‘เพื่อไทย’ จัดประชุมใหญ่ ย้ำ ‘แลนด์สไลด์’ สู่ รบ.แก้ปัญหาประเทศ ‘อิ๊งค์’ ส่งการบ้าน 5 ข้อใหญ่

เพื่อไทย

‘เพื่อไทย’ จัดประชุมใหญ่ ย้ำ ลต.ต้องแลนด์สไลด์ สู่ รบ.แก้ปัญหา ปท. ‘อิ๊งค์’ ส่งการบ้าน 5 ข้อใหญ่

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 เมษายน ที่ชั้น 7 พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรค พท.จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 มีแกนนำ ส.ส. และสมาชิกพรรค เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง โดยช่วงเช้ามีแกนนำพรรค พท.ประกอบด้วย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย (ทรท.), นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัว พท. ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ถึงอนาคต ที่ พท.อยากทำให้ประชาชน พ้นจากวิกฤตหลุมดำ ทั้งนี้ ก่อนเข้างานพรรคได้มีการตรวจเอทีเคกับผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนตามมาตรการสาธารณสุข

นายจาตุรนต์กล่าวว่า วิกฤตของประเทศ 10 กว่าปีมานี้มีเรื่อง ทรท. เกี่ยวข้องด้วย ในฐานะตัวแสดง และผู้ถูกกระทำ แม้พรรคจะถูกยุบไปแล้ว อุดมการณ์และจิตวิญญาณยังอยู่ ถ้าท่านมีหัวใจที่คิดถึงประชาชน แปลว่าท่านยังมีจิตวิญญาณของ ทรท.อยู่ เพราะ ทรท.หัวใจคือประชาชน ทั้งนี้ ต้นตอวิกฤตมาจากการทำรัฐประหารในปี 49 ที่ต้องทำรัฐประหารเพราะต้องการเลิกใช้รัฐธรรมนูญ 40 เพราะ ทรท.กลายเป็นพรรคที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากการทำตามนโยบาย ที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน แก้ปัญหาความยากจน เขาทำรัฐประหารเพราะไม่อาจทนดูประชาชนกำหนดความเป็นไปของประเทศ และกำหนดนโยบายได้อีกต่อไป

“ทรท.พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ซากปรักหักพัง เราเป็นพรรคการเมืองแรกที่ชูธงประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการร่วมกับผู้รักประชาธิปไตยตั้งพรรคพลังประชาชน ซึ่งชนะการเลือกตั้ง ตบหน้าเผด็จการอีก เมื่อพรรคพลังประชาชนเข้ามาเป็นรัฐบาล เสนอนโยบายที่จะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยก็ถูกยุบอีก แต่อุดมการณ์ของประชาชนฆ่าไม่ตาย จึงเกิดพรรค พท.ขึ้นมาอีก พรรค พท.ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องคนเสื้อแดง และพี่น้องที่รักประชาธิปไตย การเลือกตั้งปี 54 ผลก็ยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยน พรรค พท.ชนะการเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล แล้วก็เกิดเหตุการณ์แบบเดิม มีข้ออ้างเข้ามาทำรัฐประหารอีก ซึ่งพรรค พท.คัดค้านการทำรัฐประหาร เราต่อสู้จนติดคุกเป็นกลุ่มแรกๆ ตลอด”

Advertisement

นายจาตุรนต์กล่าวอีกว่า ประเทศของเรามีความท้าทาย 8 ข้อ คือ 1.เศรษฐกิจตกต่ำ โตช้า ฟื้นช้า 2.ความยากจนที่มาเจอกับภาวะของแพง ค่าแรงถูก 3.หนี้สาธารณะสูง แต่เงินถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า 4.ความเหลื่อมล้ำติดอันดับต้นๆ ของโลก 5.ขีดความสามารถของประเทศต่ำ ล้าสมัย ไม่ทันโลก ไม่มีอนาคตสำหรับเยาวชนของชาติ 6.สังคมสูงวัยที่กำลังจะมาถึง 7.โลกร้อนที่ใกล้เข้ามาทุกทีแต่ไม่มีการจัดการ และ 8.การไม่มีเสรีภาพของประชาชน ความไม่เป็นประชาธิปไตยของประเทศ เราเจอความท้าทายใหญ่ 8 ข้อ แต่เรามีรัฐบาลแบบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ข้อเดียวก็แก้ไม่ได้ พรรค พท.จึงมีภารกิจแก้ปัญหาโดยการผลิตนโยบาย แล้วนำนโยบายไปปฏิบัติ เพราะสังคมเชื่อว่า พท.เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ นโยบายเราจะทำได้จริง

“ขณะเดียวกันต้องมีความต่อเนื่องในการต่อสู้กับเผด็จการ ทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย นี่คือภารกิจของพรรค พท.ทั้งพรรค ผู้สนับสนุนพรรค พท.ทุกคนต้องถือว่านี่คือภารกิจของพรรค สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าพรรค พท.ไม่ได้เป็นรัฐบาล ดังนั้น การเลือกตั้งที่จะมาถึง เราบอกกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาเลยว่าถ้าต้องการแก้ปัญหาความเดือดร้อน ต้องให้ พท.เป็นรัฐบาล และไม่ใช่ชนะธรรมดา ต้องชนะแบบถล่มทลาย แลนด์สไลด์ทุกพื้นที่ แล้วเราจะทำให้เห็นว่าพรรค พท.ทำได้ และจะทำให้ดีกว่าในอดีตที่ผ่านมาด้วย”

Advertisement

นายชัยเกษมกล่าวว่า เหตุการณ์ชุมนุมของ กปปส.ปี 56-57 มีการบุกรุกสถานที่ราชการ เจ้าหน้าที่ใช้เวลารวบรวมหลักฐานกว่าจะจับกุมแกนนำบางส่วนได้ แต่เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาด้วยสันติ กลับถูกใช้กำลังปราบปรามจากเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง เป็นการใช้อำนาจล้นเกิน ขณะที่แกนนำพรรคการเมืองหนึ่งกระทำอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเรา กระทำผิดหลายครั้งหลายราย ศาลกลับให้ประกันตัว ขณะที่คดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ศาลกลับไม่ให้ประกันตัว เห็นความแตกต่างหรือไม่ ไม่มีมาตรฐาน กฎหมายไทยทุกวันนี้สร้างความเจ็บแค้นให้ประชาชนมากแค่ไหน ซึ่งกฎหมายต้องอำนวยความสะดวกและพัฒนาประเทศ เช่น

รัฐธรรมนูญปี 40 ที่สร้างการเมือง เศรฐกิจที่ดี มีกระบวนการยุติธรรมที่ดี ได้รัฐบาลไทยรักไทยที่มาจากประชาชน เมื่อรัฐธรรมนูญปี 40 ถูกฉีก องค์กรอิสระก็ไม่อิสระ และเมื่อรัฐธรรมนูญปี 50 ถูกฉีกอีก เกิดรัฐธรรมนูญ 60 ที่มี ส.ว. 250 คนสร้างวิกฤต ขณะที่รัฐบาลชุดใหม่ก็ไม่มีความรู้ กฎหมายกลายเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้อย่างบิดเบี้ยว ตลอด 8 ปียังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่เป็นฝันร้ายของประชาชน รัฐธรรมนูญปี 60 ถูกสร้างขึ้นมาโดยคนกลุ่มเดิมที่ขโมยอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และอยู่เพื่อรักษาอำนาจต่อไปเรื่อยๆ ประชาชนถูกปิดหูปิดตา รัฐธรรมนูญ 60 ถือเป็นวิกฤตของชาติ ไม่เห็นหัวประชาชน ถ่วงความเจริญของประชาธิปไตย และแก้ไขได้ยากเพราะมีเงื่อนไขให้ ส.ว.ต้องเห็นชอบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

“ปมแรกคือต้องแก้รัฐรรมนญปี 60 เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชนอีกครั้ง ต้องแก้ที่มาของนายกฯ แก้เรื่องการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน คุ้มครองสิทธิในการแสดงความเห็น คุ้มครองสิทธิในการชุมนุม ผมเคยเสนอแก้กฎหมายให้การปฏิวัติมีความผิดฐานเป็นกบฏ ไม่ก่อให้เกิดอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ และต้องไม่มีอายุความ แต่ด้วยเราเป็นเสียงข้างน้อยในสภา เราไม่มี ส.ว.แต่งตั้ง ทำให้ร่างรัฐธรรนูญของพรรค พท.ตกไป แต่ยืนยันว่าเราจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 เพื่อสร้างชีวิตที่ดีให้ประชาชน ทำให้เรากลับมายืนบนเวทีโลกได้อย่างสง่างาม ดังนั้น เราจะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 อนาคตข้างหน้ารัฐรรมนูญต้องพร้อมรับใช้ประชาชน ปิดทุกช่องโหว่ที่จะให้เผด็จการกลับมางอกเงย ดังนั้น ขอเรียกร้องประชาชนแลนด์สไลด์เพื่อไทย เพื่อรัฐรรมนูญฉบับประชาชน” นายชัยเกษมกล่าว

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ท่านจาตุรนต์ ท่านชัยเกษม ได้ฉายภาพความสิ้นหวังของประเทศ ที่เกิดจากคนเพียงกลุ่มหนึ่งที่เสพติดอำนาจ ทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจไว้ โดยที่ประเทศและประชาชนเป็นเหยื่อของการแสวงหาอำนาจนั้น หัวใจหลักของการตรึงอำนาจคือ การสร้างรัฐธรรมนูญที่ผูกขาดอำนาจไว้กับรัฐราชการ และพวกพ้อง กฎเกณฑ์ กติกา และระเบียบกฎหมายที่เขียนขึ้นขาดความเท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลง เป็นอุปสรรคอย่างสำคัญยิ่งต่อการแก้ปัญหาชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน ที่น่ากลัวกว่านั้นคือรัฐธรรมนูญฉบับนี้วางกลไกให้คนไทยต้องอยู่กับรัฐบาลที่ไร้ศักยภาพ ไม่สร้างความหวัง ไม่สร้างอนาคตให้พี่น้องประชาชน 8 ปีกับคณะปกครองชุดนี้ เราได้พบเจออะไรบ้าง

1.วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ คนจนล้นประเทศ คนรวยกระจุกนิดเดียว หนี้ครัวเรือนสูงสุดในประวัติศาสตร์ ธุรกิจปิดตัวล้มตาย 2.วิกฤตสาธารณสุขครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ จากการรับมือที่ผิดพลาด บกพร่อง ปล่อยประชาชนเผชิญกับภัยของโรคระบาดตามยถากรรม 3.วิกฤตผู้นำที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมโลก สร้างความอับอายให้ประเทศ การต่อรองทางการทูต เจรจาค้าขายที่ประชาชนควรได้รับหายหมด

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า 4.วิกฤตการเมือง วิกฤตประชาธิปไตยที่เสื่อมโทรม รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจที่แย่ที่สุด การละเมิดสิทธิมนุษชนทำลายผู้เห็นต่างโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ทำลายระบบรัฐสภาด้วยการทำลายพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ซื้อขายตัวนักการเมือง ซื้อเสียงด้วยการแจกกล้วย ทำลายมาตรฐานทางการเมืองที่ควรจะเป็นอย่างรุนแรงมากสุดเป็นประวัติการณ์ 5.วิกฤตหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติ เงินที่กู้มาไม่ได้สร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ไม่สร้างรายได้ หนี้สาธารณะของประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดับฝันอนาคตลูกหลานด้วยหนี้ก้อนโตที่ฉุดรั้งการพัฒนาประเทศในระยะยาว 6.วิกฤตคอร์รัปชั่นที่รุนแรงมากที่สุดเท่าที่ประเทศเคยมีมา นี่คือ 6 หลุมดำที่ประเทศไทย และพี่น้องประชาชนคนไทยต้องทรมานภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เราไม่อาจยอมรับชะตากรรมเช่นนี้ได้อีกต่อไป ถึงเวลาต้องออกจากวิกฤต ทางออกเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกไป พรรค พท.ต้องกลับมา ทำอย่างไรเราถึงจะสามารถออกจากหลุมดำที่วิกฤตเหล่านี้ได้

“พรรค พท.คือทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะพาพี่น้องชาวไทยออกจากหลุมดำ เราขอประกาศว่าถึงเวลาแล้ว เราพร้อมแล้วที่จะเข้ามารับช่วงต่อในยามมืดมนที่สุด ทุกข์ทรมานที่สุด เพื่อขจัดฝันร้ายให้พี่น้องประชาชน ในการเลือกตั้งปี 62 แม้พรรค พท.จะได้ ส.ส.มากที่สุดถึง 136 ที่ แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะเรามี ส.ว. 250 คน ที่พร้อมจะโหวตให้กับผู้มีอำนาจที่เลือกพวกเขาเข้ามา บทเรียนครั้งที่แล้วสอนเราว่าการเลือกพรรค พท.ให้ชนะเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ การเลือกตั้งครั้งต่อไปต้องไม่ใช่แค่ชนะ แต่ต้องชนะให้ขาด พรรค พท.ต้องแลนด์สไลด์ด้วยเก้าอี้ในสภาเกิน 250 ที่นั่ง เพื่อให้เสียงของเราสามารถควบคุมสภาล่าง และการบริหารของรัฐบาล เราจะได้รัฐบาลเสียงข้างมากที่สมบูรณ์แบบ เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นฝ่ายค้าน เราเกิดมาเพื่อเป็นรัฐบาล เป็นเครื่องมือทำงานให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ครั้งหน้าผมขอโอกาสให้พรรค พท.ได้แสดงศักยภาพอีกครั้ง พาประชาชนหลุดพ้นจากวิกฤตและหลุมดำ เลือก พท.ให้ชนะพรรค ส.ว.ลากตั้ง เลือก พท.เพื่อสร้างประชาธิปไตยที่สมดุล เพื่อรัฐธรรมนูญของประชาชน เลือก พท.แลนด์สไลด์เพื่อคนไทยทุกคน” นพ.ชลน่านกล่าว

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ตนขอใช้เวทีนี้ในการส่งการบ้านของคณะทำงานด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ซึ่งเราจะไม่ทิ้งคนรากหญ้าที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เราอยากใช้ความรู้สมัยใหม่ มาพาพวกเขาออกจากความยากจน เพื่อให้พวกเขากลับมามีศักดิ์ศรี มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างที่เขาควรจะได้รับ พรรค พท.ขอยืนยันว่าเราจะใช้สติปัญญาบริหารแก้ไขปัญหาของประเทศ แก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน วันนี้มีการกอบโกยผลประโยชน์มากมายให้พวกพ้องของตัวเอง โดยไม่สนใจพี่น้องประชาชนว่าจะเป็นอยู่อย่างไร ตนขอส่งการบ้านหลักๆ 5 ข้อ คือ

1.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการกระจายอำนาจสู่ระดับประชาชน 2.ดึงศักยภาพของคนไทยโดยใช้ซอฟต์เพาเวอร์ เราจะทำระบบค้นหาศักยภาพของคนไทยอย่างน้อย 1 คน 1 ครอบครัว 3.ใช้เทคโนโลยี AI ในการทำการเกษตร เพื่อการวิเคราะห์ที่แม่นยำทั้งสภาพดิน ฟ้า อากาศและน้ำในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ เราจะใช้วิทยาศาสตร์เพื่อให้เกษตรกรเรียนรู้การถนอมผลิตภัณฑ์ 4.ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ราชการด้วยแพลตฟอร์มรัฐบาลดิจิทัล และ 5.เตรียมคนไทยเข้าสู่ยุค metaverse เราปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อนวัตกรรม เราต้องทำให้ประเทศหลุดพ้นจากความล้าหลังด้านเทคโนโลยี เราจะจัดให้มีไวไฟฟรีกระจายไปในระดับหมู่บ้าน และต้องสอนเด็กให้เรียนโปรแกรมโค้ดดิ้ง เพื่อต่อยอดในอนาคตได้

นอกจากนี้ เราจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวอีก 1 เท่าตัว หรือ 80 ล้านคนภายใน 4 ปี เราจะสนับสนุนคนไทยในทุกรูปแบบ โดยที่ “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยฉลาด ไทยเจริญ” ตนอยากเรียนเชิญให้ทุกท่านติดตามการทำงาน เราจะทำทุกอย่างให้เป็นรูปธรรมหลังวันที่รัฐบาลประกาศยุบสภา เราจะพัฒนาและออกแบบนโยบายซึ่งเราพร้อมอยู่แล้ว มั่นใจว่าเราสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย จากประเทศที่มองไม่เห็นโอกาสให้กลายมาเป็นประเทศที่หาเงินได้ง่าย มีแต่ความหวัง ไม่ต้องสิ้นหวังเหมือนทุกวันนี้ ประเทศไทยมีศักยภาพอีกมากมาย เรามาร่วมกันค้นหา พัฒนา และให้โอกาสคนไทย หมดเวลาขัดแย้งกัน ถึงเวลาที่ต้องดูว่าเราอยากพัฒนาอะไร แล้วนำศักยภาพนั้นมาเจียระไนส่องแสงให้คนทั้งโลกเห็นคุณค่า มาช่วยกันสร้างความมั่งคั่งให้ประเทศไทยได้กลับมามีศักดิ์ศรีอีกครั้ง

“เรามั่นใจว่าถ้าพรรค พท.มีโอกาสบริหารประเทศถึง 8 ปีแบบนี้ เราจะไม่มีทางเห็นปรากฏการณ์คนอยากย้ายประเทศ มากไปกว่านั้นคนที่ย้ายประเทศอยากกลับมาสร้างความมั่งคั่ง สร้างความเจริญให้ประเทศ เป้าหมายต่อไปของพรรค พท. เราต้องแลนด์สไลด์ เราต้องได้อำนาจรัฐ ทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นจึงจะเป็นจริงได้” น.ส.แพทองธารกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image