‘วิโรจน์’ ชวนเปลี่ยนเกม ‘โรม’ เย้ยตู่-ปลุกนักการเมืองกล้า ให้สัญญา ‘ทลายคอร์รัปชั่น’ ถ้าได้เป็น รบ.

‘วิโรจน์’ ปลุกใจเปลี่ยนเกม ต้องก้าวไกลทั้งแผ่นดิน ด้าน ‘โรม’ เย้ย ‘บิ๊กตู่’ ขนาด ส.ส.พรรคตัวเอง ยังไม่เสนอชื่อเป็นนายกฯ กระตุกนักการเมือง ต้องกล้าหาญ พร้อมให้คำมั่น ทลายคอร์รัปชั่น ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 เมษายน ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคก้าวไกลจัดประชุมสามัญใหญ่ประจำปี 2565 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) พรรคก้าวไกล ขึ้นกล่าวบนเวที “เปลี่ยนประเทศไทย ก้าวไกลทั้งแผ่น” ในฐานะอดีตโฆษกพรรคก้าวไกล

นายวิโรจน์กล่าวว่า ตนอยากให้ตั้งคำถามกับตัวเองถึงการมาเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ตั้งแต่ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่มา ถึงพรรคก้าวไกลต้องการแก้ไขเปลี่ยนแปลง เราจะอยู่ในโครงสร้างเดิม หลับตาข้างเดียว ปล่อยให้ความอยุติธรรมเกิดขึ้นต่อไปไม่ได้ ถ้าไม่แก้โครงสร้างแล้วคิดแต่การบริหารภายใต้เงื่อนไขกระอักกระอ่วน น้ำท่วมปากพูดไม่ได้ หลับตาเฉไฉมองไปทางอื่น ถ้าคิดจะมาบริหารภายใต้การบริหารที่กระอักกระอ่วน ปล่อยให้คนกลุ่มหนึ่งได้ประโยชน์ แต่คนส่วนใหญ่ถูกเอาเปรียบ นับวันความเหลื่อมล้ำจะขยายตัวใช่หรือไม่ อย่าลืมว่าฝ่ายอุปถัมภ์วันนี้ไม่ได้หดตัว แต่ใหญ่โตขึ้น ทรัพยากรจะถูกสูบจนประชาชนจะเหลือแต่เศษเนื้อข้างเขียง นี่คือเหตุผลที่มาเป็นสมาชิกพรรค

“จริงๆ ไม่อยากออกตัวแรง แต่ไม่พูดไม่ได้ พรรคก้าวไกลไม่ต้องการมาเป็นผู้เล่นใหม่ในเกมแบบเดิม แต่เราต้องการเข้ามาเปลี่ยนเกม ตกลงเราอยากเปลี่ยนแค่ผู้เล่นหรือเปลี่ยนเกม ถ้าอยากเปลี่ยนเกมต้องก้าวไกลทั้งแผ่นดินเท่านั้น” นายวิโรจน์กล่าว

จากนั้น นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวบนเวทีในวาระรับตำแหน่งโฆษกพรรคคนใหม่ โดยวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองว่า เผลอๆ อาจจะมีการเลือกตั้ง ตั้งแต่ปีนี้ ขนาด ส.ส.พรรคตัวเอง ยังไม่อยากเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นนายกฯเลย สารจากพรรคก้าวไกลคือ วันนี้มารวมตัวเพื่อนับถอยหลังระบอบปรสิต พอกันทีระบอบประยุทธ์ คุณสมบัติสำคัญที่เหมาะสมของนักการเมืองพรรคก้าวไกล ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความความกลัว คือ ต้องไม่กลัว เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจึงพูดเรื่องตั๋วช้าง ดาวเทียม ป่ารอยต่อ และการค้ามนุษย์ วันนี้ตนไม่โดดเดี่ยวเพราะประชาชนเขารู้ ตาสว่างแล้ว และวันนี้เราต้องอยู่ในบรรยากาศที่ประเทศมาถึงจุดที่ต้องเลือก พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นนายกฯ กันแบบนี้แล้วหรือ จะบอกว่าที่ไปตกลงกันนั้น เราไม่เอา พรรคก้าวไกลจะเอา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ

Advertisement

นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า สารภาพกันตรงๆ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ เราต้องอาศัยความกล้าอย่างมาก ทั้งตั๋วช้างหรือเรื่องค้ามนุษย์ ตนไม่ใช่นักการเมืองไทยคนแรกที่รู้เรื่องนี้ ทุกคนในสภารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศ แต่ที่เกิดขึ้นตลอดคือ ความกลัวมันกัดกินสภา ทำให้นักการเมืองที่ควรเป็นตัวแทนประชาชน กลับต้องไปสยบศิโรราบกับคนชั้นนำไม่กี่คน ทำให้ข้าราชการดีๆ อย่าง พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ต้องลี้ภัย ถ้าไม่ทลายทุนผูกขาด ปฏิรูปกองทัพ ไม่จัดวางสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เหมาะสมต่อระบอบประชาธิปไตย คนอย่าง พล.ต.ต.ปวีณไม่มีวันได้กลับบ้านเกิดอย่างแน่นอน นี่คือภารกิจของพรรคก้าวไกล ถ้าเราล้มเหลว อาจจะเห็นลูกหลานเป็นผู้ลี้ภัยคนต่อไป จะมีคนในครอบครัวเราถูกตามล่า เราจะยอมให้ล้มเหลวหรือไม่ ถ้าไม่ยอมก็ต้องเลือกก้าวไกลทั้งแผ่นดิน

“ที่ผ่านมา 80 กว่าปี ที่เรามีประชาธิปไตย ถามว่า มันไม่มีคนเสนอนวัตกรรม หรือนโยบายทางเศรษฐกิจที่ดีหรือ แต่ที่ประเทศไทยไม่เปลี่ยนไปเพราะมันเจอ ‘ตอ’ ถ้าไม่เรียกความกล้าหาญของนักการเมืองแล้วจะเปลี่ยนประเทศได้อย่างไร ความกล้าหาญจึงเป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของนักการเมือง

พอได้แล้วกับการปล่อยให้ประชาชนต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว พอได้แล้วกับการหวงที่นั่ง พอได้แล้วกับความรู้สึกว่าสู้ๆ ไปเดี๋ยวก็ถูกยุบพรรค แล้วจะมีพรรคการเมืองทำไม ถ้าไม่คิดจะทำอะไร ถ้ากลัวก็จงอย่ามาเป็นนักการเมือง พูดอย่างนี้ไม่ใช่จะบอกว่า คนที่จะมาลง ส.ส.ก้าวไกล ทุกคนต้องพูดเรื่องสถาบันฯ พูดเรื่องป่ารอยต่อ ตั๋วช้าง คนๆ นั้นอาจจะพูดเรื่องสิ่งแวดล้อม สวัสดิการ ความเท่าเทียมทางเพศก็ได้ แต่สิ่งพื้นฐานที่ต้องมี คือ ไม่กลัว” นายรังสิมันต์กล่าว และว่า ตนเชื่อจริงๆ ว่า ถ้าเราทำภารกิจนี้สำเร็จ เราสร้างนักการเมืองที่กล้าหาญเข้าสู่สภาได้ ประเทศไทยไม่ใช่แค่เปลี่ยน แต่เปลี่ยนไปเลย เปลี่ยนไปแล้วไม่กลับมาที่เดิมอีกแล้ว ทั้งหมดที่พูดมาราคามันแพง ตนและ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เราอภิปรายทำภารกิจ ส.ส. แต่ถูกดำเนินคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท โดยบริษัทหนึ่ง แต่ยืนยันว่าไม่ว่าจะโดนคดีแค่ไหน สัญญาว่าจะไม่เห็นก้าวไกล และรังสิมันต์ยอมแพ้เด็ดขาด และจะทำให้มั่นใจว่าระบบตั๋ว เส้นสาย พรรคพวกพวกพ้อง อะไรก็ตามที่เป็นคอร์รัปชั่น ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นอดีต นี่คือคำสัญญาของตนและพรรคก้าวไกล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image