ชัยชนะของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นแบบแลนด์สไลด์ 1.3 ล้านกว่าคะแนนจากคนกรุงเทพฯ
ไม่เพียงสะท้อนความต้องการของคนกรุงเทพฯ ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเท่านั้น
แต่ยังสะท้อนอีกหลายแง่มุม ส่งผลไปถึงผู้คนทั่วประเทศ เกิดคำถามตามมาอีกมากมาย
จากกระแสที่มีผู้คนพูดถึงเรื่องนี้กันทั่วประเทศ ทำให้เกิดการเปรียบเทียบไปยังคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด
เห็นคนกรุงเทพฯเทคะแนนให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดขนาดนี้แล้ว
เชื่อว่ามีคนอีกจำนวนมากต้องอยากจะมีความรู้สึกหรืออารมณ์
หรืออยากได้ผู้ว่าราชการจังหวัดแบบนี้บ้าง
อยากได้คนที่มีความรู้ ความสามารถ บุคลิก “แกร่งทั่วแผ่น” แบบนี้บ้าง
ไม่ใช่ผู้ว่าราชการจังหวัด แบบเจ้าขุนมูลนาย ต้องคลานเข่าเข้าพบ
หรือประเภททำงานไม่เป็น ยึดติดกับระบบราชการ ต้องรอรายงานเป็นขั้นเป็นตอน
เป็นระบบแบบคร่ำครึ ขณะที่โลกไปถึงไหนกันแล้ว
คงไม่ปฏิเสธกันว่า ระบบราชการในบ้านเรา โดยเฉพาะการบริหารงานในระบบกระทรวงมหาดไทย
ไม่สามารถตอบโจทย์ความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การแต่งตั้งข้าราชการมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด
ถามว่าที่มาของผู้ว่าราชการจังหวัดมาอย่างไร มีอำนาจหน้าที่ขนาดไหน
และต้องบริหารจัดการปัญหามากมายขนาดไหน
และพอใกล้จะครบวาระการดำรงตำแหน่ง ส่วนใหญ่การทำหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นอย่างไร
สิ่งเหล่านี้ทุกคนทราบกันดี แต่ก็ไม่เคยใส่ใจที่จะเปลี่ยนแปลงกันอย่างจริงจัง
ดังนั้น เหตุการณ์ “ชัชชาติ เอฟเฟ็กต์” ครั้งนี้ อาจจะช่วย “เบิกเนตร” ให้ใครหลายคนได้มองเห็น
แต่เชื่อว่าคงไม่ง่าย เพราะระบบเหล่านี้ฝังรากลึกมานาน มีคนได้ประโยชน์มากมาย
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ได้ประโยชน์จากอำนาจเหล่านี้ ย่อมไม่อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน
โอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ได้ ก็คือต้องเลือกผู้แทนหรือ ส.ส.ที่มีแนวคิดกระจายอำนาจ
เชื่อว่ากรณี “ชัชชาติ” จะทำให้พรรคการเมืองหลายพรรค
ต้องกลับมาทบทวนนโยบายการกระจายอำนาจอย่างจริงจังมากขึ้น
ไม่ใช่แค่นโยบายที่ประกาศให้ฟังดูเพราะหรือสวยหรูเท่านั้น
แต่นโยบายการกระจายอำนาจต้องทำได้จริง เพื่อให้ความเจริญไม่กระจุกเฉพาะแค่ในกรุงเทพมหานครเท่านั้น
การเลือกตั้งใหญ่ใกล้เข้ามาแล้ว คาดว่าประมาณต้นปี 2566 คงจะมีการเลือกตั้ง
ถ้าใครอยากให้เกิดความเจริญในภูมิลำเนาบ้านเกิดของตัวเอง
จะได้ไม่ต้องย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในกรุงเทพฯ
พ่อ แม่ ต้องทิ้งลูกให้เป็นภาระของปู่ ย่า ตายาย เลี้ยงดู เพื่อต้องมาทำงานในเมืองกรุง
ลำพัง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. เทศบาล อบจ. หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ
แม้ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง แต่คงไม่สามารถแก้ปัญหาใหญ่ของจังหวัดได้
ดังนั้น หากมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจหน้าที่ดูแลทั้งจังหวัดได้อย่างเต็มที่
ไม่ใช่แค่ให้ใครก็ไม่รู้ ที่ไม่ใช่คนในท้องถิ่น มาแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดมาบริหารงานบ้านเรา
แล้วทำไมเราไม่มีสิทธิเลือกผู้บริหารบ้านเมืองมาทำหน้าที่เอง เพราะอะไร
สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา