‘บิ๊กตู่’ ปลุกทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกซีเกมส์ ลั่นตั้งเป้าให้สูง ลงสนามต้องชนะ นำชื่อเสียงกลับประเทศ

‘บิ๊กตู่’ ปลุกทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกซีเกมส์เวียดนาม ตั้งเป้า 114 เหรียญทอง ส่งพลังท้าทายตัวเอง “ชี้”ลงสนามต้องชนะ พร้อมเกาะติดส่งกำลังใจ นำชื่อเสียงกลับปท.

เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม เข้าพบ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรับโอวาท

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ทุกคนเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ และมีโอกาสสร้างผลงานอย่างเต็มสติ กำลัง และความสามารถ เพื่อนำชื่อเสียงด้านการกีฬากลับมาสู่ประเทศให้เป็นความสุขกับชาวไทยอีกครั้ง จากข้อมูลเดิม ทราบว่าการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 30 ที่ผ่านมา ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ทีมนักกีฬาไทยสามารถสร้างชื่อเสียงคว้าเหรียญกลับบ้านได้ทั้ง 318 เหรียญ เป็นเหรียญทอง 92 เหรียญ เงิน 103 เหรียญ และทองแดง 123 เหรียญ จาก 54 ชนิดกีฬา ทีมนักกีฬาทั้งหมด 980 คน เป็นอันดับที่ 3 จาก 11 ประเทศ ในนามรัฐบาล และพี่น้องชาวไทย รู้สึกภาคภูมิใจ และขอขอบคุณทัพนักกีฬาไทยทุกคน รวมทั้งครูผู้ฝึกสอน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มขีดกำลังสามารถ เต็มศักยภาพ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย เป็นที่รู้จักและโดดเด่นในด้านการกีฬาในภูมิภาคอาเซียนเสมอมา ปีนี้เราตั้งเป้าไว้ 114 เหรียญทอง จาก 40 ชนิดกีฬา มีนักกีฬา 108 ราย และครูเจ้าหน้าที่อีก 300 กว่าคน วันนี้ขอชื่นชมนักกีฬาทุกคนทั้งหมดที่ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนทราบกันดีว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ทุกคนต้องอดทน มุมานะ มีวินัยในการฝึกซ้อม จนสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ จนได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศไทย ถือเป็นความภาคภูมิใจของตนเอง และมีเกียรติภูมิของครอบครัว ประเทศชาติ ขอให้นักกีฬาทุกคน ได้ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เต็มความสามารถ มีน้ำใจนักกีฬา เคารพ และปฏิบัติตามกฎ กติกา ที่วางไว้ สร้างมิตร สร้างความเข้าใจในประเทศไทย เป็นทูตกีฬา และทูตวัฒนธรรม ใช้กีฬาเป็นสื่อกลางในการเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน สร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงให้กับประเทศไทยของเรา เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชน เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นอีกหลายคน และขอให้ทุกคนได้เรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ได้จากการแข่งขัน มาพัฒนา แก้ไข ปรับปรุงฝีมือให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนช่วยพัฒนา ปรับปรุงวงการกีฬาของเราให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

“อยากให้ทุกคนตั้งเป้าไว้ว่าเมื่อลงไปในสนามแล้วเราต้องตั้งเป้าว่าเราต้องชนะ อยู่ที่ตัวนักกีฬาทุกคน ถ้าตั้งไปว่าทำให้ดีที่สุด แต่มันชนะหรือเปล่า ต้องตั้งเป้าหมายให้มันสูงไว้ก่อน เป็นความท้าทายที่พวกเราต้องเอาชนะตัวเองให้ได้ ทุกอย่างมันอยู่ที่กำลังใจด้วย เราอาจจะทำได้ดีกว่าสถิติที่เราซ้อมมา ถ้าเราตั้งใจไปสู่ชัยชนะ มันอาจจะไปถึงจุดนั้นได้ ถึงแม้ว่าสถิติต่างๆ เราจะสู้เขาไม่ได้ในกีฬาบางประเภท นั่นเป็นโอกาสของทุกคน ที่จะสามารถไขว่คว้าเหรียญมาเป็นรางวัลให้กับตัวเอง ทีม ประเทศชาติ และคนไทยในอนาคต ขอขอบคุณทุกคนและอวยพรให้ประสบความสำเร็จทุกอย่าง บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพื่อนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ผมจะติดตามการแข่งขันของท่านอย่างต่อเนื่อง เป็นกำลังใจให้ท่านเสมอไป” นายกรัฐมนตรีกล่าว

Advertisement

 

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image