หากเป็นไปตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศไว้ว่าจะอยู่จนครบเทอม ถ้าไม่เจอเหตุการณ์ใดให้สะดุดล้มคว่ำคะมำหงายไปซะก่อน
นั่นหมายความว่า ปี 2566 หรือปีหน้า เราคงจะได้เลือกตั้งกันใหม่อีกครั้ง
ทำให้ตอนนี้เราจึงได้เห็นพรรคการเมืองต่างๆ เริ่มเปิดตัว ประกาศทิศทางของพรรค นักการเมืองต่างๆ เริ่มขยับ ย้ายพรรคให้เข้าที่เข้าทาง
เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นอีกครั้ง ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้จะเกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไขกฎกติกาใหม่ แม้ว่าจะไม่ใช่การแก้ไขในหลักการใหญ่ก็ตาม
และครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งในสถานการณ์ที่แบ่งขั้วค่อนข้างชัดเจนกว่าที่ผ่านมา
ดังนั้น ทุกพรรคจะต้องประกาศจุดยืนให้ชัด และต้องใช้นโยบายเป็นจุดขาย ให้ประชาชนได้เลือก
นอกจากนี้ ตัวบุคคลก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านโยบายของพรรค โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด
ในหลายๆ พื้นที่ ผู้สมัครมีส่วนอย่างมาก ที่จะทำให้ชาวบ้านตัดสินใจเลือกผู้แทนเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร
และน่าจะมากกว่าเรื่องของขั้วทางการเมือง และนโยบายของพรรคด้วยซ้ำ เพราะเป็นผู้แทนที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดประชาชนมากกว่าในเมือง
มีโอกาสได้ไปพูดคุยกับ พ.ต.ท.ดร.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “สารวัตรต๊อก”
เป็น ส.ส.ที่ถูกเรียกว่าเป็น ส.ส.งูเห่า เพราะชนะเลือกตั้งมาเมื่อครั้งอยู่พรรคอนาคตใหม่
ด้วยกระแสของพรรคอนาคตใหม่ ทำให้พื้นที่จังหวัดจันทบุรี พรรคอนาคตใหม่ได้มาแบบยกจังหวัด
โดยเฉพาะ เขต 1 จันทบุรี ครอบคลุมพื้นที่ อ.เมือง และ อ.แหลมสิงห์ เป็นพื้นที่เดิมของ นายธวัชชัย อนามพงษ์ ส.ส.รุ่นเก๋า
นายธวัชชัยเริ่มตั้งแต่สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ย้ายมา ประชากรไทย ชาติพัฒนา แล้วกลับไปประชาธิปัตย์
ล่าสุด ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 สังกัด พลังประชารัฐ แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับ สว.ต๊อก สังกัดพรรคอนาคตใหม่
เมื่อมีโอกาสคุย สว.ต๊อก ก็เลยถามตรงๆ ไปเลยว่า จะตอบคำถามประชาชนว่าเป็น “ส.ส.งูเห่า” อย่างไร
สว.ต๊อก ก็ตอบมาตรงๆ ว่า สาเหตุที่ต้องแยกจากอนาคตใหม่ เพราะความเห็นเกี่ยวกับเรื่องสถาบันไม่ตรงกัน
และเพิ่งมาเห็นบทบาทของอนาคตใหม่ชัดเจนในระยะหลัง จึงตัดสินใจแยกทางเดิน หันกลับไปอยู่กับพลังประชารัฐ
เขาบอกว่าตัวเขาเองเป็นอดีตข้าราชการ มีมุมมองเรื่องสถาบันแตกต่างจากทางพรรค
สว.ต๊อกยอมรับว่า พรรคอนาคตใหม่มีส่วนทำให้ตัวเขาได้รับเลือกมาเป็น ส.ส.
แต่อีกส่วนหนึ่งก็ทำพื้นที่มานาน เป็นคนจันทบุรี นับตั้งแต่ลาออกจากราชการตำรวจ มีธุรกิจเกี่ยวกับบริษัทรักษาความปลอดภัย
เมื่อสนใจงานการเมืองก็ลงมาคลุกคลี เดิมอยู่กับมัชฌิมา ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน เป็นอาจารย์ไปอบรมให้กับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ จ.จันทบุรีอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งได้เป็น ส.ส. เมื่อไปสังกัดพรรคอนาคตใหม่ แต่ก็ไม่สนใจใครจะว่าอย่างไร ตอนนี้ขอทำงานการเมืองช่วยเหลือชาวบ้านเต็มที่ต่อไป
สาเหตุที่ต้องเอาเรื่องสารวัตรต๊อกมาพูดถึงครั้งนี้ เพราะถือว่าเป็นเรื่องแปลกสำหรับชาวบ้านเขต 1 จ.จันทบุรี โดยเฉพาะที่ ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี
เพราะที่ผ่านมามีผู้แทนมากี่คนก็ตาม ไม่เคยเห็นหัวผู้แทนที่ชาวบ้านเลือกไปเป็นปากเสียงในสภา
แต่สารวัตรต๊อกมาในรูปแบบใหม่ ลงมาพบปะชาวบ้านร้านรวง เข้ามาช่วยดูแลแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง
และไม่ใช่ว่าเพิ่งจะลงมาดูแล แต่ทำแบบนี้มานาน นับตั้งแต่เป็น ส.ส.
ในขณะที่ผู้แทนคนอื่นยังไม่เคยมีใครลงพื้นที่มาดูแล
ชาวบ้านแบบนี้
จึงถือว่าเป็นการสร้างมาตรฐานการเมืองแบบใหม่สำหรับจันทบุรี
ทั้งที่จริงมันควรจะเป็นแบบนี้มานานแล้ว และอยากให้ทุกพื้นที่เป็นแบบนี้
ในฐานะผู้แทนก็ต้องลงมาดูแลสุขทุกข์ชาวบ้านบ้าง ไม่ใช่โผล่หัวมาให้เห็นเฉพาะตอนหาเสียงเลือกตั้ง แล้วก็หายจ้อย
ถ้าเห็นหัวชาวบ้านจริง และแน่จริง ต้องลงมาพบปะชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง มาแข่งกันลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน
ไม่อย่างนั้นชาวบ้านก็จะอยากตั้งคำถามกลับ ที่บอกว่า “งูเห่า” แล้วไงล่ะ
สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา
