ประกาศลาออกจากการเป็นรองหัวหน้าพรรค แต่ท่าทีของพรรคและสมาชิกในพรรคกลับมีพฤติกรรมลดทอนความเจ็บปวดและความเสียหาย กระทำการซ้ำเติมผู้ที่ประสบความรุนแรงทางเพศ เช่น มีภาพแชตกลุ่มไลน์ชี้เป้าผู้ถูกกระทำ มีข้อความตั้งคำถามเพื่อโทษว่าเป็นความผิดของผู้ถูกกระทำ (Victim Blaming) เช่น ข้อความ “แปลกมากผู้หญิงสมัยนี้โดนข่มขืนตั้งนานเพิ่งมารู้สึกตัวตอนนี้” ซึ่งทำให้ผู้ถูกกระทำที่ลุกขึ้นมาเรียกคืนความยุติธรรมต้องเผชิญหน้ากับการถูกตัดสิน และการเหยียดเพศอย่างรุนแรงของสังคมส่งผลต่อสุขภาพกาย ใจ และสูญเสียความมั่นใจในตนเองเป็นอย่างมาก
อีกทั้งยังมีอดีต ส.ส.ร่วมพรรคออกมาให้ข่าวชื่นชมว่า การลาออกเป็นการแสดงความกล้าหาญ และที่แสดงถึงการใช้อิทธิพลพรรคในการลอยนวลพ้นผิด คือการที่โฆษกพรรคให้สัมภาษณ์ว่า พฤติกรรมดังกล่าวคือเรื่องส่วนตัว แต่กลับแต่งตั้งผู้ต้องหาในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ทั้งที่มีประวัติคดีความรุนแรงทางเพศที่ประเทศอังกฤษ สะท้อนให้เห็นการโอบอุ้มผู้ต้องหา และปล่อยให้การข่มขืนลอยนวล สะท้อนให้เห็นว่าเบื้องหลังความรุนแรงที่เกิดขึ้น มีครอบครัว สังคม คนในพรรค พรรคการเมือง และสถาบันทางสังคม ที่ทำให้ความรุนแรงเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำๆ จากการปล่อยผ่าน และอนุญาตให้ความรุนแรงคงอยู่ และทำให้เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ ทั้งๆ ที่การปฏิเสธความรุนแรงทางเพศเป็นจริยธรรมขั้นพื้นฐานที่ควรจะเกิดขึ้น
เรานักกิจกรรมเพื่อความเป็นธรรมทางเพศ ทั้งหญิง ชาย นอนไบนารี่ คนข้ามเพศ และเพศหลากหลาย (LGBTQIAN+) รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากที่พรรคการเมือง และนักการเมืองที่มีหน้าที่สร้างมาตรฐานและจริยธรรมทางเพศ กลับใช้แหล่งอำนาจของตนเองทำพฤติกรรมที่ลิดรอนสิทธิในร่างกาย และทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เช่นนี้ และเรารู้สึกกังวลว่าอิทธิพลของนักการเมืองและพรรคการเมืองจะ “ปิดปาก” จนเกิดความอยุติธรรม เพื่อยืนหยัดเคียงข้างผู้ถูกกระทำทุกคน เราจึงมาที่นี่เพื่อเรียกร้องให้
1.พรรคการเมืองสอบสวนข้อเท็จจริงการปกปิดประวัติอาชญากรรมของรองหัวหน้าพรรค
2.พรรคต้องตรวจสอบผู้สมัครและกรรมการบริหารทุกระดับในพฤติกรรมความรุนแรงทางเพศ
3.พรรคต้องมีกฎข้อบังคับในจริยธรรมของสมาชิกและกรรมการบริหารทุกระดับอย่างชัดเจนในเรื่องการไม่ล่วงละเมิดและใช้ความรุนแรงทางเพศทุกรูปแบบ
4.พรรคต้องไม่ใช้อิทธิพลทั้งทางตรงและทางอ้อมในการแทรกแซงคดีความ
5.พรรคต้องออกมาขอโทษประชาชนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นี่คือข้อเรียกร้องที่ไม่ได้เจาะจงเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นข้อเรียกร้องที่ส่งเสียงไปยังทุกพรรคการเมือง เพราะถ้านักการเมืองมีพฤติกรรมความรุนแรงทางเพศอย่างไร้ยางอายเช่นนี้แล้ว จะเสนอหน้ามาทำงานการเมือง ออกกฎหมายเพื่อความเป็นธรรมอย่างไรได้อีก’
หลังอ่านแถลงการณ์ทางกลุ่มได้ชักชวนให้ น.ส.รัชดา พร้อมคณะ ได้สแกนคิวอาร์โค้ดแถลงการณ์ เพราะเห็นว่าทางพรรคมีการใช้ไลน์กันอย่างรวดเร็ว เพื่อให้มีการส่งต่อแถลงการณ์ในพรรคอย่างรวดเร็ว
ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะตัวแทนรับเรื่องร้องเรียน เปิดเผยว่า พรรคยินดีรับข้อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรค พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองที่อยู่มายาวนาน เราจะไม่ปล่อยให้นักการเมืองไม่ว่าจะพรรคใดก็ตามมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงทางเพศ ส่วนเรื่องคดีความขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว จึงขอให้กฎหมายเป็นผู้ตัดสิน ส่วนผู้เสียหายพรรคจะมีทีมทนายความที่คอยช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเดินเคียงข้างกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก
ส่วนเรื่องการแสดงความคิดเห็นว่า คดีความของนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ เป็นเรื่องส่วนตัว น.ส.รัชดากล่าวว่า หากพฤติกรรมหรือคำพูดใดของคนในพรรคส่งผลต่อประชาชน ทางพรรคต้องขอโทษ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของบุคคลในพรรคเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้าย กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกชูนิ้วกลางหน้าป้ายไวนิลภาพนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป. หน้าที่ทำการพรรค
