สภาวันแรกถกเดือด! ฉะงบสืบทอด ซัดไม่ตอบโจทย์ปท.-ส่อโกง ‘บิ๊กตู่’ งัดเจ๊งจำนำข้าว

สภาวันแรกถกเดือด! ฉะงบสืบทอด ซัดไม่ตอบโจทย์ปท.-ส่อโกง ‘บิ๊กตู่’ งัดเจ๊งจำนำข้าว

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท วาระที่ 1 รับหลักการ มีเวลาการพิจารณาทั้งสิ้น 47 ชั่วโมง 30 นาที ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม-2 มิถุนายน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายเสนอแนะว่า งบประมาณ 3.185 ล้านล้านบาท ที่ ครม.จะมาขอต่อสภาเพื่อนำไปใช้ อ้างว่าจะเอาไปพัฒนาประเทศ จะไปแก้ไขตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ แต่การจัดงบประมาณใน 2-3 ปีที่ผ่านมาบอกได้ว่าสิ่งที่รัฐบาลเสนอมาไม่เห็นความสำคัญของปัญหาประเทศ ไม่เห็นหัวประชาชน โดยเฉพาะผลสัมฤทธิ์ที่นำงบประมาณไปใช้ไม่ตอบโจทย์และไม่แก้ปัญหาประเทศ เหตุผลที่จะไม่รับหลักการคือ ไม่อาจอนุญาตให้รัฐบาลบริหารงบประมาณก้อนนี้ได้อีกต่อไป เพราะเป็นรัฐบาลหมดสภาพ เป็นการจัดลำดับความสำคัญให้กับตนเองและพวกพ้อง ทั้งนี้ ยังมีเรื่องงบที่ส่อโกง ไม่ว่าจะเป็นงบกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน แม้เป็นแต่วิธีการจัดสรรงบประมาณเปรียบเสมือนเป็นงบประมาณเรียกค่าไถ่ เพื่อให้อยู่ในอำนาจยาว

ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายว่า คิดว่าเป็นปีนี้มีความสำคัญ เพราะเป็นปีแห่งการฟื้นฟูประเทศ และปีแห่งความหวังที่ประชาชนจะลืมตาอ้าปาก และเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ในแง่ของโควิด-19 จากช่วงที่มีอัตราการติดเชื้อตอนนี้ลดลง และการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ฉะนั้นในจังหวะที่ประชาชนกำลังมีหวังอย่างนี้ น้ำกำลังขึ้นต้องรีบตักแบบนี้ ปีนี้จึงเป็นปีที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ หากน้ำขึ้นแล้วกระบวยเล็ก ก็จะตักน้ำได้ไม่เยอะ จึงต้องลงทุนเพื่อให้กระบวยใหญ่ขึ้น ถ้าจัดงบประมาณดี ประเทศไทยจะทะยานไปอีก 10 ปีข้างหน้า นี่คือจุดตัดและจุดเปลี่ยนของประเทศ แต่การจัดงบประมาณปีนี้เป็นงบประมาณช้างป่วยที่ปรับตัวไม่ได้ เมื่อรายได้ผันผวน รายจ่ายแข็งตัว การกู้ก็จะหลุดกรอบ

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชี้แจงอีกว่า ที่บอกว่างบปี 2566 จัดสรรน้อยไม่เพียงพอนั้น จัดงบลงทุนกว่า 6.9 แสนล้านบาท คิดเป็น 21.72% เป็นไปตามกฎหมาย พูดหลายครั้งแล้วว่าภาครัฐยังมีการลงทุนในรูปแบบอื่นด้วยอีก 9.8 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกันแล้วถือว่าปี 2566 รัฐมีงบลงทุน 7.94 แสนล้านบาท ทั้งนี้ ไม่ใช่งบที่รัฐบาลจัดเท่านั้น ยังมีความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชนด้วย สิ่งที่ทำวันนี้เพื่ออนาคต เพิ่มเติมหลายอย่าง นอกเหนือจากการประกันราคาข้าว ประกันราคาสินค้าทางการเกษตร เพราะไม่ต้องการให้เขาขาดแคลนรายได้ วันนี้หนักที่สุดคือข้าว เราจะทำอย่างไรที่จะไม่ให้ประกันเพิ่มไปกว่านี้ จึงต้องเพิ่มความเข้มแข็ง

Advertisement

“ถ้าพูดเรื่องข้าวที่พูดว่างบวันนี้เป็นงบในอดีตไม่ใช่อนาคต ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา โครงการจำนำข้าว ขาดทุนกว่า 9.5 แสนล้านบาท รัฐบาลนี้ตั้งงบชำระหนี้ไปแล้ว 7.8 แสนล้านบาท คงเหลือเงินต้น และดอกเบี้ยอีก 3 แสนล้านบาท เงินตรงนี้ถ้าอยู่เอามาทำอะไรได้อีกเยอะ ถามว่าใครทำเอาไว้ ผมก็ไม่อยากจะพูด ไม่อยากจะย้อนกลับ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image