ตำรวจพรึ่บ – ‘นาดสินปฏิวัติ’ สานอุมดการณ์เพื่อนนักสู้ จัดร้องรำหยุดขัง ช่วงชิงพื้นที่ทางศิลปะ บวงสรวง-แสดงโขน กลางอนุสาวรีย์ ปชต.
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ กลุ่มนาดสินปฏิวัติ จัดกิจกรรม “นาฏศิลป์เพื่อเสรี ดนตรีเพื่อมวลชน” เพื่อช่วงชิงพื้นที่ทางวัฒนธรรมและแสดงเจตจำนงสานต่ออุดมการณ์ของเพื่อนที่ถูกคุมขังในเรือนจำ จากการเคลื่อนไหวทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเวลา 10.00 น. สมาชิกกลุ่มนาดสินปฏิวัติ กลุ่มตีนไก่ปฏิวัติ และกลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร เดินทางมารวมตัวที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงครามจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบได้กระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์โดยรอบ ด้านเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร นำรถฉีดน้ำเข้ามาดูแลสวนหย่อมรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในเวลาเดียวกัน
เวลา 10.20 น. กลุ่มนาดสินปฏิวัติ เดินเท้าเข้าไปเตรียมพื้นที่ทำกิจกรรมที่ฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยขนอุปกรณ์ มาตั้งโต๊ะบวงสรวง หันหน้าไปทางบูรพาทิศ จากนั้นทีมงานจัดเตรียมของไหว้ อาทิ หัวหมู, ไข่ต้ม, ธูป 108 ดอก, เทียนขาว, เหล้าขาว, น้ำแดง พวงมาลัยดอกดาวเรือง นำขึ้นโต๊ะบวงสรวง โดยเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบร่วมบันทึกภาพตลอดกิจกรรม
ทั้งนี้ สมาชิกกลุ่มนาดสินปฏิวัติ ระบุด้วยว่า เมื่อทำพิธีเสร็จแล้วจะแจกหัวหมูให้ตำรวจ เผื่อว่ากินแล้วจะเชื่องขึ้น ก่อนทำการพูดคุยหาฤกษ์ทำพิธี โดยขอให้เป็นช่วงเวลาที่ลงท้ายด้วยเลข 9 ผู้ร่วมงานเห็นว่าควรเริ่มพิธีในเวลา 10.49 น.
เวลา 10.42 น. สมาชิกกลุ่มนาดสินปฏิวัติ ใช้ธูป 1 ดอก ไหว้เจ้าที่ ก่อนกล่าวถึงการทำกิจกรรมวันนี้ว่า เรามาเพื่อร่วมกันร้องรำทำเพลงหยุดขัง ช่วงชิงพื้นที่ทางวัฒนธรรม เสรีภาพแห่งอารมณ์การรับรู้และรสนิยมทางศิลปะ และมาร่วมกันแสดงเจตจำนงสานต่ออุดมการณ์ของเพื่อนและพี่น้องของเราที่ยังอยู่ในเรือนจำ ตรงนี้จะมีการจุดธูป ไม่ได้มีการวางเพลิง อย่าตกใจ
กระทั่งเวลา 10.49 น. เริ่มทำพิธีด้วยการจุดธูปร่ายคาถาภาษาบาลีสันสกฤต เพื่อขับไล่เสนียดจัญไร ก่อนปักธูป 108 ดอก บนของไหว้ และหัวหมู ผู้ร่วมงานบางส่วนนำธูปไปปักรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ประจำบนรถกระบะ กว่า 6 คัน หน้าซอยดำเนินกลางเหนือ
กลุ่มนาดสินปฏิวัติกล่าวชี้แจงว่า ในพิธีของเรา ถ้าไฟยังลุกโชนถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง และไฟเราไม่ดับ ก่อนร่วมกันชู 3 นิ้ว เปล่งเสียง “ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”
จากนั้น เข้าสู่ช่วงการบรรเลงดนตรีและร่ายรำส่งกำลังใจถึงเพื่อนในเรือนจำ
นักกิจกรรมหญิงกล่าวว่า เราเข้าใจว่าเป็นการชุมนุมของมวลชน แต่ความจริงเป็นการชุมนุมของตำรวจ เพราะมาน่าจะมากกว่า 1 กองร้อย ดีมากจริงๆ
จากนั้น เริ่มการแสดงโดย “มิ้น” กลุ่มนาดสินปฏิวัติ สมาชิกกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย แต่งกายด้วยชุดล้านนา ทำการฟ้อนหน้ากาก ชุดเวรัมภา เวกฉัตร ซึ่งเป็นศิลปะการร่ายรำที่ไม่ค่อยได้พบเห็นมากนัก ต่อด้วยการแสดงโขน 3 ชุด โดยผู้ชมร่วมลุ้นขณะสุครีพเข้าแย่งฉัตร, ทศกัณฐ์ขอให้หนุมานช่วยปราบพระราม รวมถึงตอนหนุมานถือกล่องดวงใจ ทั้งนี้ การแสดงโขนจบลงด้วยฉากพระรามแผลงศร โดยทศกัณฐ์ต้องศรของพระรามก่อนล้มลงไป
“มิ้น” ผู้แสดงฟ้อนหน้ากาก กล่าวว่า วันนี้ที่เรามา เพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่า ยังจะยึดมั่นอุดมการณ์เหมือนเพื่อน เหมือนน้องของเราที่อยู่ในเรือนจำ
“ยืนยันอีกครั้งว่า พวกเขาไม่ได้มีความผิด ไม่ได้เป็นคนร้าย ไม่ใช่อาชญากร คนที่เห็นต่างไม่ควรที่จะถูกกีดกันอิสรภาพ ด้วยการถูกคุมขัง เราจึงมาจัดกิจกรรม และหวังว่าเพื่อนของเราจะได้ออกมาเร็วๆ นี้ มาชมการแสดงที่เราจัดวันนี้”
“ตอนเช้าต้องบอกเลยว่า ตกใจมาก ตำรวจมีเยอะกว่าสื่อมวลชน ก็ต้องขอบคุณที่มาดูแลความเรียบร้อย มาสังเกตการณ์ มาถ่ายภาพ ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราน่าจะรู้สึกปลอดภัย หรือเปล่า ไม่แน่ใจ” มิ้นกล่าว
จากนั้น “กันต์” ร้องเพลงให้เพื่อนในเรือนจำ ทั้ง 12 คน อาทิ เพลงตะวันฉาย ของ จิ้นกรรมาชน เนื้อหากล่าวถึง เสรีภาพที่ต้องสู้จึงจะได้มา เพื่อความยุติธรรมและสังคมที่เท่าเทียม
กันต์กล่าวว่า เพลงนี้แทนความรู้สึกได้ ต่อให้จับกุมคุมขังเพื่อนเราได้ แต่ก็ไม่สามารถกักขังอุดมการณ์ของพวกเขาได้
ด้าน นายโชคดี ร่มพฤกษ์ หรืออาเล็ก ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ขับร้องบทเพลงที่เนื้อหากล่าวถึง มาตรา 112 อาทิ เพลง 112 ไม่ใช่ซองผ้าป่า
จากนั้น “เตย” กลุ่มตีนไก่ปฏิวัติ อ่านบทกวีของปฐพีกวีดิน ส่งถึงเพื่อนในเรือนจำ เพื่อยืนยันถึงการต่อสู่
บรรยากาศเวลา 11.43 น. สมาชิกกลุ่มนาดสินปฏิวัติ กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เราจัดกิจกรรมเล็กๆ ไม่ได้ต้องการเจ้าหน้าที่มาดูแลขนาดนั้น ขนกำลังมาทำไม เอาภาษีมาผลาญหรือ และวันนี้มีเพื่อนเรารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 3 คน
จากนั้น ผู้ร่วมงานร่วมร้องเพลง “ฝากรักถึงเจ้าผีเสื้อ” ด้านมิ้น ร้องเพลง “เพื่อมวลชน” และ “ตะวันฉาย”
เวลา 12.10 น. มิ้น กล่าวสรุปกิจกรรมว่า วันนี้กิจกรรมเราก็บรรลุ ความจริงอยากบอกว่า กิจกรรมที่ทำมีนัยยะสำคัญ ต้องขอขอบคุณที่สวรรค์เบิกฟ้า ตำรวจเปิดทางให้เราได้ทำกิจกรรม
“วันนี้เราเลือกตอนของโขนที่มาเล่น คือตอนสุครีพหักฉัตร, หนุมานชูกล่องดวงใจ และทศกัณฐ์ล้ม ซึ่งโดยปกติแล้ว จะไม่เล่นตอนสุครีพหักฉัตร และทศกัณฐ์ล้ม เพราะเป็นเรื่องของลางร้าย วันนี้เราสามารถช่วงชิงพื้นที่ทางศิลปะได้สำเร็จ” มิ้นกล่าว ก่อนขอบคุณผู้ร่วมงาน ปิดท้ายด้วยการยืนชู 3 นิ้วร้องเพลงสรรเสริญประชาชน และยุติกิจกรรมในเวลา 12.21 น.
