‘สมชัย’ ยื่น กกต.สอบปมคลิปเสียง ‘แรมโบ้’ ชี้เข้าข่ายผิด กม.เลือกตั้ง ขู่เพิกเฉยไม่ตั้ง กก.ไต่สวนเจอฟ้อง 157 ฐานละเลยปฏิบัติหน้าที่แน่
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 เมษายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย (สร.) พร้อมด้วย นายวีระ สมความคิด ประธานยุทธศาสตร์แผนงานต้านคอร์รัปชั่น พรรค สร. เข้ายื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เนื่องจากคลิปเสียงบทสนทนาที่หลุดออกมามีประเด็นสุ่มเสี่ยงกระทำความผิดกฎหมายการเลือกตั้ง
โดยนายสมชัยกล่าวว่า คลิปเสียงกล่าวถึงการใช้จ่ายเงินเป็นร้อยล้านบาทในการเลือกตั้ง ซึ่งคู่สนทนาคือ นางจุรีพร สินธุไพร อดีตข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตนจึงนำคลิปเสียงและคำถอดเทปมาให้ กกต.เพื่อตรวจสอบคือ 1.การใช้จ่ายเงินเกินที่กฎหมายกำหนด ที่เกินวงเงิน 1.5 ล้านบาท 2.แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเป็นเท็จ และ 3.จะถือเป็นโอกาสหรือไม่ที่จะนำเงินดังกล่าวนั้นไปใช้ในการซื้อเสียง ซึ่งจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73(1) ดังนั้น จึงอยากให้ กกต.ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
นายสมชัยกล่าวว่า ถ้า กกต.ไม่ตั้งคณะทำงานเราขอสงวนสิทธิในการที่จะฟ้อง กกต.ทั้งคณะฐานละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ จากนี้จะให้โอกาสหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ทำงานก่อน เช่น เรื่องรองเท้าราคาแพงที่นางจุรีพรรับเกินกรอบเงินที่กำหนด เรื่องนี้ตนมองว่าประธาน ป.ป.ช.ต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาไต่สวนเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
ด้านนายวีระกล่าวว่า กรณีนี้ถ้าไม่มีการหลุดของคลิปเสียงสังคมเคยคิดหรือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่พอคลิปเสียงมีการหลุดออกมาเลยมีการออกมาปฏิเสธว่าเป็นเพียงการพูดเล่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่การพูดเล่น เพราะอย่างที่รู้ว่าถ้าไม่มีคลิปเสียงนี้ออกมาจะมีความผิดอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่ จะมีการต่อรองเรียกเงินอีก 5 ก้อนใช่หรือไม่ มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ กกต.ต้องตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าเรื่องนี้เข้าข่ายเชื่อว่ามีการกระทำผิด ใช้เงินเกินที่กฎหมายกำหนด และอาจจะมีการนำเงินไปซื้อเสียงด้วย
“ผมได้ข่าวว่านายเสกสกลให้นายสนธิญา สวัสดี ไปแจ้งความกรณีการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และหมิ่นประมาทกับผมนั้น นี่รออยู่ว่าตำรวจจะมีหมายเรียกผม แล้วผมจะเอาคดีนี้เข้าไปเลย เมื่อนายเสกสกลอยากจะเปิดเรื่องเอง ถือว่าดี ผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาที่จะต้องนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ เพราะผมยังไม่มั่นใจในกระบวนการตรวจสอบมันจะได้ผลหรือไม่ แต่ถ้าเกิดนายเสกสกลดำเนินคดีกับผมเรื่องนี้จะเข้าสู่ศาลเลย ผมจะรีบเข้าพบตำรวจและรีบให้การในศาล และบอกไปถึงนายเสกสกลว่าอย่าถอนคดีนี้ หลักฐานเก็บไว้หมดแล้ว มีคนรู้เห็นหลายคน นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณและแนวร่วม กปปส. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ รู้ดีในเรื่องนี้” นายวีระกล่าว
“ถ้านายเสกสกลพูดเล่นแล้วจะถูกบีบให้ออกจากตำแหน่งเพื่ออะไร หรือเพื่อตัดตอนไม่ให้ถึงใครหรือไม่ เรื่องนี้สังคมไม่ควรจบ ฉะนั้น อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไป การที่นายเสกสกลและนางจุรีพรบอกว่าพูดเล่นกัน และลาออกจากตำแหน่งแล้วจบนั้น บอกเลยว่าจบไม่ได้” นายวีระกล่าว