‘สมยศ’ หวังผู้มีอำนาจ ปกป้อง ปชช. ยึดหลักสิทธิ-ให้เสรีภาพ-มาตรฐานเดียวกัน ไทยจึงปรองดองได้

‘สมยศ’ หวังผู้มีอำนาจ ปกป้อง ปชช. ยึดหลักสิทธิ-ให้เสรีภาพ-มาตรฐานเดียวกัน ไทยจึงปรองดองได้

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) นำโดย รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วยนักวิชาการจากหลากหลายสถาบัน และประชาชน ร่วมทำกิจกรรม “เดินหยุดขัง” #เดินไปบอกศาลให้ทำตามกฎหมาย เริ่มจากหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ไปยังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ร่วมยืนหยุดขัง กับกลุ่มพลเมืองโต้กลับ และปราศรัยเรียกร้องสิทธิการประกันตัวชั่วคราวให้กับนักกิจกรรมทางการเมือง ทั้ง 11 ราย ซึ่งถูกคุมขังโดยคำพิพากษายังไม่ถึงที่สิ้นสุด

อ่านข่าว :

โดยเวลา 17.00 น. ที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ถึงการมาร่วมกิจกรรมวันนี้ โดยยังกล่าวถึง การรัฐประหาร ความว่า

เมื่อมีการรัฐประหาร ได้อำนาจรัฐหรือรัฐประชาธิปัตย์แล้ว ผู้ก่อการก็ย่อมชอบด้วยกฎหมาย ทั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งทำแบบนี้มาโดยตลอด จึงเป็นอำนาจ 2 อย่างที่คู่กันระหว่าง “ความป่าเถื่อน” กับ “การยอมรับความป่าเถื่อน” ให้ไปไกลจนกลายเป็นความชอบธรรม ดังนั้น เราจะต้องทำให้กระบวนการยุติธรรมอยู่ในระบอบประชาธิปไตยให้ได้ ซึ่งหมายความว่า อาจจะต้องมีที่มา มาจากประชาธิปไตย จากประชาชนมากขึ้น ไม่ใช่อำนาจที่หลุดลอยไปจากประชาชน

Advertisement

“ที่สำคัญตอนนี้ เราอยากให้อำนาจตุลาการ ปกป้องเสรีภาพของประชาชน มากกว่าปกป้องอำนาจรัฐ ที่มีความพร้อมทุกอย่างในการรังแกประชาชน ในการที่จะคุกคามเสรีภาพของประชาชน” นายสมยศกล่าว

เมื่อถามว่า ส่วนตัวโดนคดี ม.112 มา 7 ปี มองแนวโน้มของการใช้ ม.112 ตอนนี้อย่างไร ?

นายสมยศเปิดเผยว่า อย่างที่เห็นว่า ม.112 ตอนนี้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการปราบปรามประชาชน คุกคาม ปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน เป็นกฎหมายล้าหลัง ยิ่งใช้ยิ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ต่อประชาชน รวมถึงสถาบันฯ ด้วย การใช้ ม.112 จะยิ่งขยายความขัดแย้งของสังคม โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะทำให้ไปถึงจุดเสื่อมถอยได้ ด้วยความเป็นห่วง

Advertisement

เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลมุ่งหวังจะให้มีการปรองดอง สามัคคีกัน สิ่งแรกที่รัฐบาลจะทำได้ คืออะไร ?

นายสมยศระบุว่า สิ่งที่จะปรองดองในสังคมได้ คือรัฐบาลจะต้องเป็นประชาธิปไตยก่อน นั่นหมายความว่า รัฐบาลจะต้องยึดมั่นใน ‘หลักสิทธิมนุษยชน’ สิทธิเสรีภาพของประชาชน ขบวนการประชาชนที่เรียกร้องทุกวันนี้ ไม่ได้มีอะไรเลย นอกจากปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมเพื่อยกเลิกกฎหมายการรวมกลุ่ม ฯลฯ ดังนั้น ถ้าจะปรองดองได้ คือ 1.ประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย 2.มีกระบวนการยุติธรรม

“ถ้าไม่ยุติธรรม ปรองดองไม่ได้ จะนำมาสู่ความขัดแย้ง แตกแยก และการต่อสู้” นายสมยศกล่าว

นายสมยศ ยังกล่าวถึงเงื่อนไขการประกันตัว ด้วยการติดกำไล EM ที่ข้อเท้าผู้ของต้องหา ม.112 ด้วยว่า กำไล EM กลายเป็นเครื่องพันธนาการยุคใหม่ ทำให้เห็นได้ชัดว่า ถูกนำมาใช้เพื่อควบคุมเสรีภาพของพวกเขา ทำให้พวกเขาไม่สามารถมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตยในบ้านเมืองนี้ ทำให้ต้องจำกัดตัวเองอยู่ในบ้าน ไม่สามารถมีเสรีภาพแสดงความคิดเห็นหรือรวมกลุ่มใดๆ ได้ ตรงนี้เป็นคำถามต่อกระบวนการยุติธรรมเช่นกันว่า การติดกำไล EM สุดท้ายแล้วเหมือนการลงโทษอยู่ดี เพราะคดียังไม่จบ แต่เขาถูกพันธนาการแล้ว คือโซ่ตรวนสมัยใหม่เท่านั้นเอง

สมัยก่อนไม่มีแบบนี้ ?

นายสมยศกล่าวว่า สมัยก่อนเป็นโซ่ล่ามเลย สมัยนี้ก็เป็นโซ่อีกแบบ เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ไม่เปลี่ยนอะไรมาก  สมัยก่อนเป็นโซ่ตรวนที่รัดตรึงข้อเท้า เดินไปไหนไม่ได้ผมเคยโดนมาแล้ว วันนี้ก็เป็นกำไล EM แทน

นายสมยศ ยังกล่าวเปรียบเทียบคดีของนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับคดีกิจกรรมทางการเมืองตอนนี้ ด้วยว่า

มีหลายคดี พูดกันตามจริงก็ต้องบอกว่า อยู่ในหลักการ คดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นคุณปริญญ์ซึ่งต่อสู้คดี ก็ไม่เป็นไร เห็นว่าเป็นการต่อสู้ตามกระบวนการกันไป ถือเป็นสิ่งที่ดีในกระบวนการยุติธรรม หรืออย่างคดีหมอนิ่ม ฆ่าสามีตัวเอง ก็ได้รับสิทธิการประกันตัว แม้ว่าศาลตัดสินประหารชีวิต สุดท้ายก็ต้องยกฟ้อง เพราะได้พิสูจน์ว่าไม่เกี่ยวข้องในคดีฆาตกรรม ซึ่งถ้าไม่เกี่ยวข้องก็โอเค แต่ถ้าเกิดคุณไปตัดสินให้ผู้นำราษฎรที่อยู่ในคุกตอนนี้ เท่ากับ ตัดสินล่วงหน้าว่ามีความผิด ดังนั้น กรณีปริญญ์ ก็อาจจะเห็นได้ชัดว่า อำนาจนี้เลือกที่ให้เสรีภาพกับคนบางกลุ่ม เลือกที่จะไม่ให้เสรีภาพกับคนบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มคนที่แสดงความคิดเห็นแตกต่างจากรัฐบาล

“โดยเฉพาะราษฎร ซึ่งกลายเป็นปัญหา 2 มาตรฐานในกระบวนการมาโดยตลอด ยิ่งเห็นได้ชัดมากขึ้น คดีฆ่าคนตายได้ประกันตัวเยอะมากขึ้น แต่คดีซึ่งทำกิจกรรมแสดงความคิดเห็น รวมกลุ่มกันทำโพล ยิ่งเป็นของเด็กๆ เยาวชนด้วย ยิ่งไม่ควรที่จะไม่ได้รับการประกันตัว” นายสมยศชี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image