ทิ้งทวน! ‘แรมโบ้’ นำประชุมแก้หวยแพง ชงนโยบายให้ คกก.ชุดใหญ่ 3 ข้อ เคาะ 27 เม.ย.นี้

วาระสุดท้าย ‘แรมโบ้’ ประชุมภารกิจแก้หวยแพง ชงนโยบายให้ คกก.ชุดใหญ่ 3 ข้อ เคาะ 27 เม.ย.นี้

เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 18 เมษายน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคากว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ว่าจากการทำงานของตนที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่แก้ไขปัญหาสลากเกินราคา เราต้องยอมรับความจริงว่าปัญหาคาราคาซังมาหลายยุคสมัย และวันนี้เป็นคณะกรรมการชุดเราที่ดำเนินการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาที่ค่อนข้างเป็นรูปธรรม ตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมการได้เริ่มทำงานตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงวันนี้ ประชุมกันอย่างไม่รู้หยุดเพื่อหาข้อเท็จจริง หาแนวทางต่างๆ เพื่อให้เกิดการควบคุมราคา โดยใช้รูปแบบทั้งการปรับเทคโนโลยี และการควบคุมกฎหมาย ซึ่งมติที่ประชุมในวันนี้จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ที่มี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันที่ 27 เมษายนนี้

ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติร่วมกันวันนี้ 1.การคัดสรรผู้ค้านอกระบบ โดยจากการสำรวจ 1 เดือนที่ผ่านมา พบผู้ค้าทั้งหมดโดยแบ่งเป็น ผู้ค้าในระบบ 3,000 กว่าราย และผู้ค้านอกระบบ 4,367 ราย โดยในกลุ่มนี้ไม่มีสลากเป็นของตนเอง ทั้งระบบซื้อจอง หรือโควต้า เขาใช้วิธีไปซื้อสลากมาขายต่อจึงต้องขายในราคาเกินกว่ากำหนด มติของที่ประชุมจึงจะนำรายชื่อผู้ค้านอกระบบทั้งหมดให้คณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการบอร์ดกองสลากให้ผู้ค้ากลุ่มนี้ได้รับสิทธิโควต้ากองสลาก เพื่อได้สลากในราคาต้นทุน ซึ่งจะยังมีข้อมูลเข้ามาเรื่อยๆ คาดว่ากว่าจะถึงวันเสนอชื่อจะมีเป็นหมื่นราย 2.การจำหน่ายโครงการสลาก 80 บาท 1,000 จุดทั่วประเทศ ที่ในส่วนของระดับอำเภอยังขาดผู้สมัครอยู่ ซึ่งสลากได้เดินทางไปแล้วทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ยังไม่ครบทุกอำเภอ ขณะนี้ขาดกว่า 300 กว่าอำเภอ จาก 900 กว่าอำเภอทั่วประเทศ ที่ประชุมจึงมีมติว่าตามโครงการเดิมเราใช้รูปแบบให้สิทธิแก่ตัวแทนสมัครเข้ามา แต่เมื่อตัวแทนไม่สมัครเราจะขยับไปให้สิทธิผู้ซื้อจอง แต่หากผู้ซื้อจองไม่สมัครก็เป็นผู้ค้านอกระบบ

Advertisement

พ.ท.หนุนกล่าวว่า และ 3.ตนได้มาเสนอที่ประชุมทราบความคืบหน้าในโครงการที่ดำเนินการมาแล้ว เช่น โครงการผู้ลงทะเบียนในส่วนซื้อจองปี 2558 ที่มียอดทั้งสิ้น 1.2 แสนกว่าราย ที่ทางสำนักงานกองสลากให้ทดลองสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อลงสมัครขายผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตังและถุงเงิน ซึ่งจากตัวเลข 1.2 แสนรายเ ขาไปใช้สิทธิดึงคิวอาร์โค้ดของตัวเองจากระบบ ซึ่งเราสามารถตรวจสอบได้ 60,000 กว่าราย หรือคิดเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งไปสมัครแอพพลิเคชั่นถุงเงินอีก 80,000 กว่าราย หรือคิดเป็น 67 เปอร์เซ็นต์ ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าผู้ขายเริ่มมีความตื่นตัวสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้

“1 เดือนที่ผ่านมามีการรายงานการสแกนคิวอาร์โค้ดที่แผงจุดขาย ซึ่งสำนักงานสลากได้เก็บข้อมูลไว้ 3 ล้านกว่าครั้ง คิดเป็น 53,000 กว่าราย ที่ซื้อสลากได้ในราคา 80 บาท นี่เป็นตัวเลขยืนยันว่าที่ผ่านมามีสลาก 80 บาท และมีตัวเลขอย่างน้อยที่เก็บได้ 53,000 กว่ารายทั่วประเทศ ขณะที่ในเรื่องของแพลตฟอร์มเราจะเริ่มในงวดวันที่ 16 มิถุนายน” พ.ท.หนุนกล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image