‘ขจิตร’ ซัด ‘ตู่’ ทำงบไม่รับผิดชอบ เจ้าตัวลุกโต้ รับอารมณ์รุนแรง เป็นแค่มนุษย์ธรรมดา

‘ขจิตร’ ซัด ‘ประยุทธ์’ กิริยาไม่เปลี่ยน ทำงบไม่รับผิดชอบ ด้าน ‘บิ๊กตู่’ สวนทันควัน ลั่นรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ขอให้เข้าใจ บางครั้งอารมณ์รุนแรง เพราะเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ในวาระที่ 1 เป็นวันที่ 2

เวลา 12.05 น. นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า การที่นายกฯบอกว่าพูดอะไร ส.ส.ไม่ฟัง แสดงว่า ส.ส.ไม่นั่งอยู่แปลว่าไม่ฟัง แต่ตอนนี้ตนพูดนายกฯก็ไม่นั่งฟัง ซึ่งจริงๆ แล้วเราฟัง เห็นทั้งกิริยาท่าทางของนายกฯ แต่ท่านไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ฟังแล้วก็ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลง เวลาทำงบประมาณก็ไม่รู้สึกรู้สาต่อสถานการณ์ มาตอบในสภาเหมือนไม่รับผิดชอบบอกว่าไม่ได้ทำเอง ถ้าไม่อยากรับผิดชอบกับงบที่แถลงมาและในเอกสาร ลาออกไป แล้วให้คนอื่นเขามารับผิดชอบ

“ผมเจอนายกฯหลายท่าน ผมทำงานการเมือง ทุกคนต้องรับผิดชอบหมด ไม่ว่าอะไรก็ตามที่อยู่ในเอกสาร คนที่รับผิดชอบต่อสภาคนแรกคือนายกฯ จะปฏิเสธไม่ได้ นายกฯท่านต้องรับผิดชอบในโครงการทั้งหมดของงบประมาณ ผมเห็นใจท่านนายกฯเหนื่อยมาตั้งแต่มีสภา แต่เดี๋ยวนี้สภาทำบทบาทได้ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นอกนั้นเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ท่านเหนื่อยมากผมเข้าใจ ท่านทำงานทุกอย่างเพื่อจะรับผิดชอบประเทศนี้ แต่บนความเหนื่อยของท่านใช้งบประมาณ ยืมเงินมา เป็นหนี้สาธาณะ 10 ล้านล้านบาท มากกว่าคนอื่น ท่านรับผิดชอบหรือไม่ และเป็นผลงานของท่านหรือไม่ แล้วถ้าไปตรวจดูการใช้งบของท่านทั้งหมดที่ท่านใช้ไปประมาณปีละ 3 ล้านล้านบาท และปีนี้ 3.18 ล้านล้านบาท มีผลอย่างไรต้องไปดูทั่วประเทศ ซึ่งนายกฯที่ชื่อประยุทธ์ต้องรับผิดชอบ” นายขจิตรกล่าว

นายขจิตรอภิปรายว่า สำหรับกระทรวงศึกษาธิการ กับกระทรวงอุดมศึกษาฯ ใช้เงินประมาณ 4-5 แสนล้านบาท 80 เปอร์เซ็นต์ของกระทรวงศึกษาฯใช้กับงบบุคลากร เหลืออยู่ประมาณ 9,775 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบพัฒนา และ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นงบค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งไม่ถึงมือครู ครูยังต้องใช้เงินตัวเองทำกิจกรรมการเรียนการสอนเอง การทำโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล ใช้เงิน 4,954 ล้านบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 54 เพราะรัฐบาลต้องจัดการศึกษาให้กับประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีคุณภาพ และทั่วถึง ดังนั้น การจะมาทำโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล แปลว่าโรงเรียนอื่นไม่มีคุณภาพใช่หรือไม่ ซึ่งนายกฯต้องรับผิดชอบ

Advertisement
ขจิตร ชัยนิคม

ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลุกขึ้นโต้ว่า ที่ท่านกล่าวหาว่าไม่รับผิดชอบ โยนความผิดให้คนอื่น ยืนยันว่าไม่ใช่แบบนั้น ท่านฟังคำพูดของตนไม่เข้าใจ ตนพูดว่าตนทำงานโดยการต้องฟังจากคณะกรรมการทุกคณะ ความรับผิดชองอย่างไร นายกฯก็ต้องรับผิดชอบ ไม่หนีแน่นอน ไม่หนีไปไหน ความรับผิดชอบทุกอย่าง อย่างไรก็ต้องรับผิดชอบ อย่าพูดเกินเลยไป และในเรื่องของการศึกษารัฐบาลให้ความสำคัญการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งอยู่ในหัวข้อหลักของชาติ 1 ใน 6 ข้อ แต่สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้มีคุณภาพ เราต้องพัฒนาครู โรงเรียน พัฒนาเด็ก ซึ่งต้องดูว่าสิ่งที่เราทำมาแล้วมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์​กล่าวว่า การที่มีโรงเรียนคุณภาพประจำตำบลนั้น จุดประสงค์หลักคือการที่จะทำให้มาตรฐานการเรียนการสอนได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อลดภาระในการเดินทางไปศึกษาในจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ที่ห่างไกล และต้องมีการปรับปรุง พัฒนาเอาเทคโนโลยีเข้าไปใส่ ไม่ได้หมายความว่ายุบทิ้งทั้งหมด และได้สอบถามไปยังกระทรวงศึกษาฯ ที่งบลดลงส่วนหนึ่งเพราะเด็กนักเรียนลดลง แต่ก็ฟังท่านและรับไปดูว่าจะดำเนินการอย่าไร

พล.อ.ประยุทธ์​กล่าวอีกว่า การที่ผมจะนั่งอยู่ หรือไม่นั่งอยู่ในที่ประชุม ผมเป็นนายกฯ มีความรับผิดชอบ มีการบันทึกสรุปว่าใครอภิปรายว่าอย่างไร และผมควรจะชี้แจงตรงไหนอย่างไร ทุกอย่างถูกบันทุกหมดและผมอ่านตลอดเวลา ถึงแม้ผมจะทำงานอื่นอยู่ด้วยก็ตาม เช่น วันนี้ผมมีภารกิจสำคัญอีกอย่างคือการรับการเยือนของนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว งานผมไม่ได้หยุดนิ่ง และคณะทำงานของผมอยู่ที่นี่ ผมพร้อมชี้แจง บางเรื่องให้รัฐมนตรีช่วยชี้แจงด้วย ยืนยันพร้อมสนับสนุนในส่วนของงบกลางถ้าเรามีเพียงพอ และไม่มีปัญหาภัยพิบัติ ปัญหาสาธารณสุขและอื่นๆ พร้อมพิจารณาสนับสนุนงบให้ ซึ่งท่านก็ทราบดีอยู่แล้วว่ารายได้เราจำกัด

Advertisement
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“ผมรับผิดชอบทุกอย่างอยู่แล้ว ผมยืนยันว่าผมไม่เคยท้อและผมก็ทำงานทุกวัน ผมมีความรับผิดชอบและผมจะไม่ก้าวก่าย ผมจะไม่สั่งการอะไรที่มันเกิดประโยชน์กับตัวเอง หรือกับใคร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามระเบียนและขั้นตอนทุกประการ และทั้งหมดผมรับผิดชอบในภาพใหญ่อยู่แล้ว จะดีจะชั่วผมก็ต้องรับอยู่แล้ว

“ผมไม่หนีท่านหรอก ขอยืนยัน และอยากให้ทุกคนเข้าใจในบางครั้งผมรู้ ผมทราบดีว่าผมค่อนข้างจะอารมณ์แรงนิดนึงบางครั้ง เพราะผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน ผมพยายามระวังอย่างที่สุดในการที่จะพูดจาตรงนี้ และต้องขอขอบคุณในส่วนที่เป็นคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ก็จะรับไปแก้ไขปรับปรุงในขั้นตอนหลังจากงบผ่านไปแล้วในชั้น กมธ.ออกมา ที่สามารถปฏิบัติได้ ถ้าไม่ผ่านก็แล้วแต่ ค่อยไปว่ากัน เพราะประชาชนรออยู่ว่าเราจะทำอะไรใหม่ให้เขาได้อีก เราจะดูแลเขาต่อไปได้หรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์​กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image