“เอ้ สุชัชวีร์”ลงพื้นที่บางพลัด ลั่นจะเป็นผู้ว่าฯกทม.คนแรก แก้น้ำท่วม-น้ำทะเลหนุน

“พี่เอ้”ลงพื้นที่ย่านบางพลัด บอกใจเกินร้อยลุยหาเสียงไม่หยุด ลั่นจะเป็นผู้ว่าฯ กทม.คนแรก แก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำทะเลหนุน ที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 28 เม.ย.เวลา 06.00 น. ที่ตลาดวัดรวก เขตบางพลัด นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายภิญโญ ป้อมสถิตย์ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางพลัด หมายเลข 6 และ นายชนินทร์ รุ่งแสง อดีต ส.ส. กทม. ร่วมกันเดินแนะนำตัวขอเสียงสนับสนุนที่ตลาดวัดรวก และทักทายชุมชนตลาดวัดรวก อย่างเป็นกันเอง ซึ่งได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนทั้งพ่อค้า แม่ค้า และพี่น้องประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของเป็นอย่างดี

โดยนายสุชัชวีร์กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เขตบางพลัดมาหลายครั้ง พบว่าต้องประสบปัญหาน้ำท่วม น้ำทะเลหนุน ทำให้เขตบางพลัดได้รับความเดือดร้อนมาก ตนจะจัดการปิดล้อมแนวกั้นที่เป็นฟันหลอให้หมด และในอนาคตเรื่องของน้ำทะเลหนุนนั้น ตนมีความตั้งใจว่าจะเป็นผู้ว่าฯ คนแรกที่ดำเนินการเรื่องนี้ เพราะปัญหาดังกล่าวต้องใช้เวลาเป็นสิบๆ ปี หากไม่เริ่มวันนี้ มันจะสายเกินไป

“ผมมีใจเกินร้อย เพราะยิ่งเดินยิ่งมั่นใจ ได้พบปะพี่น้องประชาชนตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ และต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนจริงๆ ที่ให้กำลังใจ ให้การสนับสนุน บอกได้เลยว่า สุชัชวีร์ เบอร์ 4 จะเป็นผู้ว่าฯ ที่ดี ไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง”นายสุชัชวีร์ กกล่าว

ADVERTISMENT

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่าตนมีนโยบายปากท้องชัดเจน ตั้งใจทำให้เศรษฐกิจในชุมชนเฟื่องฟูขึ้น เพราะจากที่เห็นนั้นเฉาไป แต่ตลาดนัดคือหัวใจของคนกรุงเทพฯ ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย จึงตั้งใจมีนโยบายให้พ่อค้าแม่ค้าขายของได้ทุกวัน ทั้ง 7 วันเลย โดย กทม. มีหน้าที่ดูแลความสะอาด ความเรียบร้อย และให้เทศกิจเป็นมิตรกับพ่อค้าแม่ค้า นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่อยากทำมากคือการจัดให้มีก็อกน้ำประปาบริการฟรีทุกพื้นที่ เพราะช่วงนี้ทุกคนต้องล้างมือ พ่อค้าแม่ค้าก็ต้องใช้ และหากเอกชนรายใดเปิดตลาดนัด ถือว่าเป็นการช่วย กทม.สามารถนำมาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ เพราะถือเป็นการช่วยประชาชนรากหญ้าที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของ กทม. และยังตั้งใจทำให้ตลาดเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย จากนโยบาย อินเทอร์เน็ตฟรี 150,000 จุด ทั่วกรุงเทพฯ และกล้องวงจรปิดไวไฟ จะทำให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงได้ตลอด 24 ชม. ก็จะทำให้ตลาดนัดน่าเดิน คนเดินก็ปลอดภัย เศรษฐกิจชุมชนก็เฟื่องฟู รวมถึงปัญหาเรื่องขยะ เห็นชัดกรุงเเทพฯมีถังขยะไม่เพียงพอ จึงจะให้จัดให้มีถังขยะในทุกพื้นที่ และจะต้องมีการจัดเก็บทุกวัน ที่ผ่านมา กทม. ไม่ได้จัดเก็บขยะได้ทุกวันเนื่องจากรถขยะมีขนาดไม่เหมาะสม จึงตั้งใจจะให้มีรถขยะขนาดครึ่งตัน – 1 ตัน เพื่อให้สามารถจัดเก็บขยะได้ถี่ขึ้นและทั่วถึงมากขึ้น

ADVERTISMENT
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image