‘พิพัฒน์’จ่อชงศบค.เลิก‘ไทยแลนด์ พาส’ 1 มิ.ย.นี้ เปลี่ยนใช้วัคซีนพาสปอร์ตแทน

‘พิพัฒน์’จ่อชงศบค.เลิก‘ไทยแลนด์ พาส’ 1 มิ.ย.นี้ เปลี่ยนใช้วัคซีนพาสปอร์ตแทน เสนอครม.เก็บค่าเหยียบแผ่นดิน 300 บาท

เมื่อวันที่ 27 เมษายน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) ภายในการประชุมครั้งถัดไป ให้พิจารณายกเลิกระบบไทยแลนด์ พาส โดยจะขอให้มีผลตั้งแต่ 1 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป และเปลี่ยนมาใช้วัคซีนพาสปอร์ต ควบคู่กับการให้นักท่องเที่ยวกรอกข้อมูลการได้รับวัคซีนลงในใบตม.6 แทน เพื่อสร้างความสะดวกให้กับการเดินทางมากขึ้น รวมถึงผู้ตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้วย โดยประเมินว่าในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ น่าจะเป็นช่วงที่การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนลดลง และใกล้ไทม์ไลน์ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่เตรียมประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยในวันที่ 27 เมษายน ก็ได้หารือร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เสนอไป

“ขณะนี้เห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยื่นขอรับการพิจารณาเข้าประเทศแล้วกว่า 2.1 ล้านคน แต่ได้รับการอนุมัติเพียง 1.5 ล้านคนเท่านั้น หายไปกว่า 6 แสนคน ทำให้หากเป็นไปได้แล้วว่า การระบาดโอมิครอนมีแนวโน้มลดลง และใกล้ประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว ก็ปลดล็อกการเข้าประเทศไปเลย ซึ่งคาดว่าจะตอบโจทย์มากที่สุด” นายพิพัฒน์กล่าว

นายพิพัฒน์กล่าวว่า สำหรับกรณีที่นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า การยกเลิกระบบไทยแลนด์ พาสนั้น จะมีการปรับเกณฑ์ใหม่เพิ่มเติม คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย จะต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น (บูสเตอร์โดส) มาแล้ว หรือรวมกันอย่างน้อย 3 เข็ม ตรงนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มองว่าอาจต้องพิจารณานักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นรายตลาด ว่าประเทศนั้นๆ มีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้วหรือไม่ หากยังไม่มีไม่ได้ฉีดเข็ม 3 เพราะวัคซีนในประเทศนั้นๆ ไม่เพียงพอก็อาจต้องอนุโลมให้เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยได้ก่อน

นายพิพัฒน์กล่าวว่า ส่วนการเก็บค่าธรรมเนียมเข้าประเทศไทยจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือค่าเหยียบแผ่นดิน ในอัตราคนละ 300 บาทนั้น เบื้องต้นมีกำหนดนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสัปดาห์ถัดไป หากได้รับการอนุมัติ จะพร้อมประกาศใช้ภายในอีก 3 เดือนถัดจากนั้น โดยรายละเอียดการเก็บที่ 300 บาท จะแบ่งเป็น 50 บาท ซื้อประกันภัยสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเอง พร้อมทั้งคาดว่า อาจนำเงินในส่วนนี้มาใช้รักษานักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มอาการไม่รุนแรง หรือผู้ป่วยสีเขียวด้วย ส่วนอีก 250 บาท จะนำเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image