เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำและโฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เขียนบทความทางเฟซบุ๊กวิเคราะห์ผลการเลือกตั้ง กทม. โดยระบุว่า
วิเคราะห์เบื้องต้นผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร กรุงเทพเปลี่ยนไปแล้ว
1.ฝ่ายอนุรักษ์เดิมมีคะแนนลดลงโดยรวมอย่างมาก รวมทั้งประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ และเชื่อว่าจำนวนของกลุ่มนี้ได้ย้ายข้างไปเลือกชัชชาติมากขึ้นด้วย และถือว่าเป็นยุคตกต่ำที่สุดของฝ่ายอนุรักษนิยมในรอบ 11 ปี ส่วนหนึ่งประชากรกลุ่มนี้มีจำนวนลดลง ด้วยเสียชีวิตตามวัย ในขณะที่ประชาชนจำนวนมากที่เคยสนับสนุนรัฐบาล กลับไม่พอใจการบริหารรัฐบาลในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ฐานเดิมของพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2562 คะแนนคือ 1,408,971 คน (45.42%) แต่การเลือกตั้งผู้ว่า กทม. 2565 คะแนนของคุณชัชชาติ + คุณวิโรจน์ +คุณศิธา รวมกันได้ 1,711,062 คน (63.99%) โดยรวมแล้วผ่านไป 3 ปี ปีกต่อต้านรัฐบาลมีคะแนนเพิ่มขึ้น 302,091 คะแนน หรือส่วนที่เพิ่มขึ้นมา 18.57%
ในขณะที่ฐานเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2562 คะแนนคือ 1,266,713 คน (40.84%) แต่การเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. 2565 คะแนนของคุณสุชัชวีร์ + คุณสกลธี + คุณอัศวิน + คุณรสนา รวมกันได้ 777,018 คะแนน (29.08%) โดยรวมแล้วผ่านไป 3 ปี ปีกฝ่ายรัฐบาลมีคะแนนลดลง 489,695 คะแนน หรือส่วนที่ลดลงไป 11.76%
ดังนั้นต่อให้มี “ทิศทางโหวตยุทธศาสตร์รวมกัน 4 คน” ก็ยังแพ้คุณชัชชาติตนเดียวอยู่ดี ไม่เกี่ยวกับว่าต้องมีใครสั่งการหรือไม่ แสดงให้เห็นว่านอกจากจะมีเสียงย้ายข้างไปที่คุณชัชชาติแล้ว กลุ่มปีกแดงยังได้แนวร่วมคนกลางๆ ไปมากขึ้นกว่าเดิมด้วย และถือเป็นความตกต่ำของฐานเสียงที่เคยสนับสนุนรัฐบาล สอดคล้องไปกับโพลคะแนนความนิยมของรัฐบาลตกต่ำลงมาโดยตลอด
โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ที่หลายคนเชื่อว่า ปี 2562 เป็นยุคที่ตกต่ำที่สุด เพราะการเลือกตั้งคราวนั้นไม่ได้ ส.ส.เลยแม้แต่คนเดียว แต่ก็ยังมีฐานเสียงอยู่ที่ 474,820 คะแนน (15.31%) และมีความเชื่อว่าคุณสุชัชวีร์น่าจะทำให้มีคะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์เพิ่มขึ้น แต่การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ปี 2565 กลับพบว่าคุณสุชัชวีร์เหลือ 253,464 คะแนน (9.51%) เท่านั้น
2.แม้การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวไกล ไม่ได้มีส้มหล่นเหมือนปี 2562 ที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบพรรคไป โดยคุณวิโรจน์ พรรคก้าวไกล มีคะแนนลดลงจากพรรคอนาคตใหม่ปี 2562 ที่เคยได้ 25.93 % แต่กลับลดลงเหลือเพียง 9.48% เท่านั้น
แต่เมื่อพิจารณาที่ จำนวนและคะแนนในการเลือกตั้ง สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร จะเห็นได้ว่า พรรคเพื่อไทยได้ 19 ที่นั่งจาก 50 ที่นั่ง (38%) ในขณะที่ พรรคก้าวไกลได้ 15 ที่นั่ง (30%) ซึ่งมี “สัดส่วน” ต่างจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
แสดงว่ามีผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลยอมหันไปเลือกคุณชัชชาติ ที่มีคุณลักษณะเฉพาะตัวโดดเด่นกว่าคุณวิโรจน์ แต่พอกลับไปพิจารณาสมาชิกสภากรุงเทพมหานครก็จะหันไปเลือกพรรคก้าวไกล ดังจะเห็นว่าพรรคก้าวไกล มีจำนวนที่นั่งตามพรรคเพื่อไทยติดๆ (ไม่ทิ้งห่างเหมือนคุณชัชชาติ กับคุณวิโรจน์)
นอกจากนั้น ผลการเลือกตั้ง สก.พรรคเพื่อไทย + พรรคก้าวไกล + พรรคไทยสร้างไทย รวมกันได้ถึง 74% ทิ้งห่างฝ่ายรัฐบาลรุนแรงเสียยิ่งกว่าการลงคะแนนเลือกผู้ว่าฯกทม. โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาฐานเสียงอันดับที่ 2 ในพื้นที่ซื่อ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครที่พรรคก้าวไกลแพ้ กลับพบว่าพรรคก้าวไกลตามมาเป็นอันดับ 2 ทั้งสิ้น
3.สำหรับพรรคที่แยกตัวออกมา เช่น พรรคไทยสร้างไทย (แยกตัวออกมาจากเพื่อไทย) และพรรคกล้า (แยกตัวออกมาจากประชาธิปัตย์) ยังไม่สามารถประสบความสำเร็จในการเป็นพรรคการเมืองที่มาทดแทนพรรคเดิมได้
