‘วินิจ’ ชูเกมดวลแข่งฟุตบอลแดงเดือด ‘แมนเชสเตอร์-ลิเวอร์พูล’ ดันซอฟต์พาวเวอร์ไทย
เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 25 พฤษภาคม 2565 โดยประชาชาติธุรกิจ ได้จัดสัมมนาประจำปี ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 46 ภายใต้หัวข้อ “New Chapter เศรษฐกิจไทย” ณ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก (เพลินจิต)
นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด กล่าวในการเสวนาพิเศษภายใต้หัวข้อ New Chapter เศรษฐกิจไทย ว่า รายการแข่งขันฟุตบอล THE MATCH ระหว่างทีมลิเวอร์พูล กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่เป็นครั้งแรกในเอเซีย และครั้งที่ 2 ของโลก ที่ทั้ง 2 ทีมนี้แข่งขันกันนอกประเทศอังกฤษ โดยสิ่งเหล่านี้ที่จะเกิดขึ้นในเมืองไทย มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลถามว่า จะสามารถสร้างซอฟต์พาวเวอร์ ได้อย่างไร ต้องถามกลับว่า คุณมีความเข้าใจคำว่าซอฟต์พาวเวอร์อย่างไรมากกว่า เพราะเพียงแค่คริสเตียโน โรนัลโด นักฟุตบอลทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มาแข่งในไทย พูดถึงกรุงเทพฯ ก็ถือว่าเป็นการสร้างซอฟต์พาวเวอร์แบบมหาศาลแล้ว รวมถึงเป็นครั้งแรกที่เมืองไทยมีการถ่ายทอดสดเกมนี้ไปสู่ต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งขณะนี้มีการซื้อลิขสิทธิ์แล้วเกือบ 100 ประเทศทั่วโลกด้วย
“เกมนี้ไม่ได้เป็นเพียงเกมฟุตบอลเท่านั้น แต่เป็นการสร้างกรากฏการณ์หลายๆ เรื่อง อาทิ ประเทศไทยที่กำลังรีสตาร์ตและเดินต่อไปข้างหน้า สร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น สร้างกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา ทำให้รายได้กลับมาด้วย ซึ่งเวลาคิดในแง่ธุรกิจ ก็จะคิดเผื่อไปถึงภาพรวมเศรษฐกิจด้วย แต่หากคิดในมุมกลับกันก็ไม่รู้ว่า ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนนี้ได้คิดมาถึงภาคธุรกิจด้วยหรือไม่” นายวินิจ กล่าว
นายวินิจ กล่าวว่า การที่คู่นี้พบกันมีความหมายมาก ในรอบ 100 ปี ทำให้หากไม่เริ่มเดินหน้าก่อน หากรอความหวังจากใครให้มาเดินก่อน เราไม่มีโอกาสได้ทำอะไรเลยแน่นอน โดยความเสี่ยงในครั้งนี้ แม้เป็นความเสี่ยงมหาศาล แต่เรายอมเสี่ยง และยอมที่จะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น เพราะหากต้องรอให้ฟ้าเปิดแล้วค่อยหารือและทำสัญญากัน คงไม่มีทางเกิดขึ้นได้ แต่ข้อจำกัดคือ หากจัดงานเกมแข่งขันแล้วมีการกำหนดแบ่งระยะห่างระหว่างกัน ต้องบอกว่าจบแน่นอน ไม่สามารถจัดได้ เพราะความจุของสถานที่จัดในตอนนี้สามารถจุคนได้เพียง 49,000 คน หากต้องแบ่งจุได้ครึ่งเดียว คงต้องเลิกจัดแทน
