กมธ.กม. จี้ ครม.เร่งคืนอำนาจผู้ว่าฯ คานอำนาจอัยการสั่งฟ้อง–ไม่ฟ้องคดีอาญา หวังสภาพิจารณาทันสมัยประชุมนี้
เมื่อเวลา 12.35 น. วันที่ 11 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรักษาการประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า กมธ.ได้ติดตามทบทวนการพิจารณาคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ หลังเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 สภาฯ มีมติเห็นชอบรายงานการศึกษาของกมธ.ในเรื่องดังกล่าว สาระสำคัญ คือ ยกเลิกมาตรา 145/1 ป.วิอาญา และให้ผู้พิพากษาพิจารณาคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ซึ่งน่ายินดีว่าหลังจากรายงานดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ และแจ้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบแล้ว กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการยกร่างกฎหมาย พร้อมรับฟังความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 และนำเสนอต่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงนามให้ความเห็นชอบ เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอครม. เห็นชอบพิจารณาร่างกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตที่ต้องติดตามต่อ คือ แม้พล.อ.อนุพงษ์ และพล.อ.ประวิตร จะลงนามเห็นชอบให้คืนอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความเห็นแย้งในคดีอาญา แต่เวลาผ่านมากว่า 1 เดือน เรื่องนี้กลับยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของครม. ทั้งที่เอกสารประทับตราด่วนที่สุด โดยกมธ.จะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยหวังว่าจะพิจารณาได้ทันสมัยประชุมนี้
“หลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ได้มีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 15/2557 โอนอำนาจจากผู้ว่าฯ ไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค เวลาผ่านมาจนบัดนี้มีรัฐธรรมนูญ 60 การโอนอำนาจดังกล่าวผ่านมา 7 ปีแล้ว กมธ.จึงเสนอให้ปรับมาอยู่ในอำนาจผู้ว่าฯ เหมือนเดิม เพื่อให้เข้าลักษณะถ่วงดุลอำนาจ” นายชวลิต กล่าว
นายชวลิต กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมกมธ.ยังพิจารณาปัญหาความเดือดร้อนประชาชน จากการบังคับใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2563 ปรากฏว่ามีภาคส่วนต่างๆ ร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากกฎหมายฉบับนี้อย่างมาก แม้รัฐบาลจะผ่อนผันลดอัตราภาษีลง แต่ปัจจุบันเก็บ 100% วันนี้กมธ.จึงมีมติให้มีหนังสือถึงกระทรวงการคลัง ขอให้มีพระราชกฤษฎีกาผ่อนผันการเก็บอัตราภาษีลงตามความเหมาะสม เพราะหากเก็บ 100% ประชาชนจะเดือดร้อน นอกจากนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยเฉพาะกทม. ได้แจ้งต่อกมธ.ว่าพบปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติอย่างมาก ผู้แทนกฤษฎีกาจึงแนะนำว่าถ้ากฎหมายที่ใช้อยู่มีอุปสรรค การประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายฉบับนี้จะต้องพิจารณาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางคลี่คลายปัญหา วันนี้เรารับฟังความเห็นจากสำนักงานเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง อปท. เทศบาล เมืองพัทยา และกทม. ดังนั้น การประชุมกมธ.ครั้งหน้าจะเชิญภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ที่เดือดร้อนจากการบังคับใช้กฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มาให้ข้อมูลเพื่อที่กมธ.จะได้รวบรวม และเสนอแนะสภาฯ ต่อไป
