“สุชัชวีร์”ปราศัยใหญ่ ชี้ ฝนตกหนัก ฟ้าส่งสัญญาณ คนกทม.เลือกผู้ว่าฯผิดไม่ได้

‘สุชัชวีร์’ ปราศัยใหญ่ครั้งที่ 3 ฝังธนใต้ ลั่นขอเป็นผู้ว่าฯ แก้ปัญหาน้ำท่วมกรุง ชี้ฝนตกหนักเหมือนฟ้าส่งสัญญาณคน กทม.เลือกผู้ว่าฯผิดไม่ได้-ผู้ว่าฯไม่ใช่นักการเมืองต้องเป็นนักแก้ปัญหาเมือง

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.เวลา 17.30 น. ที่ลานสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ซอยบางขุนเทียน 14 เขตบางขุนเทียน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ เปิดปราศรัยใหญ่ ครั้งที่ 3 พร้อมผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 6 เขต ด้านฝั่งธนใต้ เขตบางขุนเทียน เขตบางบอน เขตหนองแขม เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครุ และเขตจอมทอง โดยมีผู้เข้าร่วมปราศรัย ทั้งนายเมธี อรุณ หรือเมเธ ลาบานูน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส นางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ๊ง

จากนั้นเวลา 19.10 น. นายสุชัชวีร์กล่าวปราศรัยว่า เมื่อวาน (17 พ.ค.) ฝนตกหนัก จนน้ำท่วมทั่วกรุงเทพฯก่อนวันเลือกตั้ง 4 วัน เหมือนสัญญาณที่ส่งจากท้องฟ้า ธรรมชาติบอกพี่น้องประชาชนกรุงเทพฯทุกคนว่า ท่านจะเลือกกผู้ว่าฯผิดคนไม่ได้ เพราะนี่คือสัญญาณของธรรมชาติจากท้องฟ้าบอกคนกรุงเทพฯทุกคนว่าวันนี้ธรรมาชาติจะเอาคืน หมายความว่าจากนี้ไปฝนจะไม่ตกน้อยลง ปัญหาน้ำท่วมจะไม่น้อยลง ถ้าไม่ได้ผู้นำที่ชื่อ “สุชัชวีร์” เรื่องน้ำท่วมหลายคนบอกว่าเราจะหมดหวัง แต่ตนบอกกับทุกคนว่าท่านหมดหวังไม่ได้ โดยเฉพาะพี่น้องชาวบางขุนเทียน เพราะถ้าท่านหมดหวังคนที่ลำบากคือลูกหลานท่าน และหลักหมุดที่ 28, 29 ที่ชายทะเลบางขุนเทียน บอกทุกสิ่งทุกอย่างในอนาคต วันนี้เสาไฟฟ้าไปอยู่กลางทะเลแสดงว่าวันนี้ธรรมชาติรุกคืบท่าน ไม่ใช่ทุกปีแต่เป็นทุกวันๆ กรุงธนใต้ คือปราการด่านสุดท้ายของกรุงเทพฯ

นายสุชัชวีร์กล่าวต่อว่า เวทีกรุงเทพฯไม่ใช่เวทีคิดต่างทางการเมือง แต่เป็นเวทีในการเลือกผู้ว่าฯกทม.ที่ต้องทำงานดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนและเขาคนนั้นต้องเจอปัญหาที่หนักหนาสาหัสทุกอย่าง และวันนี้ทั่วโลกเขากลัวปัญหาที่เกิดจากธรรมชาติ ตนอยากบอกว่าอีก 4 วันที่จะมีการเลือกตั้งนั้น ข้างบนฟ้าได้ส่งสัญญาณให้คนกรุงเทพฯชัดๆ ว่าทุกคะแนนที่ท่านจะต้องลงในวันที่ 22 พ.ค.ท่านต้องคิดให้ดี ท่านจะสูญเสียหรือทิ้งคะแนนไปเปล่าๆ ไม่ได้ เมื่อท้องฟ้าส่งสัญญาณว่าต่อไปกรุงเทพฯจมน้ำ ฝนตกหนักขึ้นทุกวัน ดังนั้นขอให้ท่านเลือกผู้ว่าฯต้องเป็นคนมีความรู้จริงๆ มีความเข้าใจสัณฐานดินและน้ำของกรุงเทพฯจริงๆ ไม่เช่นนั้นถ้าคิดอย่างเดิมทำแบบเก่า 4 ปี กรุงเทพฯจะสูญเสียไปอีกเท่าไหร่ หรือวิกฤตอาจจะแก้ไม่ได้สายเกินไปก็เป็นไปได้ ดินก็จะทรุดตัวทุกวัน และตนมีความตั้งใจมา 30 ปี ที่จะขออาสามาทำงานนี้

Advertisement

นายสุชัชวีร์กล่าวต่อว่า วันนี้ถ้าผู้ว่าฯไม่รู้เรื่องเหล่านี้ ก็จะใช้เงินของพี่น้องผิดไปทุกปีๆ ลองคิดดูปีหนึ่งสำนักระบายน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เงินไปมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี 10 ปีมากกว่าแสนล้านบาท น้ำก็ยังท่ามกรุงเทพฯอยู่ แสดงว่าคิดแบบเดิม ทำอะไรแบบเดิมใช้ไม่ได้แล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราต้องกล้าคิดสิ่งใหม่ๆ วันนี้ท่านไปดูผู้สมัครไม่มีใครที่กล้าออกมาพูด ว่าวันนี้การระบายน้ำของ กทม.มันตกยุคแล้ว เมื่อมันตกยุคท่านก็ใส่เงินภาษีเข้าไปทุกปี ตนอยากบอกว่าวันนี้กรุงเทพฯเป็นแอ่งกระทะสูง ดินที่ทับถมทรุดตัวลงเรื่อยๆ และเป็นแอ่งกระทะคอนกรีตสมบูรณ์แบบแล้ว น้ำไปไหนไม่ได้ ทางรอดทางเดียวคือสูบน้ำขึ้นไปทิ่งที่แม่น้ำเจ้าพระยาแล้วไหลออกที่อ่าวไทย ตนไม่กล้าบอกว่าเป็นผู้ว่าฯแล้วเดี๋ยวเรามาลอกท่อ ลอกคลอง ตนไม่กล้าพูดไม่กล้าหาเสียงเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่เราต้องทำอยู่แล้วแต่ไม่ใช่หนทางดับทุกข์ กรุงเทพฯคือเมืองปั๊มสมบูรณ์แบบเพื่อให้น้ำแห้ง ซึ่งการปั๊มก็เหมือนปั๊บหัวใจ กรุงเทพฯก็เหมือนหัวใจ ดังนั้นตนต้องทำให้ทุกคนมั่นใจว่าปั๊มน้ำที่อยู่ในกรุงเทพฯยังทำงาน หากเครื่องสูบน้ำไม่ทำงานกรุงเทพฯก็หัวใจวายเหมือนเมื่อวาน จนถนนกลายเป็นคลองย้อนยุคไปเมื่อ 100 ปีที่แล้ว ดังนั้นคนที่จะเป็นผู้ว่าฯกทม.ต้องรู้เรื่องน้ำ เรื่องดินจริงๆ

“ผมพูดไปแล้วว่าเป็นผู้ว่าฯเมื่อไหร่ระบบปั๊มน้ำ ระบบประตูระบายน้ำต้องเป็นระบบอัตโนมัติให้ปั๊มหัวใจของคนกรุงเทพฯให้อยู่ประทังชีวิตไปได้ก่อน ท่านจะได้เห็นว่าเครื่องสูบน้ำและประตูระบายน้ำที่รอคนไปไขกุญแจ ไม่เคยกลับมาทำงานอัตโนมัติสักที และผมอาสาเป็นผู้ว่าฯแก้น้ำท่วมในพื้นที่ที่ไม่เคยแก้ได้ด้วยแกล้มลิงใต้ดิน แก้ปัญหาน้ำท่วมเบ็ดเสร็จเสียที ให้รู้ไปว่าผู้ว่าฯญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์เขาก็แก้ได้ แล้วคนไทยสู้เขาไม่ได้ตรงไหน และถ้าอยากเห็นให้ไปดูที่วัดเล่งเน่ยยี่ ที่ผมเป็นใต้ดินที่ปรึกษาได้สร้างแก้มลิงแก้ปัญหาน้ำท่วมเขตสัมพันธวงศ์ เขตป้อมปราบแล้ว ที่แค้นใจคือต้องให้วัดทำ และ 4 ปีมาครั้งเดียวซึ่งอาจจะสายเกินไป ท่านจะวิเคราห์และเลือกแบบไหนก็ตาม แต่วันนี้ผู้ว่าฯกทม.ไม่ใช่นักการเมือง แต่ต้องเลือกผู้ว่าฯกทม.มาเป็นนักแก้ปัญหาเมือง และการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการแก้ปัญหาด้วยความรู้ ถ้ามาแล้วไม่รู้ว่ากรุงเพทฯเป็นอย่างไร กรุงเทพฯก็จมน้ำ” นายสุชัชวีร์​กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image