‘บิ๊กตู่’ ลั่นเป็นนายกฯ ต้องรับผิดชอบทุกเรื่องอยู่แล้ว ‘โว’ อยู่มานานรู้ปัญหาแต่แก้ไม่ได้ 100% เพราะความร่วมมือไม่เกิด

‘บิ๊กตู่’ ลั่นเป็นนายกฯ ต้องรับผิดชอบทุกเรื่องอยู่แล้ว วอนช่วยกันสร้างการรับรู้-สันติ ไม่ได้อยู่ด้วยความเกลียดชัง ‘โว’ อยู่มานานรู้ปัญหาแต่แก้ไม่ได้ 100% เพราะความร่วมมือไม่เกิด

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 25 พฤษภาคม ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการเปิดงาน การสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่อง ความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 15 “ทศวรรษใหม่ วิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัยต้องมาก่อน” พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “บทบาทผู้นำประเทศ” ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาผ่านกลไกต่างๆ โดยกำหนดเป้าหมายภายใต้ยุทธศาสตร์ 20 ปี พร้อมกับกวดขันการบังคับใช้กฎหมาย​และมาตรการแก้ไขต่างๆ แบบองค์รวมไว้ เพื่อป้องกันลดอุบัติเหตุและลดการบาดเจ็บเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตามท้องถนนให้ได้มากที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สถิติอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่าพอใจแม้ว่าจะลดลงก็ตาม​ เรามีเป้าหมายในการลดการเสียชีวิตและบาดเจ็บบนท้องถนน 12 คน ต่อ 100,000 คน เป็นสิ่งที่ยากและเป้าหมาย ก็ดูว่าประเทศอยู่ตรงไหนทำได้มากน้อยแค่ไหน แต่จะทำให้ดีที่สุด คนเราก็เยอะถนนเราก็มากมาย มากกว่าหลายประเทศด้วยซ้ำขนาดประเทศเราก็ไม่ใช่เล็กไม่ใช่ใหญ่ ประชากรก็หนาแน่นสิ่งเหล่านี้มีผลผูกพัน เกี่ยวเนื่องกันทั้งสิ้น นอกจากการบังคับใช้กฎหมายการลงโทษและมาตรการต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะต้องนำสิ่งเหล่านี้ ต้องนำมาคิดด้วยคือคำว่าบริบทของคนไทยในปัจจุบัน ต้องนำสิ่งเหล่านี้ทั้งแนวคิดแนวคิดแนวปฏิบัติที่เปลี่ยนแปลงไปเยอะ หวังอย่างยิ่งว่าจะเดินหน้าให้เข้าถึงเรื่องเหล่านี้ ว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ปัญหาอุบัติเหตุทางท้องถนนกระจายอยู่หลายพื้นที่ แต่ก่อนอยู่ที่ถนนสายหลักแต่ปัจจุบันเริ่มอยู่ที่ถนนสายรองและกระจายในพื้นที่ท้องถิ่นมากขึ้น ขณะที่สาเหตุที่ตนได้รับรายงานมาอุบัติเหตุเกิดมากที่สุดจากรถจักรยานยนต์ อย่างการใช้ความเร็ว​ ไม่สวมหมวกกันน็อก​ ต้องคิดว่าจะทำอย่างไร กฎหมายมีทุกตัวเจ้าหน้าที่รู้จับได้หมด แล้วจะเอาอย่างไรถ้าจะต้องการให้ดีให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ต้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานเรียบร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นคือประเด็นของตนในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ตนให้นโยบายไปแล้วว่าให้มีการจับกุมทั้งหมดหากผิดกฎหมาย แล้วเกิดปัญหาอะไรขึ้น หากต้องการให้ประชาชนยอมรับตรงนี้ นี่คือสิ่งที่ทำให้สังคมปลอดภัย หากร่วมมือกันคงไม่มีปัญหาจะต้องจับใครทั้งนั้น ไม่มีใครอยากจับไม่มีใครอยากลงโทษ และไม่อยากให้มีใครไปเสียชีวิต นี่คือสองด้านจะต้องคิด 2 ด้าน

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทั้งนี้ ตนตำหนิประชาชนไม่ได้ ทำได้แต่เตือนและได้แต่บอก​เจ้าหน้าที่ก็ต้องช่วยกันระมัดระวัง สิ่งใดก็ตามที่พูดมาทั้งหมด คิดว่าไม่มีใครไม่เห็นด้วย ทั้งการใช้มาตรการและเข้มแข็ง สวมหมวกกันน็อก จับกุมดำเนินคดี​ ทุกเรื่องก็เป็นความเห็นของท่าน ว่าควรจะทำได้แค่ไหนอย่างไร ควรจะทำหรือไม่ทำ แต่อย่างน้อยตนก็มีการรับรองว่าเห็นด้วยกัน และยอมรับว่าแรงกดดันกดทับมาจากหลายส่วน ขณะเดียวกันการตายก็สูงขึ้น แต่ตายคนเดียวตนก็ยังยอมรับไม่ได้เลยทุกเรื่อง

“เรื่องการขับขี่ปลอดภัยอยากให้หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เยาวชนคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วม อะไรที่ไม่ควรทำก็อย่าทำ อย่างการแข่งขันรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมาย ถือเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ปกครอง ขอให้ไปหาวิธีการแก้ไขปัญหามา รัฐบาลพร้อมที่จะรับข้อเสนอ รัฐบาลมีอย่างเดียวคือบังคับจับกุมดำเนินคดี สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างความรับรู้ สร้างความร่วมมือทำความเข้าใจ นี่คือประเด็นสำคัญที่สุดของประเทศไทย ในเวลานี้ทุกเรื่อง ต้องมุ่งเน้นการนำวิถีชีวิตปลอดภัย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกรัฐมนตรียกตัวอย่างการแก้ไขปัญหาการจราจร ว่า ในต่างประเทศสร้างวงเวียนเพื่อลดปัญหาการจราจรหนาแน่น แต่ในประเทศไทยรื้อวงเวียนเพราะรถติด หากทำได้ก็ดี เพราะฉะนั้นปัญหาหนึ่งที่จะตามไปสู่อีกปัญหาหนึ่งเสมอ เหลืออีกหลายปัญหาเสมอ เพราะฉะนั้นคิดทางเดียวแก้ปัญหาด้วยวิธีการเดียวเป็นไปไม่ได้ ประเทศไทยบริบทของประเทศไทย อยู่ที่พวกเราว่าจะขับเคลื่อนกันได้อย่างไร เพราะเราก็ต้องดูแลประชาชนให้มีความสุขความพึงพอใจ

Advertisement

“ผมพูดวันนี้ไม่ได้ตำหนิใคร แต่ต้องการเล่าให้ฟังว่าอยู่กับปัญหาอะไรมาบ้าง และพยายามจะแก้อะไรบ้าง และมันติดอะไรบ้างฉะนั้นต้องคิดแบบผมคิดด้วย เราอยู่กันมานานแล้ว และผมก็อยู่มานานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แน่นอนผมรู้ปัญหา วิธีปฏิบัติมีอยู่แต่ทำได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะความร่วมมือยังไม่เกิด นี่คือปัญหาเช่นเดียวกับทุกปัญหาในประเทศไทย แต่ผมโทษใครไม่ได้ ก็ต้องทำต่อไป สิ่งที่ผมพูดวันนี้อยากให้ทุกคนคิดในบริบทที่กว้างกว่าเดิม มาตรการต่างๆ ที่ออกไปก็ทำไม่ได้และจะให้ทำยังไง ขอฝากไปดูด้วย ท่านที่นั่งอยู่ในสภาที่มาร่วมงานวันนี้ในการออกกฎหมายต่างๆ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องการใช้กล้องก็มีส่งไปปรับที่บ้าน ไม่ไปจ่ายซะอย่างจะทำยังไง ทั้งที่มีหลักฐาน เราต้องทำให้ทุกคนยอมรับกติกา พร้อมกับสร้างการเรียนรู้ การรับรู้ ไม่ได้อยู่ด้วยการเกลียดชัง ต้องอยู่ด้วยความเข้าใจของระเบียบสังคม มันต้องหาวิธีการร่วมมือกันให้ได้ ไม่ใช่แตะไอ้นั่นติคนนี้ติคนนั้น มันจะทำไม่ได้แน่นอน นายกฯรับทุกเรื่อง มันเป็นหน้าที่ เราต้องหาวิธีการให้ได้ค่อยๆ เดิน บางอย่างเดินช้า บางอย่างเดินเร็วได้ก็เดิน แต่ถ้าเดินช้าก็ต้องเดินให้เร็วขึ้น ถนนบ้านเราถ้าเทียบกับที่อื่นถือว่าดีมาก ขับสบายแต่ความเร็วไม่เบรกกันเลย ทุกอย่างอยู่ที่จิตสำนึกที่ต้องนึกถึงคนอื่นด้วยในการใช้รถใช้ถนน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นอกจากนี้สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ทุกคนนั้นยอมรับกติกา สร้างการรับรู้เรียนรู้ไม่ได้อยู่ด้วยความเกลียดชัง อยู่ด้วยความเข้าใจว่าจะอยู่ร่วมกันด้วยความสันติได้อย่างไร อยู่ภายใต้กฎหมายระเบียบ การจัดระเบียบทางสังคม และต้องหาวิธีการร่วมมือกันให้ได้ ไม่ใช่ติคนนั่นคนนู้นตินี่ ติแล้วทำไม่ได้แน่นอน เป็นความรับผิดชอบของทุกคน นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบทุกเรื่อง เพราะมันเป็นหน้าที่ หาวิธีการทำให้ได้ ค่อยๆ เดินบางอย่างเดินช้า บางอย่างเดินเร็ว ถ้าไม่อยากเดินช้าก็เร่งเดินให้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีกนิด ขณะที่ตำรวจที่อยู่ในคณะทำงานต้องพูดให้หมด ข้อมูลอยู่ที่ไหนไม่ใช่แก้ตัว เอาข้อเท็จจริงแถลงออกมาในห้องประชุมให้รู้เรื่อง ว่าต้องแก้ตรงไหนอย่างไร และขอย้ำว่าทุกอย่างอยู่ที่จิตสำนึกถึงคนอื่น ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะทุบที่อกข้างซ้าย 3 ครั้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image