เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ต.ท.มานิตย์ ทองขาว รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สำราญราษฎร์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส. ศิริกาญจน์ เจริญศิริ หรือจูน ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่น และขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป โดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนที่ น.ส.ศิริกาญจน์จะเดินทางกลับไป
พ.ต.ท.มานิตย์กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบปากคำ หากต้องการสอบปากคำเพิ่มเติมสามารถเชิญตัวมาให้ปากคำได้ทุกเมื่อ หากการสอบปากคำครบถ้วน จะต้องนำตัวส่งศาลทหาร ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องนำส่งศาลทหารเนื่องจากคดีดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการประกาศให้คดีในลักษณะดังกล่าวขึ้นศาลพลเรือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2559 น.ส.ศิริกาญจน์ถูกพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฏร์ ออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ฐานชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปและยุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา116 พร้อมกับนายรังสิมันต์ โรมและพวก โดยระบุให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2559 แต่ น.ส.ศิริกาญจน์ขอเลื่อนการเข้าพบ กระทั่งมาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกันเฟซบุ๊ก Rangsiman Rome ของนายรังสิมันต์ โรม แกนนำขบวนการประชาธิปไตยใหม่ กับ Chonthicha Kate Jangrew ของ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว โพสต์ภาพการเดินทางไปให้กำลังใจ น.ส.ศิริกาญจน์ ให้การเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมข้อความระบุว่า “พวกเราศิษย์เก่าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาให้กำลังใจพี่ Sirikan June Charoensiri ที่ต้องมารับทราบข้อกล่าวหาตามมาตรา 116 (ยุยงปลุกปั่น) และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/58 (ชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน) จากการเป็นทนายให้พวกเรา ความหมายของการรับทราบข้อกล่าวหาครั้งนี้คือ พี่จูนถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการร่วม หรือเป็นตัวการวางแผนร่วมกันกับพวกเรา เพียงเพราะพวกเราได้ฝากทรัพย์สินมีค่าเอาไว้กับพี่จูนก่อนที่พวกเราต้องไปอยู่ในเรือนจำ (บรรดาคนใกล้ชิดและญาติๆ ไม่สามารถเข้ามาในศาลทหารได้เลย) และถ้ายังจำกันได้ พวกเราทั้ง 14 คนถูกนำตัวไปฝากขังจากการไปชุมนุมต่อต้าน คสช. เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2558 (ขึ้นศาลวันที่ 26 มิถุนายน และนำตัวไปฝากขังในคืนนั้น) แต่พวกเราได้ฝากทรัพย์สินมีค่ากับพี่จูนไว้ในวันที่ 26 มิถุนายน 2558 ซึ่งในทางกฎหมาย กรณีเช่นนี้เป็นกรณีต่างกรรมต่างวาระ ไม่สามารถเอามารวมกันเป็นคดีเดียวกับพวกเราได้เลย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อธิบายว่า การรับฝากทรัพย์สินพวกเราของพี่จูนนั้นมีความต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์วันที่ 25 มิถุนายน 2558 ผลคือ พี่จูนซึ่งเป็นทนายของพวกเราได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงที่มีอัตราโทษร้ายแรงเสียอย่างงั้น พวกผมในฐานะที่เป็นลูกความก็ขอให้กำลังใจพี่จูน และขอขอบคุณทุกๆ อย่างที่พี่จูน ทีมทนายทุกคนช่วยดูแลมาโดยตลอด ถ้าไม่ได้พี่ๆ วันนั้น พวกเราคงแย่แน่ๆ”
