2 นักสู้ร่วมเสวนา ‘เล่าเรื่องหลังกรงขัง’ ปลื้มคนรุ่นใหม่สานอุดมการณ์ ขอเอฟซี ‘พท.-กก.’ อย่าตีกันเอง

“ซี จันทนา-บุรินทร์” เปิดเรื่องเล่าหลังกรงขัง วอนราชทัณฑ์ เปิดข่าวให้นักโทษดูบ้างอย่าเปิดแต่ละคร ขอเอฟซี พท.-กก. อย่าทะเลาะกันเอง

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่สวนครูองุ่น ซอยทองหล่อ 3 มีกิจกรรม ตลาด (นัด) ราษฎร  โดยในงานมีการจัดเสวนา ‘TALK TALK เรื่องเล่า หลังกรงขัง’ โดย ซี จันทนา วรากรสกุลกิจ หรือซี และนายบุรินทร์ อินติน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง

ซี จันทนา เล่าว่า เผด็จการไม่เคยปรานีกับผู้หญิง ไม่มีเพศ แค่คิดจะสู้กับเผด็จการเราก็ผิดทันที เพราะจะกลายเป็นภัยความมั่นคง และไม่ได้รับความชอบธรรมเลย แต่ตนก็ยืนยันที่จะสู้ วันที่เขาปล้นอำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่มาจากประชาชน เราก็คิดที่จะสู้แล้ว เพราะเราไม่ยอม เมื่อเรายืนข้างประชาธิปไตยแล้ว เราคิดจะสู้แล้ว เราเตรียมใจว่าอาจจะต้องติดคุก ดังนั้น เมื่อเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว ก็ทำใจ คิดแค่ว่าเราต้องอยู่กับมันให้ได้ หลังกำแพงเหมือนอยู่ข้างนอก เพียงแต่ไม่มีอิสรภาพ ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบของเรือนจำ และต้องอยู่แบบตาดู หูฟัง ต้องวางตัวให้ดี ในฐานะนักโทษทางการเมือง สามารถเป็นกระบอกเสียงแทนนักโทษคนอื่นๆได้ และต้องเรียนรู้เพื่อเป็นเกราะป้องกันตัวเอง

ซี จันทนากล่าวต่อไปว่า ยุคที่ตนติดคุกเป็นยุคของอำนาจเผด็จการแบบเต็มขั้น ได้เห็นความเลวร้ายเยอะมาก นักโทษบางคนอยู่เป็น เจ้าหน้าที่ไม่ได้สั่ง แต่นักโทษคอยขัดรองเท้าให้ เจ้าหน้าที่บางคนดี ก็ให้เกียรติผู้ต้องขัง ติดคุกต้องใช้สมอง ไม่ใช้กำลัง อยู่ให้เป็น อยู่แบบได้เปรียบ อยู่ให้เขากลัวเรา เราอย่ากลัวเขา

Advertisement

“สำหรับปรากฎการณ์การต่อสู้ของคนหนุ่มสาวในยุคนี้ ไม่เคยคิดว่า วันหนึ่งจะมีเด็กๆออกมาต่อสู้มากขนาดนี้ เด็กเหล่านี้เขาเติบโตเกิดการต่อสู้จากรุ่นสู่รุ่น ดีใจมากที่มีคนมาสานต่อ แต่เราก็หยุดสู้ไม่ได้ เพื่อวันหนึ่งเขาหันหลังมาจะเจอเรายืนอยู่เบื้องหลังเขา”  ซี จันทนากล่าว ก่อนเล่าถึงความไม่สบายใจในประเด็นความขัดแย้งในฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันเอง

“รู้สึกว่าไม่สบายใจ เพราะไม่อยากทะเลาะกับพวกเดียวกันเอง แม้มีไอโอที่เสี้ยมให้เราแตกกัน แต่พวกเรา เราจะโพสต์อะไร บางครั้งเป็นความหวังดี เป็นความห่วงใย แต่กลายเป็นประเด็น คุณมีความเห็นของตนเอง แต่ต้องไม่ด้อยค่าใคร ส่วนตัวไม่เคยกลัวอำนาจเผด็จการ แต่กลัวพวกเดียวกันเอง คุณจะรักใครชอบใคร เข้าคูหาไปกา แต่อย่ามาทะเลาะกันเอง” ซี จันทนาทิ้งท้าย

Advertisement

ด้านนายบุรินทร์ กล่าวว่า ตนทำคลิปโหวตโนร่างรัฐธรรมนูญปี 60 จากนั้นมีคอมเม้นต์เข้ามา แล้วตนตอบคอมเม้นนั้น จากนั้นก็โดนดำเนินคดี มาตรา 112 การใช้ชีวิตในเรือนจำค่อนข้างลำบาก มีการให้เลือกกองงาน ตนเลือกกองจัดเลี้ยง ทำหน้าที่ล้างจาน ซึ่งในบรรดานักโทษด้วยกันก็มีแบ่งชั้น สำหรับปรากฎการณ์การต่อสู้ของคนหนุ่มสาวในยุคนี้ ตนรู้สึกว่าเด็กรุ่นใหม่มีความกล้า มีความคิด รู้อะไรเยอะ ไม่ใช่คนรุ่นเก่าที่งมงายอยู่ในกะลา

“ผมไปร่วมกิจกรรมทุกที่ ยังสู้อยู่ คุกไม่กลัว แต่กลัวกฎในคุกที่หยุมหยิมมากกว่า ฝากไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ว่า ควรเปิดข่าวให้นักโทษดูบ้าง เพื่อที่เราจะสามารถรับรู้ และปรับตัวกับโลกภายนอกได้ อย่าปิดกั้นเรา ไม่ใช่เปิดแต่หนังอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่กำลังสู้อยู่ในวันนี้ ขอให้สู้อย่างมีสติ คุกอย่าไปกลัว แต่อย่าเข้าไป และอย่าด้อยค่ากันเอง ส่วนคนที่ถูกแซะ หรือถูกใครด้อยค่า อย่าไปสนใจ อย่าไปใส่ใจ อย่าไปโต้ตอบในที่สาธารณะ เพราะทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรา มาคุยกันตัวต่อต่อหลังไมค์ดีกว่า” บุรินทร์กล่าว

หลังจบการเสวนามีมินิคอนเสิร์ตต่อเนื่องจาก ‘เอ้ กุลจิรา’ และ ‘ลูกพีช รพีพร’ รวมถึงการเปิดประมูลของที่ระลึกเป็นเสื้อยืดพิมพ์คำว่า NO military NEED Democracy ซึ่งนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ่ง แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมนำมาประมูล ก่อนปิดท้ายกิจกรรมด้วยมินิคอนเสิร์ตจาก MILLION FLOWERS,บุ้ค ELEVENFINGER และอาเล็ก โซคร่มพฤกษ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image