‘อนุทิน’ ชี้ กปน.ดุลพินิจผิด อาจเสียหาย หลังบัญชีกลาง รับอุทธรณ์ ปมโรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์

‘อนุทิน’ ชี้ กปน.ดุลพินิจผิด อาจเสียหาย หลังบัญชีกลาง รับอุทธรณ์ ปมโรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ 6.5 พันล้าน ยันไม่เอื้อประโยชน์ใคร สั่งกมธ.ภท. สอบโครงการประมูล

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีบริษัทที่แพ้การประมูล โครงการก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำ ที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ วงเงิน 6.5 พันล้านบาท ของการประปานครหลวง (กปน.) มาปรึกษา ว่า อยู่ในวงการก่อสร้างมา 20-30 ปี รู้จักผู้ประกอบการเหล่านี้ดี ที่มาอยู่ตรงนี้เมื่อมีเรื่อง ค่อนข้างไม่โปร่งใส ส่อไปทางทุจริต มีเรื่องช่วยเหลือคนที่แพ้มาให้ชนะ จึงทำให้ผู้ประกอบการมาร้องเรียนในฐานะที่เป็น ส.ส. พรรค ภท. ไม่ใช่ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

อย่างกรณีนี้ผู้ประกอบการมาร้องเรียนว่า กปน. ใช้การตัดสิทธิผู้ประมูลที่ให้ราคาต่ำสุด 2 รายแรกโดยอ้างเรื่องคุณสมบัติ แล้วตัดสินใจทำสัญญากับผู้ที่เสนอราคาต่ำเป็นอันดับที่ 3 ซึ่งได้ให้คำแนะนำผู้ประกอบการที่ถูกตัดสิทธิ ว่ามั่นใจว่าเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ของตัวเองถูกต้องก็ไปใช้สิทธิอุทธรณ์ ซึ่งเบื้องต้นมีการอุทธรณ์ที่ กปน. แต่ไม่รับอุทธรณ์ จึงอุทธรณ์ต่อที่กรมบัญชีกลางกระทรวงการคลัง กระทั่ง ทราบมาว่าผลอุทธรณ์ฟังขึ้นแล้ว กรมบัญชีกลางได้ส่งเรื่องไปที่ กปน.เพื่อดำเนินการให้ถูกต้อง

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอบคุณกรมบัญชีกลางที่รับอุทธรณ์ เรื่องนี้ เพราะถ้าปล่อยไปจะสร้างความเสียหายให้แก่ภาษีประชาชน เพราะผู้ชนะประมูลเสนอราคากว่าเจ้าอื่น 300 กว่าล้าน และเรื่องนี้หากการใช้ดุลพินิจถูกกรมบัญชีกลางคงไม่รับอุทธรณ์ เรื่องนี้ถือเป็นความชัดเจนว่า เกิดจากการใช้ดุลพินิจไม่ถูกต้อง ดังนั้น การใช้อำนาจรัฐต้องพึงระวัง เพราะอาจเกิดความเสียหายต่อรัฐ ขอให้เลิกเสียทีการแข่งขันยิ่งเปิดกว้างรัฐก็ได้ประโยชน์ และเรื่องนี้สังคมต้องตรวจสอบ อย่าเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ป้องกันเรื่องเช่นนี้

Advertisement

“ในฐานะส.ส.ได้แจ้ง ส.ส.พรรค ภท. ที่อยู่ในคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง ต้องสืบสาวราวเรื่องคนที่ทำผิดและโกงบ้านโกงเมืองต้องไม่มีที่ยืน และจุดยืนของพรรค ภท. คือลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน และเรื่องนี้ผมไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือเอื้อประโยชน์ให้ใครหรือคนใกล้ชิดได้ชนะ และไม่ต้องห่วงว่ามีอะไรเกี่ยวข้องกับผม เพราะตั้งแต่ร่วมรัฐบาลชุดนี้มา ผมก็ไม่ใช่ผู้ประกอบการแล้ว หรือแม้แต่ผู้ถือหุ้นเพราะขายหมดแล้ว” นายอนุทิน กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image