‘โรม’ เดินหน้าขยี้ ‘ปมค้ามนุษย์’ ผ่านกมธ.กฎหมาย เผย ‘ก้าวไกล’ เทน้ำหนักนำไปใช้ซักฟอก

‘โรม’ เดินหน้าขยี้ ‘ปมค้ามนุษย์’ ผ่านกมธ.กฎหมาย เผย ‘ก้าวไกล’ เทน้ำหนักนำไปใช้ซักฟอก จวกท่าที ‘ประยุทธ์-ประวิตร’ เฉยเมย ไม่ห่วงภาพลักษณ์ประเทศ

เมื่อวันที่ 28 เมษายน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินหน้าสอบสวนการค้ามนุษย์ ว่า เราจะต้องตามเรื่องนี้ โดยใช้เครื่องมือเท่าที่มี คือ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย (กมธ.) การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตามเราพยายามจับตา และรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล

เมื่อถามว่า ท่าที และการตอบสนองของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นอย่างไรบ้าง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ชัดเจนว่าท่าที่ของทั้งสองคนไม่มีการตอบสนองในเชิงบวก มีแต่การตั้งคำถามกลับ ซึ่งทำให้ผู้ที่หวังว่าการเปิดเผยข้อมูลการค้ามนุษย์จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง หรือทำให้รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขเรื่องนี้ เพราะเป็นการเปิดเผยผ่านสำนักข่าวระดับโลกอย่างอัลจาซีรา ถ้าไม่มีการตอบสนองอะไรเลย ต่างประเทศจะมองประเทศไทยอย่างไร หลังการแถลงข่าวของตนเมื่อวันที่ 27 เมษายน การตอบสนองของพล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าแย่มาก จึงทำให้เกิดคำถามว่าตกลงพล.อ.ประยุทธ์ จะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นต่อไปใช่หรือไม่ ผ่านการใช้ความเงียบ และการตอบคำถามอย่างไม่เป็นรูปธรรม ก็จะยิ่งทำให้ต่างประเทศมองว่าไทยปิดตาข้างหนึ่งเพื่อปล่อยให้ธุรกิจการค้ามนุษย์เกิดขึ้นต่อไปได้

เมื่อถามว่า หากเปิดเผยเรื่องการค้ามนุษย์ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยมากพอ รัฐบาลจะมีปฏิกิริยาอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อย่างแรกคือนักการเมืองที่มาจากประชาชน จะเป็นห่วงภาพลักษณ์ของประเทศ และรัฐบาลที่ตัวเองตั้งขึ้นมา การเกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้ามนุษย์ จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ และการยอมรับจากนานาประเทศ หากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างแท้จริง จะไม่ยอมให้เรื่องการค้ามนุษย์เกิดขึ้น อย่างที่สองคือ หากรัฐบาลไม่แก้ไขการค้ามนุษย์ และตอบสนองอย่างเพียงพอ ก็แทบไม่มีโอกาสที่จะถูกเลือกให้กลับมาบริหารประเทศอีก ตนค่อนข้างเชื่อว่า วันนี้คนไทยมองเรื่องการค้ามนุษย์แตกต่างจากหลายปีก่อน และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก

เมื่อถามว่า จะนำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นของการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องรอดูต่อไป เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงใด นอกจากนี้เราต้องพิจารณาประเด็นประกอบกับเรื่องอื่นๆ ที่เตรียมจะนำมาอภิปรายฯ ว่าจะจัดวางน้ำหนักอย่างไร แต่แน่นอนว่า ประเด็นการค้ามนุษย์ ที่พล.ต.ต.ประวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และอดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ออกมาเปิดเผย อยู่ในประเด็นที่พรรค ก.ก. ให้น้ำหนักมาก

Advertisement

เมื่อถามว่า หากข้อมูลที่ พล.ต.ต.ประวีณ เปิดเผยไม่ใช่ความจริง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ต้องดำเนินการเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่สามารถตั้งคณะกรรมการสอบพล.อ.ประวิตร ได้ จึงสามารถตั้งคณะกรรมการที่มีความโปร่งใส และทีมงานที่ได้รับการยอมรับมาดำเนินการ เมื่อสอบสวนเรียบร้อย และมีหลักฐานชัด ก็อาจจะได้รับการยอมรับและเป็นการลบล้างในสิ่งที่ตน พล.ต.ต.ประวีณ และสำนักข่าว อัลจาซีรา เสนอได้ หากรัฐบาลจะใช้กลไกศาลเพื่อพิสูจน์ ตนก็ไม่ค่อยมั่นใจในกลไกของศาลว่าจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าจะใช้กระบวนการในการฟ้องร้องอัลจาซีรา ก็เป็นสิทธิของรัฐบาล แต่วิธีที่ดีที่สุดคือ การทำให้ทุกอย่างโปร่งใส

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image