‘วิโรจน์’ ข้องใจ ทำไม กกต.ยังไม่รับรอง ‘ชัชชาติ’ เตือนอย่าทำให้คนสงสัย รอการกดปุ่มจากใคร

‘วิโรจน์’ ถาม กกต.รอการกดปุ่มจากใครหรือเปล่า ถึงยังไม่รับรอง ‘ชัชชาติ’

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล เขียนข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นกรณี กกต.เลื่อนการพิจารณารับรองนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. อ้างว่าได้รับการร้องเรียนเรื่องกระเป๋ารีไซเคิล และข้อหาพูดปราศรัยดูถูกระบบราชการ โดยระบุว่า

ตกลง กกต.มีหน้าที่สนับสนุนการเลือกตั้งให้เป็นธรรมตามเจตจำนงของประชาชน หรือถูกมอบหมายจากเผด็จการ ให้มาสร้างอุปสรรคขัดขวางเลือกตั้งกันแน่?

จากกรณีที่ กกต.ยังไม่ยอมรับรองคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.

Advertisement

จริงๆ ถ้าย้อนหลังออกไปอีกสักหน่อยกับกรณีการรับรองคุณสุรชาติ เทียนทอง ที่เขตหลักสี่ กกต.ก็ใช้เวลาถึง 59 วัน กว่าจะรับรองให้คุณสุรชาติ เทียนทอง ได้เป็น ส.ส.

ทำให้เราต้องตั้งคำถามถึงที่มาของ กกต.ชุดนี้ ว่ามีที่มาจากอะไร เพราะถ้าที่มาจะทำให้สังคมสามารถตั้งข้อสันนิษฐานถึงการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.ได้น่าสนใจมากขึ้น

1.กกต.ชุดนี้เกิดขึ้นจาก รธน.60 ที่ให้อำนาจ กกต.ล้นฟ้า กลไกในการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของ กกต. โดยอำนาจตุลาการ ยังคงขาดความชัดเจน

Advertisement

2.สนช.ที่แต่งตั้งโดย คสช.เป็นคนเลือก กกต.ชุดนี้ ถ้าไล่ลำดับกัน ก็พอจะตั้งข้อสังเกตได้ว่า กกต.ชุดนี้มีที่มาจากระบบ คสช.

3.สนช.สภาแต่งตั้ง ใช้เวลาสรรหา กกต.กว่า 3 ครั้ง และพิจารณา “ลับ” ทุกครั้ง ขาดความโปร่งใสอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่ กกต.เป็นองค์กรที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชน

4.กกต.ทั้ง 7 คนมาใหม่ ขณะที่ได้รับการแต่งตั้ง ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่มีประสบการณ์ในการจัดเลือกตั้ง

สำหรับการทำหน้าที่ของ กกต.ในการรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นครั้งนี้ ผมเข้าใจดีว่า กกต.ก็มีหน้าที่ และขั้นตอนในการตรวจสอบต่างๆ แต่ กกต.ต้องอย่าลืมว่าทุกๆ กระบวนการที่ กกต.ทำ ทุกๆ ความล่าช้าที่เกิดขึ้น กกต.แม้เป็นองค์กรอิสระ แต่อิสระที่ว่านั้นไม่ใช่อิสระจากประชาชน กกต.จึงมีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจงให้กับประชาชนทราบอย่างสิ้นข้อสงสัยด้วย พร้อมกับแจ้งกำหนดการในการดำเนินการให้มีความชัดเจน อย่าให้ประชาชนรู้สึกว่า กกต.ทำตามอำเภอใจของตน หรือรอการกดปุ่มจากใคร

สุดท้าย ผมคิดนี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่นับจากนี้ ประชาชนทุกคนจะร่วมกันตรวจสอบการทำงานของ กกต.ชุดนี้ และหากพบหลักฐานที่เชื่อได้ว่า มีการใช้ช่องว่างทางกฎหมายหยุมหยิม ในการดำเนินการใดๆ ที่ไม่เป็นธรรม หรือขัดต่อเจตจำนงที่มาจากประชาชน ก็จำเป็นต้องใช้กระบวนการยุติธรรม ทั้งทางแพ่ง และทางอาญา เพื่อดำเนินการกับ กกต.ชุดนี้

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการเฝ้าระวังปกป้องผลการเลือกตั้ง ที่เป็นเจตจำนงของประชาชน เพื่อให้มั่นใจว่า จะไม่มีอำนาจบาตรใหญ่นอกระบบ หรืออำนาจที่มาจากผู้มีอำนาจกลุ่มใด เข้ามาแทรกแซง บิดเบือนมติจากประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image