มีความมั่นใจเป็นอย่างสูงว่า ฮิลลารี คลินตัน จะต้องกำชัยเหนือ โดนัลด์ ทรัมป์ อย่างแน่นอน
เป็นความมั่นใจจาก “สื่อ”
“น้ำเสียง” ในการพาดหัว “แนวโน้ม”ในการนำเสนอบทรายงานจึง “เอน”ไปตามความมั่นใจ
ทั้งๆที่รู้กันว่า กระบวนการ”เลือกตั้ง” มากด้วยความซับซ้อน
ซับซ้อนเพราะว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “วิทยาศาสตร์สังคม” มิได้เป็น “วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ”
วิทยาศาสตร์ธรรมชาติอาจกำหนดได้จาก”สูตร”
และเมื่อนำองค์ประกอบอันเป็นสูตรนั้นไปทดลองในห้อง”แล็บ” ผลก็จะดำเนินไปตามนั้น หรือถึง “คลาดเคลื่อน” ก็ไม่มากนัก
แต่ “วิทยาศาสตร์สังคม” มี “สังคม”เป็นเหมือนกับ”ห้องทดลอง”
จึงยากแก่การ”คาดหมาย” จึงยากแก่การ”ฟันธง”
มีตัวอย่างมากมายอันสะเท้อนถึงสภาวะพลิกผันอันเนื่องจากกระ บวนการออกเสียงในทางการเมือง
อย่างเช่นกรณี”ประชามติ”ที”สหราชอาณาจักร”
มีความเชื่อมั่นค่อนข้างสูงว่า ฝ่ายที่ต้องการอยู่กับสหภาพยุโรปน่าจะชนะ
แต่ผลก็คือ ฝ่ายต้องการ”ออก”กลับชนะ
หรือการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศไทยเมื่อเดือนมกราคม 2544
ใครๆก็เชื่อว่า พรรคไทยรักไทยไม่น่าจะ”ชนะ”
เพราะ 1 เป็นพรรคการเมืองใหม่ และ 1 ซึ่งสำคัญหัวหน้า พรรคเพิ่งถูกคำวินิจฉัยจาก ป.ป.ช.ว่าทุจริตในการแจ้งบัญชีทรัพย์ สินและหนี้สิน
เรียกได้ว่า “ร่าง”เลอะไปด้วย”โคลนตม”
พรรคประชาธิปัตย์คึกคักอย่างยิ่ง พรรคชาติพัฒนา นายกร ทัพพะรังสี แสดงความพร้อมจะเป็น”นายกรัฐมนตรี”
แล้วผลออกมาเป็นอย่างไร
กระนั้น กล่าวสำหรับการสัประยุทธ์ระหว่าง ฮิลลารี คลินตัน กับ โดนัลด์ ทรัมป์
ยิ่งใกล้วันที่ 8 พฤศจิกายน สังคมยิ่ง “มั่นใจ”
1 อาจประเมินจากผลโพลระลอกแล้วระลอกเล่าที่ฝ่ายแรกนำหน้าฝ่ายหลังมาโดยตลอด
ยิ่งโพลหลัง”ดีเบต” ยิ่งแจ่มชัด
แจ่มชัดกระทั่ง “สื่อหนังสือพิมพ์”ระดับ นิวยอร์คไทมส์ ระดับ วอชิงตัน โพสต์ เริ่มเอนเอียง
ขณะเดียวกัน 1 แห่งความมั่นใจอย่างยิ่งยวด กลับเป็นท่าทีของ โดนัลด์ ทรัมป์ เอง ที่แสดงความไม่แน่ใจว่าการเลือกตั้งจะดำเนินไปอย่างบริสุทธิ์ เที่ยงธรรมหรือไม่
ตรงนี้แหละคือ “อาการ” อันมาจาก โดนัลด์ ทรัมป์ เอง
