‘จุรินทร์’ เมินไขก๊อกหน.พรรคปชป. ปมปริญญ์ฉาว หวั่นทิ้งปัญหา รับพาเข้าพรรคเอง สอบไลน์หลุดเรื่อง ‘ชู้-กิ๊ก’ ในพรรค

“จุรินทร์” เสียงสั่น กราบขอโทษ “ปริญญ์” ฉาว ทำพรรคเสียหาย ยอมรับเป็นคนพาเข้าพรรคเอง ต้องรับผิดชอบ ให้ลาออกตอนนี้เหมือนหนีปัญหา แต่ประกาศลาออก 2 ประธานบอร์ดด้านเพศ พร้อมตั้งกรรมการ 2 ชุด วางมาตรการป้องกัน-สอบไลน์หลุดเรื่องชู้-กิ๊ก ในพรรค

เมื่อวันที่ 19 เม.ย. เวลา 09.20 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทยในฐานะรองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยรัฐมนตรีของพรรค และกรรมการบริหารพรรค ร่วมแถลงข่าวกรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศในหลายกรณี โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และขอกราบขอโทษต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ในสิ่งที่เกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของพรรค ในฐานะหัวหน้าพรรค ตนมีส่วนสำคัญในการนำนายปริญญ์เข้าพรรค แม้กระบวนการจะต้องผ่านการพิจารณาของกรรมการบริหารพรรค และผ่านการลงคะแนนให้ความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคก็ตาม หรือแม้แต่กรณีที่เราไม่อาจทราบล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเกิดในยุคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค ก็หนีไม่พ้นที่ตนจะต้องรับผิดชอบ และหนีไม่พ้นที่ตนต้องร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรคแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด

(ชมคลิป)

Advertisement

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า โดยพรรคมีจุดยืนชัดเจนในการต่อต้านการคุกคามทางเพศ ต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี คนในครอบครัว และการเลือกปฏิบัติเพราะเหตุความแตกต่างระหว่างเพศ สำหรับกรณีนายปริญญ์ พรรคจะไม่เข้าไปปกป้อง ขณะเดียวกันพรรคจะไม่เข้าไปแทรกแซงใดๆ ในกระบวนการยุติธรรม และพรรคจะไม่เพิกเฉยดูดายต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะดำเนินการ 1.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น แม้นายปริญญ์ลาออกจากพรรคและสมาชิกพรรคแล้วก็ตาม โดยคณะกรรมการมีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กำหนดมาตรการป้องกัน ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในพรรค นอกเหนือจากข้อกำหนด 21 ข้อที่มีอยู่แล้ว ในการตรวจสอบก่อนรับเป็นสมาชิกพรรค รวมถึงแก้ปัญหา และเยียวยาผู้เสียหาย โดยมอบหมายให้ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรค เป็นประธานคณะทำงาน

2.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีการโพสต์ในกลุ่มไลน์ของพรรค โดยมอบให้นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป

Advertisement

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่ตนดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ 2 ชุดในรัฐบาล ตนขอลาออกทั้ง 2 ตำแหน่งคือ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายสตรีแห่งชาติ โดยจะเรียนให้นายกฯทราบในที่ประชุม ครม.ต่อไป

เมื่อถามว่า ตั้งแต่เป็นหัวหน้าพรรคพูดได้หรือไม่ว่า กรณีนายปริญญ์ทำให้พรรคได้รับผลกระทบมาก นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะที่ตนดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต้องถือว่าทำให้พรรคได้รับผลกระทบ และส่งผลกระทบความเสียหายมากทีเดียว ส่วนกรณีการตรวจสอบการโพสต์เรื่องชู้สาวในกลุ่มไลน์ของพรรคจะดำเนินการอย่างไรนั้น กรณีดังกล่าวขอให้คณะกรรมการชุดของนายนราพัฒน์ ได้ทำหน้าที่ก่อน

เมื่อถามว่าทำไมถึงเพิ่งออกมาชี้แจง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้หลายครั้งแล้วตั้งแต่ต้น แต่อาจจะไม่เป็นประเด็นใหญ่ และตนอยู่ในช่วงไปปฏิบัติภารกิจในต่างจังหวัด แต่ก็ได้มอบหมายบุคลากรของพรรคออกมาแถลงข่าวหลายครั้งก่อนหน้านี้

เมื่อถามว่ามีการพูดคุยกับนายศุภชัย พานิชภักดิ์ บิดาของนายปริญญ์บ้างหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คุยกับนายศุภชัย เพราะท่านไม่สะดวกรับโทรศัพท์ ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แล้วว่านายศุภชัยไม่มีส่วนไปเกี่ยวข้องและไม่ใช่คนที่จะไปใช้อำนาจหรืออิทธิพลแทรกแซงใดๆ

ต่อข้อถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะทำให้ผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นไปโดยลำบากหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนไม่สามารถตอบใดๆ แต่ตราบใดที่เป็นหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ ต้องผลักดันให้พรรคเดินต่อไปข้างหน้า และเมื่อมีอุปสรรค ก็ต้องแก้ปัญหา เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง เราก็จะต้องทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ และหวังว่าในอนาคตจะได้รับเสียงตอบรับที่ดีขึ้นจากคนไทยทั้งประเทศ แต่สถานการณ์นี้อาจจะทำให้พรรคได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะตนที่จะต้องผ่านมันไปให้ได้ โดยจะขับเคลื่อนพรรคไปในทิศทางที่ดีที่สุด

เมื่อถามว่ามีกระแสสังคมเรียกร้องให้คณะกรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรคแสดงความรับผิดชอบ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราได้ไตร่ตรอง 2 แนวทาง แต่สุดท้ายก็มี 2 มุม หากอยู่ๆ ก็ลาออกแล้วทิ้งปัญหาไว้ ก็จะเป็นการหนีปัญหา นั่นคือความไม่รับผิดชอบ เราต้องแก้ปัญหาให้ลุล่วง ไม่ใช่ทิ้งปัญหาให้คนรุ่นหลัง

เมื่อถามว่าทราบว่ามีการเตือนว่าไม่ควรรับนายปริญญ์เข้าพรรคทำไมยังรับเข้ามา ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามีพฤติกรรมอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ขอย้อนไปพูดในเรื่องจะไปพาดพิงถึงใครก็ตาม แต่ขอเรียนว่าตนมีส่วนสำคัญในการพานายปริญญ์เข้ามาในพรรค ซึ่งตนต้องรับผิดชอบ และเป็นบทเรียนในการคัดคนเข้าพรรคในอนาคตควรจะแก้ไขอย่างไรบ้าง นอกเหนือจาก 21 ข้อตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งต่อไปพรรคต้องเข้มงวดมากขึ้นในการตรวจสอบคุณสมบัติ และคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นในพรรค เพราะพรรคเป็นเอกภาพ การถกเถียงกันก็เป็นเรื่องปกติ

เมื่อถามถึงผลกระทบต่อการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ทางพรรคจะแก้สถานการณ์อย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่รองผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.และสก.ของพรรค ตัวผู้สมัคร และทีมงาน ในการดำเนินการ ส่วนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในพรรคจะเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ รองผู้อำนวยการเลือกตั้ง และตัวผู้สมัคร ทำงานอย่างเข้มแข็ง ส่วนผลจะออกมาอย่างไร มั่นใจว่าทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ส่วนผลโพลที่ออกมานั้นก็มีทั้งบวกและลบซึ่งเป็นเรื่องปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าเก้าอี้หัวหน้าพรรคสั่นคลอนเพราะเรื่องนายปริญญ์หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า หลักของตนคือเน้นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด เมื่อได้ทำหน้าที่ ส่วนเก้าอี้สั่นคลอนหรือไม่ ไม่ขอตอบ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเกมการเมืองหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง แต่ตนไม่ขอให้ความเห็นกับคำถามนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image