| ผู้เขียน | ศุกร์ มังกร |
|---|
เดินหน้าชน : เลือดเข้าตา‘ปชป.’
ไม่มีครั้งไหน หรือเหตุการณ์ใดที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้รับความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือมากถึงมากที่สุด
และทำเอาคนในพรรคการเมืองเก่าเก่าพรรคนี้ตั้งแต่ระดับบนสุดลงมาถึงระดับสมาชิกพรรค ระดับปลายแถวหวั่นไหวเท่ากับครั้งนี้
กรณี อดีตรองหัวหน้าพรรคตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาล่วงละเมิดคุกคามทางเพศ ข่มขืนกระทำชำเราหญิง เหตุเกิดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ขณะนี้มีโจทก์ไม่น้อยกว่า 15 คน ออกมาเปิดเผยว่า ตนเองได้ถูกกระทำจากบุคคลผู้นี้
แรกๆ ที่เกิดเรื่องฉาวโฉ่ คนในพรรคก็พยายามปกป้องโดยท่องคาถา “ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม”
คนที่ตกเป็นข่าวก็มา “ตะเภาเดียวกัน” คือ ให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมกับประกาศ “ลาออก” จากรองหัวหน้าพรรค
ผ่านไปสักพัก (ใหญ่) เริ่มมีหลายคนในพรรคดาหน้ากันมากล่าวขอโทษและแสดงความเสียใจเพราะทนกระแสกดดันจากสังคมและสื่อมวลชนไม่ไหว
ขณะเดียวกันหญิงที่ตกเป็นเหยื่อราคะทยอยกันออกมาแสดงตัวตน
กระทั่ง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคพร้อมกรรมการบริหารเปิดแถลงข่าว ยกมือไหว้ขอโทษประชาชน ลาออกจากประธานกรรมการ 2 ชุด คือ คณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ กับคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายสตรีแห่งชาติ
ประชาธิปัตย์ในยุคสมัยที่จุรินทร์ขึ้นมาเป็น “ผู้นำพรรค” ต่อจาก “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” มีเหตุการณ์สำคัญๆ ที่ถูกตั้งคำถามจากสังคม
หนึ่ง เกิดข่าวทุจริตในกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวกับการจัดซื้อถุงมือยางในภาวะวิกฤตโควิดระบาด
หนึ่ง จุรินทร์เคยขึ้นปราศรัยหาเสียงและพูดออกสื่อช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า จะไม่ร่วมรัฐบาลกับ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา”เนื่องจากเป็น “เผด็จการ” สืบทอดอำนาจ คสช.
แต่หลังเลือกตั้งกลับเปลี่ยนจุดยืน!?
“อภิสิทธิ์” แสดงความรับผิดชอบ ลาออกจากการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะในช่วงหาเสียงได้ประกาศไม่สนับสนุนประยุทธ์เป็นนายกฯ
หนึ่ง เมื่อประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล ได้ตั้งเงื่อนไข 4 ข้อ มีข้อหนึ่งให้รัฐบาลประยุทธ์ยกเครื่องรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วยการให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ
บัดนี้ผ่านมา 3 ปีกว่า แก้ไขได้เพียง บัตร 2 ใบคนละเบอร์!?
คำว่า “สะเดาะกุญแจ” รัฐธรรมนูญเผด็จการต้องแก้ที่ต้นเหตุ อาจเป็นเพียง “ลมปาก” ที่หาสาระไม่ได้หรือไม่?
หนึ่ง อันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และ ส.ส.อีกหลายคนของประชาธิปัตย์ ทักท้วงเรื่องการร่วมรัฐบาลกับประยุทธ์แต่ไม่สามารถสร้างผลงานให้เป็นที่น่าพอใจของประชาชน
การ “พายเรือแป๊ะ” ให้อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารเป็นกัปตัน นำมาซึ่งความผิดหวังต่อผู้ที่เคยศรัทธาประชาธิปัตย์
ล่าสุดทำหนังสือจี้ “จิตสำนึก” ทีมผู้บริหารพรรคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น!
จนอันวาร์ตกอยู่ในสภาพ “แกะดำ” รอเวลาถูก “อัปเปหิ” ?!
นอกจากนี้ นักการเมืองคนสำคัญที่เคยร่วมงานกับพรรคพากันลาออกไปตั้งพรรคใหม่และไปอยู่พรรคอื่น
ความ “ผิดพลาด ล้มเหลว” ของประชาธิปัตย์ช่วง 3 ปีกว่าที่ผ่านมา แต่ไม่มีการกล่าวคำ “ขอโทษ” หรือแสดงความ “เสียใจ” จากจุรินทร์และกรรมการบริหารพรรค
นี่เอง จึงกล่าวได้ว่า เหตุการณ์อดีตรองหัวหน้าพรรคล่วงละเมิดทางเพศทำให้คนในประชาธิปัตย์อับอายขายหน้าไปทั่วบ้านทั่วเมือง?!
อย่าลืมว่าเหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือน จะเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพฯ ซึ่งประชาธิปัตย์ส่งคนลงสมัครแข่ง
รวมถึงสภาจะเปิดสมัยประชุมตั้งแต่ 22 พฤษภาคม ประยุทธ์ไม่แคล้ว ถูกฝ่ายค้าน “จองกฐิน” ยื่นเปิดซักฟอก
ถ้าประชาธิปัตย์ “โหวตไว้วางใจ” ก็จะยิ่งฉุดให้ชื่อเสียงของพรรคตกต่ำลงอีก
เผลอๆ จุรินทร์อาจโดนจับขึ้นเขียงซักฟอกด้วย?!
ในภาวะวิกฤต “เลือดเข้าตา” เช่นนี้ จุรินทร์จะแก้สถานการณ์เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ให้ดีขึ้นได้อย่างไร?
ถึงเวลาที่ประชาธิปัตย์จะฮึดสู้ “หักดิบ” กลับลำมายืนข้างประชาธิปไตย โดยไม่เกรงกลัวกับการสูญเสีย “อำนาจ-ตำแหน่ง” ในรัฐบาลหรือยัง!?!
ศุกร์ มังกร
