เปิดประเทศเต็มรูปแบบ อานิสงส์ธุรกิจ-ท่องเที่ยว ?

เปิดประเทศเต็มรูปแบบ อานิสงศ์ธุรกิจ-ท่องเที่ยว?

เปิดประเทศเต็มรูปแบบ

อานิสงส์ธุรกิจ-ท่องเที่ยว?

VIDEO CONTENT AVERTISEMENT

หมายเหตุ ความเห็นและข้อเสนอของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และหอการค้าจังหวัด กรณีศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เห็นชอบยกเลิกระบบเทสต์แอนด์โก (Test & Go) ผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ไม่ต้องตรวจโควิดด้วย RT-PCR แต่ใช้การตรวจ ATK แทน ระหว่างพำนักในประเทศไทย เป็นการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เริ่มวันที่ 1 พฤษภาคม

ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร
นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า)

ADVERTISMENT
รายงานหน้า 2 : เปิดประเทศเต็มรูปแบบ อานิสงศ์ธุรกิจ-ท่องเที่ยว?
นาย ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตตา)

ในเวลานี้ภาคเอกชนมีการเตรียมความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติมากแล้ว ทั้งการปรับปรุงซ่อมแซมสถานประกอบการ การจ้างพนักงานกลับคืนมา ทำให้ความพร้อมของผู้ประกอบการไม่ได้มีปัญหาอะไร จึงไม่ได้มีความกังวลอะไร โดยนับตั้งแต่รัฐบาลประกาศผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศ ทั้งการยกเลิกเทสต์แอนด์โก และการยกเลิกการตรวจ RT-PCR เมื่อเดินทางเข้าไทย ทำให้เห็นตัวเลขการจองล่วงหน้าเข้าประเทศดีขึ้น แต่จะให้เหมือนภาวะปกติในทันทีทันใดก็คงจะไม่ใช่ โดยตามหลักแล้วประเมินว่า ในปี 2565 หากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพียง 20% ของปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 ก็ถือว่าดีมากแล้ว เพราะจะคิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประมาณ 7-8 ล้านคน จากปี 2562 ที่มีจำนวนเกือบ 40 ล้านคน

ตอนนี้กำลังจะเข้าสู่เดือนพฤษภาคม แม้เป็นเดือนแรกที่เริ่มต้นผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศให้ง่ายขึ้น แต่ก็นับเป็นเดือนเริ่มต้นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) เช่นกัน โดยเฉพาะตลาดยุโรปที่ขณะนี้ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ของยุโรปแล้ว ทำให้การเดินทางมาเที่ยวคงน้อย บวกกับได้รับผลกระทบจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนด้วย ทำให้ตลาดยุโรปจะกลับมาเที่ยวไทยอีกครั้ง คงเป็นไตรมาส 4/2565 หรือไตรมาสสุดท้ายของปี ที่น่าจะมีลุ้นมากกว่า ซึ่งในช่วงนี้แม้มีเข้ามาก็อาจเป็นการเดินทางเที่ยวเพื่อทำธุรกิจมากกว่า แต่การท่องเที่ยวจริงๆ อาจยังไม่มีมากนัก

ADVERTISMENT

ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดหวังได้ หลักๆ มีเพียงอินเดียเท่านั้น ที่น่าจะทยอยมาเที่ยวไทยมาก รวมถึงเวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย ที่อยากให้มาเที่ยวไทยมากกว่านี้ ทำให้การคาดหวังนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยในปี 2565 เป็นการหวังได้ในประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นบางประเทศเท่านั้น เนื่องจากประเทศที่เคยเข้ามาเที่ยวไทยเป็นตลาดหลักๆ ทั้งจีน รัสเซีย ขณะนี้มีปัญหาเฉพาะในประเทศต้นทาง โดยรัฐบาลจีนยังใช้นโยบายซีโร่โควิดอยู่ และไม่เปิดให้พลเมืองเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนรัสเซียก็มีปัญหาการทำสงครามกับยูเครน ตรงนี้ก็ทำให้บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวของประเทศกลุ่มยุโรปสะดุดลงไปด้วย

เรายังต้องประเมินศักยภาพของนักท่องเที่ยว และเศรษฐกิจในประเทศต้นทาง บวกกับพิจารณาว่า ต่างชาติเหล่านั้นมีเวลาเพียงพอที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยหรือไม่ เนื่องจากหากไม่มีความพร้อมทั้งสามด้านนี้การเดินทางท่องเที่ยวก็คงไม่เกิดขึ้น

ในเดือนพฤษภาคมนี้ เริ่มเห็นยอดจองล่วงหน้าเพิ่มขึ้น ถือเป็นตัวเลขที่ดูดีขึ้นจากเดิม แต่ยังต้องติดตามทั้งเดือนพฤษภาคม ก่อนว่าจะดีขึ้นมากน้อยเท่าใด เนื่องจากภาวะตอนนี้ไม่ปกติ ทำให้คาดการณ์แบบปกติได้ยากมาก ตลาดการท่องเที่ยวทั่วโลกไม่สามารถมองแบบปกติได้ เพราะหากภาวะตอนนี้เป็นภาวะปกติ จะสามารถคาดการณ์ทุกอย่างล่วงหน้าได้ แต่ในตอนนี้ไม่สามารถที่จะทำได้เหมือนเดิมแล้ว โดยตอนนี้เราต้องเจอทั้งการระบาดโควิด-19 ที่ยังไม่หมดไป และการทำสงครามระหว่างประเทศด้วย ทำให้คนส่วนใหญ่ก็ยังต้องระมัดระวังในการใช้จ่าย และการเดินทางท่องเที่ยวด้วย

ภาพรวมการระบาดโควิด-19 ในไทย ยังเห็นภาพจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันที่เพิ่มสูงขึ้น และจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ทำให้บางประเทศที่มีความระมัดระวังในการติดเชื้อโควิดก็ไม่กลับมาเที่ยวไทย จึงอยากให้รัฐบาลพยายามควบคุมดูแลการระบาดโควิด-19 ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตให้ลดน้อยลง โดยเฉพาะผู้เสียชีวิตที่จะต้องลดอัตราการเสียชีวิตลงให้ได้ รัฐบาลจะต้องดูแลทั้งผู้ป่วยอาการหนัก ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้มีโรคประจำตัว เพื่อไม่ให้เมื่อติดเชื้อโควิดแล้วต้องสูญเสียชีวิตไป

รวมถึงรัฐบาลจะต้องกระตุ้นทำตลาดต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ประชาสัมพันธ์ให้คนทั้งโลกรู้จักประเทศไทย และสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ง่ายและสะดวกขึ้น เนื่องจากได้ผ่อนคลายเกณฑ์การเข้าประเทศเหมือนปกติมากขึ้นแล้ว เพราะที่ผ่านมาทราบว่า การที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทย และหันไปเที่ยวที่อื่นมากขึ้นนั้น เป็นเพราะว่าเงื่อนไขการเข้าประเทศมีความยุ่งยากหลายขั้นตอน เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่ประกาศตัวว่า ได้เปิดประเทศท่องเที่ยวเหมือนกันแล้ว

จุลนิตย์ วังวิวัฒน์
ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่

รายงานหน้า 2 : เปิดประเทศเต็มรูปแบบ อานิสงศ์ธุรกิจ-ท่องเที่ยว?

ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ชาวต่างชาติได้เห็นและเข้ามาได้ง่ายขึ้นภายใต้เงื่อนไขของการฉีดวัคซีน ซึ่งในช่วงนี้ประเทศที่จะเข้ามาไทยมากขึ้นจะเป็นกลุ่มประเทศในแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโซนภาคใต้ หรือจังหวัดริมทะเลมากที่สุด

สิ่งที่รัฐบาลน่าจะต้องเร่งทำ คือ การกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น ทั้งโครงการเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่งเฟส 4 หรือ 5 ตอนนี้น่าจะต้องกระตุ้นคนไทยเป็นหลักให้เที่ยวในประเทศ เพราะบางประเทศยังเดินทางมาไม่ได้ เช่น จีน ซึ่งคงอีกพักใหญ่เลยที่จะปล่อยคนของเขาออกท่องเที่ยว จึงควรขับเคลื่อนภายในประเทศ ด้วยการสนับสนุนงบประมาณต่างๆ ให้ผู้ประกอบการได้ลดต้นทุน เช่น การรักษามาตรฐาน SHA PLUS หรือการตรวจ ATK การฉีดวัคซีนให้บุคลากร ให้สามารถนำค่าใช้จ่ายบางส่วนไปลดหย่อนภาษี เพื่อแบ่งเบาภาระ หรือลดการหักภาษีรายปีส่วนบุคคล ลดเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการเรียกร้องไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเงื่อนไขที่อยากให้ดูและปรับปรุงนโยบายเพื่อช่วยเหลือเป็นการกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ

ส่วนการยกเลิก Thailand Pass นั้น ต้องนำข้อมูลมาดูและวิเคราะห์ให้ดีๆ เพราะบางอย่างในบางประเด็นยังควรมี แต่ควรปรับลดเงื่อนไขทำให้สะดวกและเอื้อต่อการเดินทางให้มากขึ้น

มองว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวได้ในราวไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และพอจะเริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์จริงๆ ในราวปีหน้าที่จะขับเคลื่อนระบบต่างๆ เนื่องจากเรายังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น สงครามระหว่างประเทศรัสเซียกับยูเครน ที่ทำให้ต้นทุนน้ำมันและค่าครองชีพสูงขึ้น การสนับสนุนการส่งออกก็มีส่วนช่วย เพียงแต่ยังมีปัจจัยลบหลายอย่าง เช่น กำลังซื้อของต่างประเทศที่ลดลง การขนส่ง ตู้คอนเทนเนอร์ที่มีต้นทุนส่งมาก ผู้ประกอบการต้องปรับตัวลดต้นทุนการผลิตลง เพราะการแข่งขันในตลาดโลก

ดังนั้น การเข้าถึงแหล่งเงินทุน เทคโนโลยีในการผลิต จำเป็นต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว แต่ในอนาคตน่าจะยังมีอุปสรรค การหารายได้หลายทางจึงเป็นทางออก เช่น การสนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิทัล คนไทยเก่งมากแต่ยังขาดการสนับสนุนที่ถูกทาง หรือแม้แต่สตาร์ตอัพ ยังเข้าไม่ถึงแหล่งทุน เรื่องเหล่านี้ต้องมาหารือกันและปรับให้ทันยุคสมัยใหม่ หรืออย่างซอฟต์เพาเวอร์ ก็เป็นเรื่องที่ดี เด็กไทยหลายคนเก่งๆ สามารถขึ้นเวทีโลกดังไกลไปทั่ว หากมีการส่งเสริมจะเป็นผลดีต่อประเทศในระยะยาวได้ เช่น ประเทศเกาหลีซึ่งไม่มีอะไรเลย แต่เขาสร้างซอฟต์เพาเวอร์ผ่านภาพยนตร์ ละคร หรือแม้แต่ตัวละครที่โด่งดัง ประเทศไทยก็ทำได้

ธเนศ ตันติพิริยะกิจ
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต

รายงานหน้า 2 : เปิดประเทศเต็มรูปแบบ อานิสงศ์ธุรกิจ-ท่องเที่ยว?

การที่ ศบค.มีมติยกเลิก Test & Go เริ่ม 1 พฤษภาคมนี้ จะเพิ่มศักยภาพให้การเดินทางเข้ามาง่ายขึ้น ซึ่งประเทศไทยเป็นเส้นทางที่อยู่ในใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่แล้ว เมื่อเงื่อนไขง่ายขึ้น คาดว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาเพิ่มมากขึ้นในจำนวนพอสมควร ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาภูเก็ต เฉลี่ยวันละ 2,000-3,000 คน ในไฮซีซั่นจะเห็นตัวเลขโตมากกว่า 100% ในปีที่ผ่านมา ส่วนในโลว์ซีซั่นนี้ตัวเลขโตขึ้น 30-40% ถ้าไฮซีซั่น คาดว่าจะโตมากกว่า 100% และถ้ามีปัจจัยบวกอีก คือ ถ้าสงครามยุติลงจะทำให้คนกลับเข้ามาเพิ่มมากขึ้นอาจเติบโตมากกว่านี้ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทั้งภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และ Test & Go เฉลี่ยเข้ามาวันละ 3,000 คน เมื่อยกเลิก Test & Go อาจจะเข้ามามากถึงวันละ 6,000 คน คาดหวังอยากเห็นเข้ามาวันละ 10,000 คน

สิ่งที่จะร้องขอรัฐบาลนั้น คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวร้องขอรัฐบาลในเรื่องภาษีบำรุงท้องที่ เพราะว่าอุตสาหกรรมโรงแรมจะเก็บตามรายได้ แต่วันนี้เก็บจากสินทรัพย์ ต้องจ่ายภาษีเต็มมูลค่า เรียกร้องว่า ถ้าเป็นไปได้ขอให้ลดต้นทุน และอีกเรื่องคือ ตลาดในประเทศเป็นตลาดหลักของไทย โครงการของรัฐบาล อาทิ เราเที่ยวด้วยกัน ทำให้เงินในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหมุนเวียน กระตุ้นคนทุกภาคในประเทศไทย จึงขอให้ต่อโครงการไทยเที่ยวไทย เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พึ่งพาตลาดท่องเที่ยวในประเทศ สร้างมูลค่าให้เติบโตยิ่งขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image