ตะลึง! แค่ 2 วันพบ 120 รายส่อหมิ่นเบื้องสูง กูเกิล-ยูทูบร่วมมือดี เล็งคุยเฟซบุ๊ก-ไลน์ต่อ

‘บิ๊กจิน’เผยแค่ 2 วันพบแล้ว 120 รายหมิ่นเบื้องสูง เผยได้รับความร่วมมือจาก ‘กูเกิล-ยูทูบ’เป็นอย่างดี ร่วมมือจัดการกวาดล้างเว็บหมิ่นสถาบัน ตั้งทีมเฉพาะกิจมอนิเตอร์ 24 ชม.

เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 21 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเชิญ นางแอน เลวิน ผู้บริหารระดับสูงของกูเกิลซึ่งดูแลเว็บไซต์ยูทูบประจำภูมิภาคเอเชียเข้าพบเพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาเว็บไซต์หมิ่นสถาบันว่า เป็นการมาหารือตามที่รัฐบาลได้ขอคำปรึกษาไปคือเรื่องเว็บไซต์หมิ่นสถาบันซึ่งก่อให้เกิดความสับสนในสังคมจึงอยากให้ช่วยกันระดมความคิดเห็นในการสกัดกั้นหรือยุติเว็บไซต์เหล่านั้นให้ได้ โดยทางผู้บริหารกูเกิลและและยูทูบยืนยันว่าให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จึงมีการตัดสินใจปรับปรุงแนวทางเพิ่มเติมคือมีการตั้งทีมเฉพาะกิจที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีคนไทยรวมอยู่ด้วยเพื่อดูแลกรณีดังกล่าวในประเทศไทยโดยเฉพาะตลอด 24 ชั่วโมง และมีการปรับแบบฟอร์มรับเรื่องร้องเรียนที่ใช้ภาษาไทยขึ้นเป็นการเฉพาะ โดยเบื้องต้นสิ่งที่ทางทีมเฉพาะกิจต้องการตามที่รัฐบาลไทยร้องเรียน คือประเภทยูอาร์แอลและเวลาที่ตรวจพบว่าเผยแพร่ข้อความไม่เหมาะสม จะดำเนินการส่งทั้งสองส่วนนี้ไปให้ทีมเฉพาะกิจดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง แต่เราก็ต้องส่งคำสั่งศาลและรายละเอียดเพิ่มเติมไปให้ภายหลังด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินการทั้งสองฝ่ายทั้งนี้ทางกูเกิลได้ติดตามและทราบดีว่าความรู้สึกของคนไทยต่อความสูญเสียพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่นั้นเป็นอย่างไร แล้วยังมาโดยเว็บไซต์ต่างๆ โจมตีบิดเบือนเขาก็จะดำเนินการตามที่เราร้องขอ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะเริ่มในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ โดยมีตัวแทนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ประสานงานโดยตรง

“ถ้าเขาได้รับข้อร้องเรียนจากเราในสองรายการแรกจากเราคือเรื่องยูอาร์แอลและเวลาที่ตรวจพบ เขาจะพยายามดำเนินการกับเพจหรือวิดีโอคลิปเหล่านั้นก่อน แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องยืนยันว่าจะส่งหมายศาลตามไป ส่วนเรื่องที่กังวลเรื่องการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลในการขอข้อมูลของผู้ที่โพสต์บนเว็บไซต์เหล่านั้น เขาก็เข้าใจและให้คำแนะนำว่ากระบวนการระหว่างประเทศจะต้องดำเนินการเพื่อปรับข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อขอข้อมูลดังกล่าวผ่านรัฐบาล ซึ่งตรงนี้ก็จะเริ่มในวันที่ 22 ตุลาคมนี้เช่นเดียวกันคือให้รัฐมนตรีที่สั่งการก่อนเข้าสู่กระบวนการให้กระทรวงการต่างประเทศขอสิทธิเหล่านี้เพื่อให้รัฐบาลสหรัฐพิจารณา หากรัฐบาลไทยและสหรัฐร่วมมือกันตกลงที่จะให้ข้อมูลซึ่งเป็นลิขสิทธิ์หรือข้อมูลที่เป็นสิทธิส่วนบุคคลแล้ว ทางกูเกิลนั้นเราทันที” พล.อ.อ.ประจินกล่าว

พล.อ.อ.ประจินกล่าวต่อว่า ส่วนข้อมูลที่ไม่เหมาะสมที่อยู่ระบบอยู่แล้วนั้นเราก็ได้ทวงถามว่าสามารถลบออกจากสารระบบได้หรือไม่นั้น เขาจะเก็บข้อมูลไว้ให้และจะดำเนินการไว้ให้ และจากดำเนินหากเรากรอกแบบฟอร์มร้องเรียนไป แล้วข้อมูลส่วนใดที่เขาสามารถดำเนินการได้ก่อนเขาก็จะดำเนินการให้

Advertisement

“เฉพาะวันที่ 19-20 ตุลาคมที่ผ่านมา มีการตรวจพบผู้ที่กระทำไม่เหมาะสม 120 ราย ซึ่งไม่ค่อยพบชาวต่างชาติ แต่ขอไม่เปิดเผยตามที่นายกรัฐมนตรีได้พูดไว้ว่าไม่อยากให้นำเสนอออกมาเพื่อซ้ำเติมความรู้สึกประชาชน แต่ขอให้รับทราบและดำเนินเรื่องนี้สุดความสามารถ ส่วนเฟซบุ๊กและไลน์ผมได้มอบหมายให้ตั้งชุดทำงานไปรวบรวมข้อมูลเพื่อติดต่อประสานงานกันในลักษณะเดียวกันกับกูเกิล” พล.อ.อ.ประจินกล่าว

เมื่อถามว่าทีมงานที่มีคนไทยอยู่นั้นหากตรวจพบข้อความที่มีลักษณะเข้าข่ายจะแจ้งมาทางเราหรือจะระงับข้อมูลดังกล่าวก่อน พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า เขาจะเป็นทีมรับข้อมูลจากเราตามแบบฟอร์มภาษาไทยที่เขาสร้างขึ้น แล้วให้เรากรอกแบบฟอร์มภาษาไทยไปว่า ในเงื่อนไขที่แจ้งให้ทราบว่าเป็นยูอาร์แอลอะไร ตรวจพบเมื่อไร และข้อมูลที่จะแจ้งว่าผิดกฎหมายประการใด ซึ่งจะเป็นหมายศาลตามไป โดยเขาตั้งทีมงานขึ้นเฉพาะ เพื่อให้ดูเรื่องนี้โดยตรง เพื่อให้มีความรวดเร็วในการติดต่อประสานงานซึ่งจะดูแลให้เราเป็นพิเศษ 24 ชม. แต่เดิมมีทีมงานอยู่แล้ว ก็จะเพิ่มผู้ประสานงานโดยตรงขึ้นมาอีก ให้การติดต่อทางโทรศัพท์ หรืออีเมล์ได้โดยตรง จะเป็นการเพิ่มความรวดเร็วในการปฏิบัติงาน

“ถ้าเราได้รับ 2 รายการแรก คือ เพจหรือวิดีโอคลิปเขาจะเริ่มดำเนินการให้ก่อน แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องส่งหมายศาลตามไป ซึ่งเราจะต้องใส่คำยืนยันไว้ในฟอร์แมตภาษาไทย ในส่วนของการละเมิดสิทธิก็ตาม หรือการขอข้อมูลที่เป็นยูสเซอร์แอคเคานต์ก็ตาม หรือไอดีของผู้โพสต์เว็บไซต์ เนื่องจากเขาเป็นบริษัทเอกชนก็เข้าใจและให้คำแนะนำว่าทางกระบวนการระหว่างประเทศนั้นจะต้องดำเนินการเพื่อปรับข้อตกลงระหว่างประเทศ ในการที่จะขอข้อมูลดังกล่าวผ่านรัฐบาล ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ ในวันพรุ่งนี้ (22 ต.ค.) เราจะเริ่มดำเนินเรื่องเลย เพื่อให้รัฐมนตรีได้สั่งการเข้าสู่กระบวนการของกระทรวงต่างประเทศ และรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะได้พิจารณา ซึ่งหากรัฐบาลสหรัฐกับไทยได้ร่วมมือกันตกลงที่จะให้ข้อมูลที่เคยตกลงว่าเป็นลิขสิทธิ์หรือสิทธิมนุษยชนส่วนหนึ่ง กูเกิลจะให้สิทธิเราทันที” พล.อ.อ.ประจินกล่าว และว่า ขณะนี้เราได้ทวงเขาว่าข้อมูลที่มีก่อนหน้านี้ขอก่อนได้เลยหรือไม่ เพื่อจะได้ไปดำเนินการระงับยับยั้ง เราพยายามจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดและรวดเร็วที่สุด แต่ก็มีเรื่องเทคนิค กฎหมาย ซึ่งเฉพาะวันที่ 19-20 ตุลาคม มีการตรวจพบ 120 กว่าราย ขอให้รับทราบว่าเราจะทำเรื่องนี้ให้สุดความสามารถ อย่างไรก็ตามกฎหมายที่กูเกิลใช้เป็นกฎหมายของสหรัฐอเมริกา รวมถึงเป็นกฎหมายระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา ที่เราจะส่งข้อมูลร่วมกัน นอกจากนี้ตนได้รวบรวมทีมงามเพื่อติดต่อไปยังเฟซบุ๊กและต่อไปอาจจะติดต่อไปยังไลน์ด้วย ขณะนี้ได้เตรียมตัวแทนเป็นกลุ่ม ทั้งผู้เชี่ยวชาญเทคนิค กฎหมาย และภาษา ซึ่งจะมีจำนวน 5 คน เพื่อที่จะติดตามในเรื่องนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image