นักโทษ 112 เล่นละครรำลึก เยาวชนขอบคุณ ‘วัฒน์’ สู้มาทั้งชีวิต วงการกวีต่อคิวอาลัย

นักโทษ 112 เล่นละครรำลึก เยาวชนขอบคุณ ‘วัฒน์’ สู้มาทั้งชีวิต วงการกวีต่อคิวอาลัย

เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ ครอบครัววรรลยางกูร และกลุ่มคนเดือนตุลา จัดงานไว้อาลัย “วัฒน์ วรรลยางกูร” กวีและนักเขียนชื่อดังเจ้าของรางวัลศรีบูรพา และผู้ลี้ภัยทางการเมือง

บรรยากาศเวลา 18.28 น. “คาล รีอัล” เป็นตัวแทนอ่านบทกวี “ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย” โดย ซะการีย์ยา อมตยา ความว่า

“ไม่มีใครจำได้หรอก พวกเขาจะพูดเรื่องอื่นแทน

ไม่มีใครพูดเรื่องกันดารวิธี ไม่มีใครจำคุณได้หรอก พวกเขาจะจำคุณในแบบที่เขาจดจำ

Advertisement

มันง่าย มันปลอดภัยที่พวกเขาจะพูดถึงในแบบที่พวกเขาอยากจำ

ส่วนจุดหมายปลายเหตุ ที่คุณต้องระหกระเหเร่รอน เป็นผู้ลี้ภัยในต่างแดน ไม่มีใครพูดถึงมันหรอก”

ต่อด้วย ‘เจตจำนงของฝุ่น’ โดย คาล รีอัล เนื้อหากล่าวถึงความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น โดยเปรียบเทียบแทน ‘ฝุ่น’ ที่ถูกเหยียบย่ำและไหลไปกับเลือด ราวกับนกพิราบหลุดกรง ปลิวไปอย่างเสรี นอบน้อมต่อความเสมอภาค พัดความแค้นแห่งยุคสมัย ล่องลอยสลายร่างกลับเป็นฝุ่นผง เจตจำนงเป็นดินแดนเกิด ให้พืชพันธุ์ได้งอกงาม หาใช่เป็นฝุ่น

Advertisement

จากนั้นเวลา 18.34 น. นายวรพจน์ พันธุ์พงศ์ นักเขียน สำนักพิมพ์บางลำพู น้องคนสนิทของวัฒน์ อ่านบทกวีที่วัฒน์เขียนเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2020 มอบให้ในวันเกิดตน

นายวรพจน์เปิดเผยว่า ตนนั่งเครื่องบินมาจาก จ.น่าน เมื่อเช้านี้ ก่อนอ่านกวีที่ตนเขียนตอบกลับวัฒน์ ความว่า

“ปากกาพี่ทำหน้าที่อย่างสูงสุด ……ตาสว่างทั่วถึง ทั้งแผ่นดิน อย่ากังวลคนข้างหลัง นะพี่นะ อุดมการณ์จะสานต่อ ทะลุฟ้า ….ทะลุจอ พอแล้วพอ ให้มันจบที่รุ่นเรา” นายวรพจน์กล่าว

จากนั้นเวลา 18.44 น. กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ทำการแสดงละคร “ด้วยรักแห่งอุดมการณ์” โดยมีอดีตนักโทษคดี 112 และนักโทษทางการเมือง อาทิ นายแซม สาแมท หรือ อาร์ต นักเคลื่อนไหวไร้สัญชาติ
ร่วมล่ามโซ่ตรวน สะท้อนถึงการกดขี่ขนชั้นแรงงาน

ขณะที่สมาชิกกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยกล่าวเชิญผู้ร่วมงานไขกุญแจโซ่ตรวน เพื่อปลดปล่อยนักโทษทางการเมือง โดยมีการบรรเลงเพลงที่วัฒน์แต่งขณะทำกิจกรรม เนื้อหากล่าวถึงการก่อร่างสร้างเมืองโดยแรงงานชนชั้นล่าง

ความตอนหนึ่งว่า “คนตัวเล็ก ถูกกดดัน คนใจดำย่ำเหยียบ บ้านเมืองระส่ำระสาย” ก่อนปิดท้ายด้วยเพลง แองเตอร์นาซิออง โดยผู้ร่วมงานร่วมเปล่งเสียงร้อง เนื้อหากล่าวถึงการสามัคคีต่อสู้จนของประชาชนจนถึงวันฝันเป็นจริง

มิ้น นักร้องและแสดงนำ กล่าวว่า เรายังขาดนักแสดงอีก 1 ท่าน คือน้องสาวที่เรารัก น้องตะวัน-น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ความจริงต้องเป็นนักแสดงในวันนี้ ถ้าตะวันยังอยู่ตรง ต้องได้แสดงกับเราแน่ๆ แต่ความอยุติธรรมทำให้เขาไม่สามารถมาได้ เราต้องไม่ลืมเขา เราไม่หาใครมาแทน เพราะไม่มีใครแทนได้

ก่อนมอบเพลง ‘วันของเรา’ ให้กับตะวัน โดยมิ้นและแซมน้ำตาคลอระหว่างขับขานบทเพลงดังกล่าว ก่อนจบการแสดงในเวลา 19.05 น.

จากนั้น เก็ท โมกหลวงริมน้ำ กล่าวอาลัยว่า พอเห็นรูปแล้วก็นึกถึงตะวัน คงเก็บโมเมนต์ไปเล่า หรือเขียนจดหมาย เชื่อว่าวันหนึ่งน้องจะต้องได้ออกมา

เก็ท กล่าวถึงวัฒน์ว่า ขอบคุณที่สู้มาตลอดชีวิต แลกเหงื่อ แลกเลือด เพื่อส่งต่ออุดมการณ์ให้คนในสังคม ขอโทษคุณวัฒน์ ตะวัน และทุกคนที่ทำให้มายืนร่วมกันในวันนี้ไม่ได้ ที่คุณวัฒน์สู้มาตลอดชีวิต แลกเหงื่อ แลกเลือด คงหวังว่าปลายทางจะได้อยู่กับเพื่อน กับครอบครัว ขอโทษที่ทำให้มายืนด้วยกันตรงนี้ไม่ได้

“คุณวัฒน์ได้มีคุณูปการต่อเรามาก็จริงๆ เป็นกวี นักเขียน ประพันธ์งานหลายชิ้น ที่พูดวันนี้ก็คงไม่หมด แต่จะขอยก 2 ผลงานที่ชื่นชอบ รวมถึงถอดบทเรียน เรื่องมนต์รักทรานซิสเตอร์ ก่อนเป็นภาพยนตร์ เป็นนิยายมาก่อน เสียดสีสังคมได้อย่างแยบคาย พูดถึงพระเอกชาวบ้านที่อยากเป็นนักร้อง ไปสู้ตามความฝัน แต่ก็ประสบกับความเหลื่อมล้ำในสังคม เสียดสีการบังคับเกณฑ์ทหาร สิทธิที่กระจุกตัว เอื้ออภิสิทธิ์ชน

“อีกผลงานคือ ‘ด้วยรักแห่งอุดมการณ์’ พูดถึงการต่อสู้ของคู่รัก เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยและสังคมที่เท่าเทียม จนสุดท้ายตระหนักได้ว่าการต่อสู้กับนายทุน นักการเมือง ยังไม่มากพอ เราต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาถึงคนที่ชักใยทำให้หลายคนต้องลี้ภัย” เก็ทกล่าว

เก็ทกล่าวต่อว่า ชีวิตคุณวัฒน์ยังให้ข้อคิดแก่เรา วัฒน์เป็นนักเขียนตั้งแต่วัยรุ่น ได้รับการยอมรับบ้าง ไม่ยอมรับบ้าง แต่ทำไมคุณวัฒน์ต้องหนีเข้าป่า ต่อให้คุณคอร์รัปชั่น คดโกงมากไหน คุณจะไม่มีมลทินถ้าไปบวชเป็นพระ ความผิดคุณจะหมด อย่างว่าเมืองไทยเมืองพุทธ

“เราจะพาทุกคนกลับบ้าน ทั้งคนที่อยู่ในคุก และลี้ภัย ผมจะผลักดันนิรโทษกรรม ผู้ลี้ภัยทางการเมือง” เก็ทระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image