‘สหภาพคนทำงาน’ รวมตัวแน่นราชประสงค์ ‘ชาวเมียนมา’ แจมคึก เดินขบวนปราศรัยเดือด ชูกำปั้นทวงสิทธิเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 1 พฤษภาคม บริเวณแยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “สหภาพคนทำงาน” ร่วมกับกลุ่มผู้ใช้แรงงานชาวไทย พร้อมด้วยแรงงานชาวเมียนมาในประเทศไทย รวมตัวกันเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ และวันกรรมกรสากล 1 พฤษภาคม
ต่อมาในเวลา 16.00 น. แรงงานชาวไทยและเมียนมาเริ่มตั้งขบวนบนผิวจราจรถนนราชดำริ เตรียมเคลื่อนขบวนไปยังหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แยกปทุมวัน นำขบวนโดยกลุ่ม “ราษฎรัมส์” ตีกลองสร้างความครึกครื้น ในขณะเดียวกันสหภาพคนทำงานปราศรัยบนรถเครื่องเสียง กล่าวว่า คนทำงานทุกคน ทุกสาขาอาชีพ คือแรงงาน ขอให้ทุกท่านที่สนใจเข้าร่วมขบวน
จากนั้นมีการแจกริบบิ้นสีแดงให้ผูกที่ข้อมือสำหรับกิจกรรม “ชูกำปั้น” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแรงงานสากล และแจกจ่ายธงสีแดงให้ผู้ร่วมขบวนถือโบกสะบัด
เวลา 16.30 น. มีการแสดงละครเนื้อหาเกี่ยวข้องกับผู้ใช้แรงงาน ไม่ว่าจะเป็นกรรมกร แม่ค้า แพทย์ ครูอาจารย์ และผู้ให้บริการด้านต่างๆ
เวลา 16.55 น. เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าหอศิลปและวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดูแลความสงบเรียบร้อย ขบวนแรงงานตะโกนตำหนิอย่างรุนแรง พร้อมชู 3 นิ้ว หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เวลาราว 17.00 น. ขบวนผ่านมาถึงวัดปทุมวนารามฯ มีการกล่าวรำลึกและวางดอกไม้เพื่อรำลึกคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตจากเหตุสลายชุมนุมปี 2553
เวลา 17.40 น. เดินขบวนต่อไปโดยชูกำปั้นซ้ายที่ผูกด้วยริบบิ้นสีแดงบนข้อมือเป็นสัญลักษณ์
ต่อมาเวลา 18.20 น. มีการปราศรัยบริเวณลานหน้าหอศิลป์อย่างต่อเนื่อง ผู้ร่วมกิจกรรมกระจายตัวทั่วลานดังกล่าวจนเกือบเต็มพื้นที่ กระทั่งเวลา 18.30 น. “มีมี่” เยาวชนนักกิจกรรมและคณะ ทำการแสดง “คนทำงานลุยไฟ” ดัดแปลงจาก “สีดาลุยไฟ” มีเนื้อหาเกี่ยวกับการที่แรงงานต้องถูกกดหัวจากค่าแรงขั้นต่ำที่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ
จากนั้น นางศรีไพร นนทรีย์ ตัวแทนแรงงานปราศรัยอย่างดุเดือดในประเด็นค่าจ้างขั้นต่ำ สิทธิแรงงาน กฎหมายแรงงาน และพัฒนาการทางประวัติศาสตร์การต่อสู้ของแรงงานไทย ต่อมา นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ จากกลุ่ม People Go Network ปราศรัยในประเด็น “กฎหมายแรงงานสัมพันธ์” และสิทธิในการรวมตัวของแรงงาน การเจรจาต่อรอง และสมานฉันท์ข้ามกลุ่มองค์กร
ต่อมาเมื่อเวลาราว 19.15 น. แรงงานชาวเมียนมาปราศรัย จากนั้นมีการแสดงโดย “ภาคีการละครเพื่อคนทำงาน” ก่อนยุติกิจกรรมในเวลาราว 19.30 น.