‘จุรินทร์’ เมิน ‘เพื่อไทย’ ชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน ยันชูผลงาน-อุดมการณ์ มั่นใจภาคใต้เราจะคัมแบ๊ก
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทยชูแคมเปญดึงคนเสื้อแดงกลับบ้าน จะมีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกพรรคการเมืองจะต้องหาเสียง อย่างน้อยที่สุดถึงแม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเดินไปตามปกติ ปีหน้าก็ต้องมีการเลือกตั้งทั่วไป เพราะรัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี สภาอยู่ครบ 4 ปี แต่ละพรรคการเมืองจึงต้องมีแนวทางหาเสียงของตัวเอง ดูว่าฐานเสียงอยู่ตรงไหนซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนประชาชนจะพิจารณาอย่างไรอยู่ที่บทเรียนในประวัติศาสตร์ ซึ่งประชาชนได้ติดตามสถานการณ์ทั้งอดีตและปัจจุบัน และคาดการณ์อนาคตว่าเป็นอย่างไร สุดท้ายจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนได้
นายจุรินทร์กล่าวว่า ในประวัติศาสตร์ทุกพรรคเคยปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว ยกเว้นพรรคที่เกิดใหม่ ดังนั้น จะเป็นส่วนสำคัญในการนำมาประกอบการพิจารณาของประชาชนได้ และเมื่อประชาชนตัดสินใจอย่างไรเราก็ต้องเคารพในระบอบประชาธิปไตยขึ้นอยู่กับเสียงของประชาชนที่เป็นตัวตัดสิน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะชูเรื่องใด หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ชูผลงานกับอุดมการณ์ ซึ่งมีความชัดเจน และตนได้ประกาศไปที่จังหวัดสงขลาแล้วว่าอย่างน้อยที่สุดพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้เรามั่นใจว่าเราจะคัมแบ๊ก นั่นหมายความว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนภาคใต้อีกวาระหนึ่ง เชื่อว่าน่าจะเป็นเช่นเดียวกันกับประชาชนทั้งประเทศที่ได้เห็นผลงานเฉพาะในช่วงที่เราร่วมรัฐบาลก็มีผลงานทั้งเรื่องราคาพืชผลการเกษตรที่ดีทุกตัว ข้าว ยางพารา ปาล์ม มันสำปะหลัง ข้าวโพด ผลไม้ และการประกันรายได้เกษตรกรในสภาวะพืชผลการเกษตรตกต่ำ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ส่งเสริมนโยบายดังกล่าว การส่งออกสร้างเม็ดเงินให้ประเทศจำนวนมหาศาล
เมื่อถามว่า รู้สึกหวั่นหรือไม่ว่าขณะนี้ในภาคใต้กระแสของพรรคภูมิใจไทยมีมากขึ้น นายจุรินทร์กล่าวว่า คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ตนประเมินอยู่ตลอดเวลา และพรรคประชาธิปัตย์มีผู้สมัครครบทุกพื้นที่แล้วในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกำหนดนโยบายชัดเจน ตอนนี้คนภาคใต้ก็พอใจกับราคายางพารา ประกันรายได้ ผลไม้ราคาดีมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครและ ส.ก.ประเมินอย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนไม่อยู่ในฐานะจะพูดได้ถึงแม้ว่าอยากจะพูด เพราะกฎหมายบังคับไว้ว่าหัวหน้าพรรคผู้มีตำแหน่งทางการเมืองช่วยหาเสียงไม่ได้ จึงกลายเป็นจุดอ่อนที่เกิดจากกฎหมาย ดังนั้น ต้องรอการแก้กฎหมายในรอบต่อไป แต่เท่าที่ติดตามทั้งผู้สมัคร ส.ก. และผู้ว่าฯกทม.ของพรรค ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่อยู่ในขณะนี้
