‘กก.สอบไลน์หลุดปชป.’ ถกนัดแรก ขีดเส้น 1 สัปดาห์เสร็จ โทษสูงสุดถึงขั้นไล่ออกจากพรรค

“กก.สอบไลน์หลุดปชป.” ถกนัดแรก วางกรอบ 1 สัปดาห์เสร็จ “นราพัฒน์” เผยต้องสอบ “มัลลิกา” แม้ไขก๊อกกก.บห.แล้ว ยัน ในพรรคไม่มีเรื่องชู้ เหตุไม่มีผู้เสียหายแสดงตัว พร้อมเสนอปรับข้อบังคับพรรค ลงดาบคนใช้โซเชียลสร้างความเสียหาย ถึงขั้นให้ออก

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. เวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ คณะกรรมการตรวจสอบ การให้ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม และการนำข้อมูลภายในพรรคประชาธิปัตย์ไปเผยแพร่ทำให้พรรคได้รับความเสียหาย ที่มีนายนราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคฯ ภาคเหนือ เป็นประธานคณะกรรมการฯ เรียกประชุมนัดแรก โดยมี นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคฯ เป็นกรรมการฯ และนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นที่ปรึกษากรรมการฯ ร่วมประชุมโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

จากนั้นนายนราพัฒน์ แถลงหลังการประชุมถึงกรอบการทำงานว่า กรรมการฯจะเร่งพิจารณาทั้ง 2 กรณี ให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรคการเมืองปี 2561 หมวด 3 สิทธิหน้าที่สมาชิก และหมวด 4 มาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหาร และสมาชิกพรรค ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดภายใน 1 สัปดาห์ ทั้งนี้เพื่อความรวดเร็วจะใช้การโทรศัพท์ และโพสต์ข้อความผ่านไลน์ส่วนตัวเพื่อให้ตอบกลับและบันทึกเป็นข้อมูล โดยจะนัดประชุมอีกครั้งในวันอังคารที่ 3 พ.ค.นี้ก่อนสรุปผลส่งให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พิจารณาต่อในเรื่องบทลงโทษ ที่มีตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ไปจนถึงขั้นให้ออก โดยกรรมการฯมีสิทธิที่จะเสนอแนวทางเรื่องบทลงโทษได้

เมื่อถามถึงสาเหตุที่ข้อความทางไลน์หลุดลอดออกไปภายนอกได้อย่างไร นายนราพัฒน์ กล่าวว่า พอทราบว่ามาจากกลุ่มนักข่าวกลุ่มเล็กๆ ที่นำข้อความนี้ไปขยายความต่อ เรื่องนี้จำเป็นต้องสืบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งก่อน ส่วนนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข อดีตกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคนั้น ได้แสดงความรับผิดชอบในฐานะส่วนตัวด้วยการลาออกจาก กก.บห.ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ชี้แจงถึงสาเหตุ ขณะที่นางมัลลิกายังจำเป็นต้องเป็น 1 ในผู้ที่ต้องถูกตรวจสอบจากคณะกรรมการฯ เพื่อทำเป็นบันทึกถ้อยคำถึงเจตนาการตอบข้อความทางไลน์ และเกี่ยวข้องกับกรณีข้อความทางไลน์หลุดออกไปภายนอกหรือไม่

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามถึงขอบเขตการตรวจสอบของคณะกรรมการฯว่าจะพิจารณาถึงกรณีชู้สาวภายในพรรคด้วยหรือ นายนราพัฒน์กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดแสดงตัวว่าเป็นผู้เสียหาย และจากการสอบถามก็ยังไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าข่าย หรือมีผู้เสียหายออกมาแสดงตัวตามที่นางมัลลิการะบุ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงคิดว่าไม่น่าจะมีมูลอะไร เพียงแต่อาจจะเป็นเรื่องการแสดงอารมณ์ตอบโต้กัน ซึ่งเป็นปัญหาภายใน ซึ่งตามข้อบังคับพรรคฯก็ระบุไว้ถึงแนวทางการแสดงความเห็นว่าจะต้องไม่ไปก้าวล่วงหรือหมิ่นประมาทผู้ใด จึงจะพิจารณาตามข้อบังคับ

นายนราพัฒน์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการฯได้พิจารณาเพิ่มเติมเห็นควรที่จะปรับปรุงข้อบังคับพรรคให้มีกติกา และบทลงโทษในการใช้สื่อโซเชียลที่เหมาะสมและการกำหนดโทษ การใช้โซเชียลที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่พรรคในอนาคต และอยากให้มีศูนย์รับเรื่องในกรณีที่มีการโพสต์ หรือแชร์ข้อความในโซเชียลที่เป็นเท็จบิดเบือนทำให้พรรคได้รับความเสียหาย เพื่อให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีต่อไป

เมื่อถามว่า หลังสอบเสร็จคิดว่าภาพลักษณ์พรรคประชาธิปัตย์จะดีขึ้นหรือไม่นายนราพัฒน์ กล่าวว่าต้องช่วยกัน และร่วมกันรับผิดชอบ หาแนวทางแก้ไข ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีที่ใช้โซเชียลฯที่อาจจะมีความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเป็นสิ่งที่ต้องพึงระวัง และคณะกรรมการฯจะเสนอปรับปรุงข้อบังคับพรรคว่าจะใช้โซเชียลฯอย่างไรให้เหมาะสม รวมไปถึงการเก็บข้อมูลความลับภายในไม่ให้หลุดออกไปสู่สาธารณะด้วย

Advertisement

ส่วนกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาคุมพรรคฯเพื่อฟื้นคืนศรัทธา นายนราพัฒน์ กล่าวว่า ไม่ขอตอบประเด็นนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image