“ศุภชัย” แจงยิบ เกรียนคีย์บอร์ด บิดเบือน พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ยันประโยชน์ตกกับ ปชช. ย้ำกฎหมายแยกชัดเจน ครัวเรือน ธุรกิจ
เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนสมาชิก พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีมีการบิดเบือนรายละเอียดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง เอื้อนายทุนว่า พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่พรรค ภท.ยื่นให้รัฐสภา เพราะต้องการให้ประเทศในสหประชาชาติ หรือนานาชาติ ได้เห็นว่ากัญชาของประเทศไทย ยังมีการได้รับการดูแลโดยภาครัฐ ซึ่งไม่มีข้อความใดเลยที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ประชาชนผู้ที่จะทำธุรกิจ ทุกคนมีสิทธิเหมือนกัน ทั้งนี้ มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องอัตราค่าธรรมเนียมที่สูงซึ่งในมาตรา 19 เขียนไว้ว่า เพื่อประโยชน์ในกระบวนพิจารณาอนุญาตให้รัฐมนตรี โดยคำแนะนำของคณะกรรมการมีอำนาจประกาศกำหนด
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า ซึ่งประเด็นประเภทและค่าใช้จ่ายที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจตามหน้าที่อนุญาตหน้าที่ และอำนาจหรือหน่วยงานของผู้ที่เลขาธิการมอบหมาย รวมถึงในกรณีจัดเก็บจากผู้ยื่นคำขอในกระบวนการพิจารณาอนุญาต โดยจะจัดเก็บได้ไม่เกินอัตราค่าธรรมเนียมท้าย พ.ร.บ.ฉบับนี้ สำหรับประชาชนที่รวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชน คือ สหกรณ์ เรื่องการขออนุญาตในการขอปลูกอาจจะไม่เกินใบอนุญาตละ 100 บาท ก็เป็นอำนาจ แต่ห้ามเกิน 50,000 บาท ซึ่งหากเกินจะถือว่าผิดกฎหมาย
“พวกท่านไม่เข้าใจ ท่านบอกว่าแปลว่าต้องจ่ายเงิน 50,000 บาท มันไม่ได้มีตรงไหนเลย เขียนไว้กำหนดเพื่อไม่ให้มีการออกนะ ท่านคิดว่าใครเขาจะไปออกให้มันแพง ถามว่าหากผมเป็นรัฐมนตรี ท่านต้องการที่จะสนับสนุนให้ประชาชนได้ประโยชน์ก็มีสิทธิ แต่ถ้าเราเข้าใจท่าน คิดว่าท่านจะมาทำธุรกิจเรื่องนี้ มันจะมาตีตั๋วเด็กได้หรือ เรื่องค่าธรรมเนียมเป็นของนักธุรกิจ แต่ส่วนประชาชนปลูกได้ไม่ต้องเสียสักบาทหนึ่ง” นายศุภชัยกล่าว
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า ในหมวด 4 เรื่องการจดแจ้งและรับจดแจ้งการใช้ประโยชน์จากกัญชาอยู่ในอันนี้ คือ ครัวเรือน ประชาชนใช้ประโยชน์จากครัวเรือนซึ่งคือ การเพาะปลูกเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล หรือเพื่อดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง และครอบครัวที่อยู่อาศัยที่อยู่ในอาศัยเดียวกัน นอกจากนี้ ยังเขียนไว้ด้วยว่า การจดแจ้งหนี้ต้องทำอย่างไร ผู้รับจดแจ้งหมายถึงอะไร ซึ่งเป็นเรื่องของครัวเรือน แต่หากจะทำธุรกิจต้องไปที่หมวด 5 คือไม่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ทั้งนี้มีการไปโจมตีว่า กฎหมายฉบับนี้ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานมีอำนาจมาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่คนเป็นเจ้าพนักงาน เขาก็ย่อมมีอำนาจตามกฎหมายที่เขียนไว้ ถ้ากระทำถูกโดยสุจริต ต่อให้มีอำนาจก็มาดำเนินการอะไรกับเราไม่ได้ ในทางกลับกันการเป็นเจ้าพนักงาน หากทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญาก็มีสิทธิที่จะถูกดำเนินคดีโทษหนักกว่าเจ้าหน้าที่ทั่วไป
“หากผมไม่เขียนไว้ว่าให้เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ถ้าเขาบุกเข้ามาในในฟาร์มของคุณ คุณจะไม่สามารถดำเนินคดีได้ ซึ่งผมเป็นผู้แทนราษฎร ผมพูดเสมอว่าถ้าผมเขียนให้นายทุนได้ประโยชน์ ซึ่งนายทุนมีอยู่ 1 คน เดินเข้าคูหากาบัตรให้ผมได้แค่คนเดียว แต่ผมเป็นพรรคการเมือง ผมอยากได้คะแนนจากคนที่เขาชื่นชอบในสิ่งที่ผมทำให้พี่น้องประชาชน อยากได้คะแนนนิยมจากพี่น้องประชาชนที่เห็นว่า สิ่งที่ผมทำให้ หรือผมพูดแล้ว ผมทำแล้ว” นายศุภชัยกล่าว
นายศุภชัยกล่าวทิ้งท้ายว่า พรรค ภท.หาเสียงมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง หากมีคนไม่พอใจท่านสามารถเดินเข้าไปในพรรคการเมืองใดก็แล้วแต่ และขอเสนอตัวเข้าไปเป็นคณะกรรมาธิการจากพรรคการเมืองนั้น เพราะวันนี้กฎหมายกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร พวกเราไม่เคยปล่อยกฎหมายอะไรที่ไม่ดีออกมา เพื่อบังคับใช้ในแผ่นดินนี้ ตนมีเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ไม่ทำการใดที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน