โฆษกรบ. จวก ‘พิธา’ ยังไม่ทันอภิปรายงบจ่อคว่ำ ท้าถ้ามองว่าไม่ดี ประกาศว่าเป็นรบ.จะลดงบบำนาญ

โฆษกรบ. จวก “พิธา” ยังไม่ทันอภิปรายงบจ่อคว่ำ เหน็บถ้ามองว่าไม่ดี ประกาศว่าเป็นรัฐบาลจะลดงบบำนาญ-สวัสดิการขรก.ลง ปชช.จะได้ตัดสินใจ

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า รัฐบาลจัดงบปี 66 ไม่ตอบโจทย์ปีแห่งการฟื้นฟูประเทศ ว่า คำพูดและพฤติกรรมของฝ่ายค้านย้อนแย้งกันเอง ปากบอกว่าต้องจัดสรรงบประมาณให้ตอบโจทย์การฟื้นฟูประเทศ แต่พฤติกรรมที่แสดงออกมานั้น กลับประกาศจะคว่ำ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตั้งแต่ยังไม่ทันได้อภิปรายด้วยซ้ำ ทั้งหมดก็เพื่อหวังจะคว่ำรัฐบาล เผื่อว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะได้มีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ดังนั้น เชื่อว่าประชาชนทราบดีว่าฝ่ายค้านจริงใจกับประชาชนจริงหรือไม่ และควรจะให้โอกาสได้เข้ามาบริหารประเทศหรือไม่

ทั้งนี้ งบประมาณส่วนใหญ่ฝ่ายค้านก็ทราบดีว่าถูกใช้ไปกับงบฯ บำนาญและสวัสดิการข้าราชการ ซึ่งเป็นแบบนี้มาทุกรัฐบาล แต่กลับไม่ยอมอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ เลือกที่จะพูดความจริงครึ่งเดียว เพื่อเรียกคะแนนนิยมให้กับตัวเอง โดยไม่ได้สนใจว่าหน่วยงานต่างๆ และประชาชนกำลังรอเม็ดเงินตรงนี้อยู่เพื่อไปบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพวกเขา

นายธนกร กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2566 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท ที่จะมีการอภิรายในสภาฯ ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายนนี้ เฉพาะโครงการที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้างบประมาณรวม 2.7 แสนล้านบาท เกี่ยวข้อง 14 กระทรวง 265 โครงการ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในช่วงหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งครอบคลุมด้านความมั่นคง การสร้างความสามารถทางการแข่งขัน การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่า รัฐบาลจะใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดเพื่อบ้านเมือง

“ถ้าฝ่ายค้านคิดว่าการจัดสรรงบประมาณส่วนใหญ่เพื่อใช้กับงบฯ บำนาญและสวัสดิการข้าราชการนั้นเป็นเรื่องที่ผิด ก็ขอให้ประกาศไปเลยว่าถ้าฝ่ายค้านได้เป็นรัฐบาลจะลดงบประมาณส่วนนี้ลงครึ่งหนึ่งหรือจะมากกว่านี้ก็ว่าไปเลย ถ้าหากมองว่าการดูแลข้าราชการถือว่าเป็นยาขม ก็ประกาศให้ชัด ข้าราชการและประชาชนจะได้ช่วยกันคิดว่า การที่มีฝ่ายค้านที่คอยแต่ขวางให้การทำงานไม่คล่องตัวนั้น ประชาชนควรจะให้บทเรียนอย่างไร แต่รัฐบาลยืนยันว่า เม็ดเงินส่วนนี้สำคัญสำหรับการขับเคลื่อนประเทศ เพราะการท่องเที่ยวกำลังจะกลับมา การเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้มากที่สุดยังสำคัญ ซึ่งขณะนี้น้ำกำลังขึ้น รัฐบาลจึงเตรียมกระบวยขนาดใหญ่ไว้รีบตัก แต่ฝ่ายค้านต่างหากที่คอยรั้งกระบวยไว้ทุกครั้งที่รัฐบาลกำลังจะตักน้ำ” นายธนกร กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image