ศิริกัญญา จับโป๊ะ หนี้ติดค้างก้อนโต1ล้านล้าน ไม่ยอมเปิดข้อมูลต่อสาธารณะ ไม่ถูกสภาตรวจสอบ

ศิริกัญญา จับโป๊ะ หนี้ติดค้างหน่วยงานรัฐ 1 ล้านล้าน ชี้ ตามติดหนี้ก้อนนี้มาตลอด ไม่ยอมเปิดข้อมูลต่อสาธารณะ  รายงานความเสี่ยงการคลังไม่ยอมเผยแพร่เรื่องนี้มาสองปีแล้ว กมธ.เคยทวงถามก็ไม่ให้ข้อมูลปัจจุบัน ล่าสุดอ้างข้อมูลลับ 

เมื่อวันที่ 19 เมษายน ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อคำชี้แจงของกระทรวงการคลังเรื่องหนี้ที่ติดค้างของหน่วยงานรัฐ โดยระบุว่า ไม่ได้ซุกแต่ก็ไม่เปิดเผย ไม่นับเป็นหนี้สาธารณะ แต่ต้องเปิดต่อสาธารณะ

จากกระทรวงการคลังออกมาชี้แจง เรื่องหนี้ที่ติดค้างหน่วยงานรัฐต่างๆ อยู่ 1 ล้านล้านบาทว่าไม่ได้ซุกหนี้ดังกล่าว มีการเปิดเผย และภาระหนี้ดังกล่าวไม่ได้ถูกบันทึกเป็นหนี้สาธารณะตามนิยามของหนี้สาธารณะตามกฎหมาย

ดิฉันได้ติดตามหนี้ก้อนหนี้มาโดยตลอด และทราบดีว่าข้อมูลนี้ไม่ได้มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ ว่ารัฐบาลติดหนี้หน่วยงานรัฐไหนบ้าง ภาระหนี้ของแต่ละแห่งเป็นจำนวนเท่าไหร่ และมีแผนการใช้คืนหนี้อย่างไร กระทรวงการคลังอ้างว่าได้เปิดเผยไว้ในรายงานความเสี่ยงทางการคลัง แต่รายงานนี้ที่ปกติจะนำขึ้นเว็บไซต์ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังทุกปี ปัจจุบันไม่ได้มีการเอาขึ้นเว็บมา 2 ปีแล้ว

Advertisement

คณะกมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจเคยเรียกสำนักงานเศรษฐกิจการคลังมาชี้แจง แต่กลับให้ข้อมูลที่ไม่เป็นปัจจุบัน บอกแค่สัดส่วนคร่าวๆ เมื่อสอบถามข้อมูลล่าสุด กลับอ้างว่าเป็นข้อมูลลับ ที่จะเปิดเผยต่อคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังแห่งรัฐเท่านั้น

เมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่งมีการขยายกรอบเพดานให้กู้ได้เพิ่มเป็น 35% ของงบประมาณรายจ่าย จากเดิม 30% เพื่อให้มีงบไปใช้ในโครงการประกันรายได้เพียงพอ โดยสถานะปัจจุบัน มีการกู้ไปจนถึง 34.2% ของงบประมาณแล้ว เรียกได้ว่าขยายเพดานปุ๊บ ก็กู้จนปริ่มเพดานอีกแล้ว

หนี้ที่ติดค้างหน่วยงานรัฐ 1.06 ล้านล้านบาทนี้ คืองบที่เอามาใช้ประกันรายได้ จำนำข้าวอุดหนุนดบ.ธนาคารรัฐ ราวแสนกว่าล้านบาทในแต่ละปี เมื่อใช้เงินนอกงบประมาณ โครงการพวกนี้ก็จะไม่อยู่ในเอกสารงบประมาณประจำปี ไม่ถูกตรวจสอบจากสภา จะมาเห็นอีกทีเมื่อตั้งงบประมาณประจำปีเพื่อใช้หนี้ในอดีต โดยเจ้าหนี้รายใหญ่คือธกส. ยอดหนี้รวมเกือบ 9 แสนล้าน ในปีงบ 65 มีการตั้งงบใช้หนี้ธกส. 69,000 ล้านบาท ส่วนในปีงบ 66 ตั้งงบส่วนนี้ไว้สูงถึง 84,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าใช้หนี้น้อยเกินไป ก็จะขอกู้ธกส.เพิ่มไม่ได้แล้วเพราะติดกรอบเพดานที่ 35%

Advertisement

จึงต้องมาลุ้นกันดูค่ะว่า รัฐบาลจะใช้วิธีขยายกรอบเพดานไปเรื่อยๆ หรือจะผลักความเสี่ยงไปให้เกษตรกรที่รอเงินจากโครงการประกันรายได้แทน และถึงแม้จะไม่อยากให้สภาตรวจสอบ อย่างน้อยก็ควรเคารพเจ้าของภาษีอย่างประชาชนคนไทย โดยการเปิดเผยข้อมูลหนี้ส่วนนี้ให้เป็นสาธารณะก็ยังดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image