ฝ่ายค้านย้ำผนึกคว่ำงบ-เล็งงัดแผน2สู้ ลุยตัดเหี้ยน-ส่งส.ส.จี้ปรับลดในชั้นกมธ.

ฝ่ายค้านย้ำผนึกคว่ำงบ-เล็งงัดแผน2สู้ ลุยตัดเหี้ยน-ส่งส.ส.จี้ปรับลดในชั้นกมธ.

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ที่จะเข้าสภาฯในวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมาที่พรรคเพื่อไทยว่า

พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติว่าจะคว่ำร่างพ.ร.บ.งบฯ เพราะงบฯ 66 กู้จนเต็มเพดาน งบพัฒนาประเทศแทบจะไม่มี ประชาชนเดือดร้อน อดอยาก หิวโหย น้ำมันแพง ของแพง แต่รัฐบาลบอกไม่มีเงินช่วย แต่รัฐบาลกลับมีเงินไปซื้อเครื่องบินรบรุ่นใหม่ล่าสุด F-35 โดยกองทัพอากาศ ในงบฯ 66 จะซื้อก่อน 2 ลำ ราคาลำละ 78 ล้านเหรียญดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทย 2,700 ล้านบาท จะซื้อทั้งหมด 8 ลำ แต่ปีนี้จะซื้อก่อน 2 ลำ มีเหตุผลความจำเป็นอย่างไรถึงต้องซื้อเครื่องบินรบ จะไปรบกับใคร

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า พรรคพท.มีมติในเบื้องต้นแล้วว่าไม่เห็นด้วยให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 66 ผ่านตั้งแต่วาระแรก เท่าที่ทราบพรรคร่วมฝ่ายค้านส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย

เมื่อถามว่าการที่พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติคว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 66 ในวาระแรก จะไม่เข้าร่วมพิจารณาทั้งกระบวนการด้วยหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านยังยึดในมติเบื้องต้นคือไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 66 แต่หากร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ผ่านวาระแรก พรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะส่งตัวแทนเข้าไปสู้ต่อในการพิจารณาชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ เพื่อปรับลดงบประมาณ ในส่วนที่ไม่จำเป็น นำไปดูแลแก้ปัญหาเรื่องเร่งด่วนให้กับประชาชน หากฝั่งรัฐบาลไม่ยอมปรับแก้ไขก็จะต้องสู้กันต่อในวาระที่ 2 และ 3 อย่างเต็มที่แน่นอน

Advertisement

วันเดียวกัน ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล จัดกิจกรรม “Hackathon งบ 66 : ร่วมออกแบบ #งบประมาณฉบับก้าวไกล ที่เราอยากเห็น” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงแผนการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ว่า พรรคก้าวไกลจะชี้แจงให้เห็นว่า ความจริงปีนี้เป็นปีแห่งการฟื้นฟูประเทศ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลจัดงบประมาณเพื่อให้สอดคล้องกับการฟื้นฟูประเทศ เป็นงบที่ทำให้ประเทศและประชาชนมีความหวัง แต่เมื่อได้ดูงบประมาณปี 66 เหมือนเป็นงบช้างป่วยที่ปรับตัวไม่ได้ งบประมาณที่ได้รับมากที่สุดคืองบกลาง ประมาณ 5 แสนกว่าล้านบาท โดย 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นงบบำเหน็จ บำนาญ และงบรักษาพยาบาลของข้าราชการ งบปรับสูงมากที่สุดเมื่อเทียบกับปีที่แล้วคือ งบของรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานที่ได้รับสูงสุด เช่น ธกส. นำไปจ่ายอุดหนุนการเกษตรย้อนหลังไปถึงปี 51 แทนที่จะเป็นเรื่องการฟื้นฟูประเทศ กลับเป็นงบของอดีต

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝ่ายนโยบาย กล่าวว่า กระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องงบกลางได้งบประมาณมากที่สุด และงบกระทรวงกลาโหมมากกว่างบกระทรวงสาธารณสุข ต้องย้ำกับประชาชนว่าควรเข้าไปดูรายละเอียดว่ารายการอะไรเพิ่มขึ้นหรือลดลง งบกลางส่วนที่เพิ่มขึ้นคือสวัสดิการของข้าราชการ ขณะที่กระทรวงกลาโหมส่วนที่เพิ่มขึ้นคืองบบุคลากร สะท้อนปัญหาหลายอย่างของโครงสร้างงบประมาณกับระบบราชการไทยว่า ใหญ่เทอะทะไปด้วยขนาดของกำลังคนภาครัฐ กระทรวงกลาโหมมีกองทัพเต็มไปด้วยคน เอาคนไปสู้กับประเทศอื่นตอนนี้ก็คงจะไม่ชนะแน่ๆ

เมื่อถามว่า หลายคนมองว่าเล่นเกมการเมืองมากเกินไป น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ในประวัติศาสตร์เราเคยโหวตรับร่างพ.ร.บ.งบฯ ในวาระ 1 แค่ครั้งเดียวคือ ในปี 63 ตอนนั้นงบประมาณออกมาล่าช้ามาก เนื่องจากมีการเลือกตั้งกลางปี เราจึงคิดว่า ณ วันนั้นแก้ไขอะไรไม่ทัน จึงจำเป็นต้องโหวตรับร่างไปก่อน แต่หลังจากนั้นมา เราไม่เคยโหวตรับร่างในวาระ 1 อีกเลย ถ้างบประมาณทั้ง 4 ปีไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็คงจะต้องยึดหลักตามหลักการของเราคือ ไม่โหวตรับร่าง ส่วนเรื่องเกมการเมือง กลุ่มตัวแปรสำคัญไม่ใช่พรรคฝ่ายค้าน แต่คือกลุ่มแตกย่อยมาจากฝั่งรัฐบาล

Advertisement

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า แม้เสียงฝ่ายค้านจะน้อย และร่างพ.ร.บ.งบฯ ผ่านวาระ 1 ก็ยังคงมีชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) และอนุกมธ. สามารถปรับแก้ ปกติในชั้นกมธ.จะตัดงบได้อย่างเดียว ถ้าครั้งนี้ซ้ำรอยเดิมเหมือนปีที่แล้วที่ตัดลดงบประมาณได้แล้ว แต่ไปโอนเข้างบกลางทั้งหมด เรารับไม่ได้และจะเสนอว่า ตัดได้เท่าไหร่ก็ให้พับโครงการไปเลยจะดีกว่า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image