วิษณุ ชี้ หากพ.ร.บ.งบฯถูกคว่ำ ‘ยุบสภา-ลาออก’ ก็ได้ เชื่อกระทบกม.ลูก เลือกตั้ง 2 ฉบับ

“วิษณุ” ชี้ช่อง หากพ.ร.บ.งบฯปี 66 ถูกคว่ำยุบสภา-ลาออก ก็ได้ เชื่อกระทบกม.ลูกลต.2 ฉบับไม่ว่าวิธีไหนก็ขึ้นเขียง

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 27 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีหากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไม่ผ่านสภาฯอย่างที่มีกระแสข่าวฝ่ายค้านจะคว่ำนั้นส่งผลอย่างไร ว่า หากไม่ผ่านจริงอย่างที่ถาม รัฐบาลก็ต้องยุบสภาหรือลาออก และหากมีการยุบสภา เกิดขึ้นกว่าจะเลือกตั้ง กว่าจะมีสภาฯก็ใช้เวลาอีกนาน และระหว่างนั้นสามารถใช้พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 65 ไปพลางๆก่อน ซึ่งตามปกติแล้วสำนักงบประมาณจะต้องระบุว่าให้ใช้ในส่วนดังกล่าวได้กี่เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ให้ใช้เต็ม แต่ก็บริหารไปได้ จนกว่าจะมีงบประมาณใหม่ และเพียงแต่โครงการใหม่ๆจะเกิดไม่ได้ เพราะไม่มีโครงการใหม่นั้นอยู่ในบัญชีพ.ร.บ.ปี 65 อย่างไรก็ตาม ในรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่าหากพ.ร.บ.งบไม่ผ่านแล้ว จะต้องยุบสภาหรือลาออก แต่เป็นประเพณีปฏิบัติ แต่ทั้งยุบสภา และลาออก มีผลให้พ้นทั้งคณะ แต่รัฐบาลก็รักษาการต่อไป

เมื่อถามว่าในเมื่อเป็นประเพณีแล้วไม่ปฏิบัติตามได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อเป็นประเพณีก็ควรจะต้องปฏิบัติจะลาออกก็ได้จะยุบสภาก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการยุบสภาหรือลาออกเกิดขึ้นจริงจะกระทบต่อการพิจารณากฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ต้องชะงัก เพราะถ้าไม่มีสภา ก็จะไม่มีการพิจารณากฎหมายและวุฒิสภา ก็ประชุมไม่ได้ อย่างไรก็ตาม พอสื่อมวลชนคิดว่ามันจะเกิดเหตุอย่างที่มาสมมุติเรื่องและถามตน มันก็จะไปได้เรื่อยๆ ถามกันไปได้อีกเยอะ แต่รัฐบาลไม่ได้คิดแบบนั้นเพราะหากการพิจารณากฎหมายลูกต้องสะดุดจริงจะทำอย่างไรต่อไปตนก็ขอยังไม่ตอบ ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ก็จะอยู่บนเขียงทั้งนั้น อาทิ 1.ออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 2. คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศไปเลย 3. เลือกตามแบบรัฐธรรมนูญใหม่ โดยที่ไม่ต้องยืมระเบียบอะไรทั้งนั้น แต่ทุกอย่างจะต้องถูกถกเถียงไปที่ศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดแล้วถ้าศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าใช้ไม่ได้เอาที่เลือกกันมาก็ใช้ไม่ได้ทั้งหมด ซึ่งแต่ละทางออกก็อาจจะมีผู้เสียประโยชน์ทำให้ไม่ยอมรับและเมื่อไม่ยอมรับเขาก็ไปร้อง หากร้องแล้วศาลเห็นด้วยขึ้นมาก็จะเหมือนในอดีตที่ศาลเคยตัดสินการเลือกตั้งเป็นโมฆะมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเกิดเหตุการณ์ที่พ.ร.บ.งบประมาณปี 66 ไม่ผ่านสภาจริงคิดว่าวิธียุบสภาหรือลาออกจะราบรื่นมากกว่ากัน นายวิษณุ กล่าวว่า อันนี้ก็แล้วแต่สถานการณ์ เพราะแต่ละครั้งจะต้องคิดว่าเอาอย่างไร เพราะถ้าไม่ผ่านก็คือไม่ผ่านต้องเสนอใหม่อยู่ดี หากลาออกแล้วมีรัฐบาลใหม่ก็ต้องเสนอเข้าสภาในขณะที่องค์ประกอบของสภาก็ไม่ได้เปลี่ยน แล้วรัฐบาลใหม่ไปเสนอก็จะไม่ผ่านเหมือนเดิม เมื่อคิดอย่างนั้นก็เลือกยุบสภาดีกว่าคือเปลี่ยนสภาเสียเลย

Advertisement

เมื่อถามว่าในวันโหวตหากทราบผลว่าพ.ร.บ.งบประมาณ ไม่ผ่านรัฐบาลจะต้องประกาศยุบสภาในวันนั้นทันทีหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เขาไม่บอกใครหรอกว่าจะยุบสภาหรือลาออก อยู่ดีๆก็ประกาศออกมาโดยไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีการกำหนดระยะเวลา อาจจะใน 7 วัน หรือ 10 วันก็ได้ หรือ 1 เดือนก็ได้ ดูจังหวะเวลาอันสมควร แต่จะต้องจบลงด้วยอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะการที่สภาไม่ผ่าน เพราะสภาไม่ไว้วางใจ ที่จะให้บริหาร ดังนั้นเมื่อรู้ตัวก็ควรจะลาออกหรือยุบสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่าในอดีตเคยมีหรือไม่พ.ร.บ.งบประมาณไม่ผ่านสภา นายวิษณุ กล่าวว่า ในประเทศไทยไม่มี แต่ในอดีตสมัยจอมพล.ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรี กฎหมายย้ายเมืองหลวงไม่ผ่าน จอมพล ป.ก็ลาออก ในสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกฯ มีการออกพ.ร.ก. แต่สภาไม่เห็นชอบ พล.อ.เปรม จึงยุบสภา

เมื่อถามว่าหากพ.ร.บ.งบประมาณไม่ผ่านประชาชนจะวิพากษ์วิจารณ์ว่า นักการเมืองเล่นการเมืองกันมากเกินไป นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบ แล้วทำไมสื่อมวลชนตั้งคำถามกับตนเหมือน พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 66 จะไม่ผ่าน ทำไมจึงคิดเช่นนั้น เมื่อผู้สื่อข่าวชี้แจงว่าบรรยากาศในสภาและบรรยากาศการเมืองทำให้คิดตามไปได้เช่นนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ดังนั้นช่วยกันตามดูต่อไป เมื่อถามย้ำว่า ส่วนตัวนายวิษณุคิดว่าพ.ร.บ.งบประมาณปี 66 จะผ่านหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ผมไม่รู้ผมไม่กล้าตอบ สื่อถามมากจนผมชักหวั่นไหว แต่ผมไม่มีสิทธิโหวตในสภา ผมเป็นฝ่ายไปอย่างเดียว และบอกแล้วว่าแนวโน้มไม่มี มีแต่แนวนอน”

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image