‘ชัชชาติ’ ชี้ 6 ปัญหาเตรียมเร่งแก้ ลั่น ‘ไม่อยากสัญญาสิ่งที่ยังทำไม่ได้’ ชวนปลูกต้นไม้ประจำตัว
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ภายหลังนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เข้ารายงานตัวต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อรับตำแหน่ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 17 ของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ก่อนเดินทางมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) และร่วมพิธีมอบหมายงานในหน้าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น
บรรยากาศเวลา 15.25 น. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) ภายหลังนายชัชชาติเดินทางไปสักการะศาลพระภูมิและศาลตายาย ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารสํานักการโยธา และพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ สัญลักษณ์ของ กทม. ที่บริเวณลานหน้าอาคารไอราวัตพัฒนา
นายชัชชาติเปิดเผยถึงเป้าหมาย การสร้างพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพมหานครว่า พื้นที่สีเขียว ความจริงแล้วมันคือ 9 ตารางเมตร/คน แต่ตนไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญตรงนั้นมาก ว่าจะต้องมีกี่ตารางเมตรต่อคน แต่อยากให้มีพื้นที่สาธารณะใกล้บ้าน จึงมี 2 นโยบายหลักคือ “ปลูกต้นไม้ล้านต้น” กับ “กรุงเทพฯ 15 นาที” เคลียร์พื้นที่สวนที่มีระยะเดิน 800 เมตร ที่ต้องเริ่มคิดแล้ว ถ้ารวมลานกีฬาด้วย ทั้ง 34 แห่ง ก็สามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวและลานกีฬาได้ ตรงนี้ไม่ไกลความจริง เพราะลานกีฬาเรามีเยอะ ตอนนี้เราทำแมปปิ้งแล้ว พล็อตวงกลมขนาด 800 เมตรจากสวน ถ้ารวมลานกีฬาด้วยจะครอบคลุมทั้งหมด แต่ถ้าไม่รวมลานกีฬาด้วยจะเหนื่อย อาจจะต้องหาพื้นที่เอกชนมาเพิ่มตรงนี้ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีเอกชนมาร่วมมือให้พื้นที่แล้วด้วย
“ตอนนี้เรารวบรวมเอกชนไปก่อน ให้เอกชนช่วยรับผิดชอบ เช่น รายหนึ่งอาจจะปลูกสัก 20,000 ต้น ต้นจะมีพิกัด GPS ของคนปลูก มีการอัพเดตแต่ละปีว่าต้นไม้โตแค่ไหน ไม่ใช่ปลูกป่าแบบสมัยก่อนที่เราเข้าใจกัน คือ ปลูกแล้วก็หาย อันนี้เราเป็นเจ้าของต้นไม้ต้นนั้น แล้วก็ดูแลไปด้วยกัน ให้เอกชนมีส่วนร่วมมาช่วยกันดูแล ต้นไม้อาจจะไม่ยากตอนปลูก ยากตอนดูแล ถ้าเกิดเรามีต้นไม้ประจำตัวเรา 1 ต้น เราคอยดูแลต้นไม้ต้นนี้ให้โตไปกับเราตั้งแต่เด็ก เด็กก็ดูแลต้นไม้ต้นนี้โตไปด้วยกัน ในเรื่องของระบบ เอกชนก็ช่วยกัน ทุกคนมีพิกัดของตัวเอง แค่เราทำแอพพลิเคชั่นของทางราชการให้ ขนาดตอนนี้ยังไม่ประกาศคนตื่นเต้นเยอะ แค่โหวตเตอร์ โหวตให้เรา 1,400,000 คน แค่ครึ่งหนึ่งก็ 700,000 ต้นแล้ว แทบจะไม่ต้องใช้งบประมาณ งบประมาณใช้น้อยมาก” นายชัชชาติกล่าว
เมื่อถามว่า จากการตอบรับ คาดว่าจะครบ 1 ล้านต้น ช่วงใด ?
นายชัชชาติระบุว่า คิดว่า ต้องมอง 4 ปี อย่าไปเร่งรัดมาก แต่ว่าถ้าทำได้ก็อาจจะมีต้นไม้ 3 ล้านต้นในกรุงเทพฯ ต้องเก็บข้อมูล
“ผมว่าเป็นโครงการที่น่าสนุกนะ เหมือนทุกคนมีส่วนร่วม ไม่ใช่ภาครัฐทำอย่างเดียว เด็กก็โตไปกับต้นไม้คนละต้น แทนที่จะมีเฉพาะระดับผู้บริหารมาปลูก เด็กมีต้นไม้ที่ตัวเองปลูก น่ารักดี ไม่ได้ปลูกเฉพาะพื้นที่รัฐ ปลูกที่บ้านตัวเองก็ได้ เพราะต้นไม้ถือเป็นสมบัติของเมือง อยู่ตรงไหนก็เป็นสมบัติของเมืองเหมือนกัน” นายชัชชาติกล่าว
เมื่อถามว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าครบ 1 ล้านต้นแล้ว ? นายชัชชาติระบุว่า ก็มีการติดแท็ก พิกัด GPS ซึ่งเดี๋ยวนี้การเก็บข้อมูลรัฐใช้พื้นที่เมมโมรี่ นิดเดียวเท่านั้น
เมื่อถามถึงเรื่องปัญหาเร่งด่วนในขณะนี้ นายชัชชาติระบุว่า คือเรื่องน้ำท่วมเรื่องใหญ่ ฝนเริ่มมาอีกแล้ว เรื่องหาบเร่แผงลอย คนก็กำลังรอคำตอบอยู่ว่าจะเอาอย่างไร เรื่องปากท้อง เรื่องความปลอดภัย เรื่องการเดินทาง เรื่องความโปร่งใส
เมื่อถามว่า จุดที่รับมือยากเรื่องน้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร ตอนนี้มีกี่จุด ?
นายชัชชาติเปิดเผยว่า ตอนนี้เข้าใจว่ามีอยู่ประมาณ 49 จุด เท่าที่ทราบ สามารถลงไปดูได้ อย่างเขตห้วยขวาง ก็คงต้องรีบไปทะลวงก่อน แต่ตอนนี้เราอยู่กลางหน้าฝนแล้วอาจจะทำได้จำกัด ต้องดูในด้านประสิทธิภาพการดูดน้ำ ช่วงนี้อาจจะลอก (ท่อ) แต่จะไม่ใช่จังหวะที่ดี ที่จะลอก เพราะฝนมาแล้วลอกยาก
ในส่วนของมาตรการป้องกันเรื่องน้ำท่วม นายชัชชาติระบุว่า ตอนนี้ต้องดูเรื่องความพร่อง อย่างฝนมา ต้องพร่องน้ำเหมือนแก้มลิงที่รับน้ำชั่วคราว ต้องเป็นระบบ ต้องมีการดู การพยากรณ์อากาศ วันนี้ฝนตกแถวไหน เตรียมทรัพยากร เตรียมบุคลากรให้พร้อม
เมื่อขอความมั่นใจ ว่าจะแก้ปัญหาใน 49 จุดนี้ได้จริง ? นายชัชชาติกล่าวว่า ต้องดีขึ้น ส่วนจะ 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ ยังตอบไม่ได้
“ยังไม่อยากจะไปสัญญาในสิ่งที่ยังทำไม่ได้ ขอดูข้อมูลนิดหนึ่ง ในที่ประชุม เรื่องนี้ เย็นนี้” นายชัชชาติกล่าว ก่อนเดินทางไปยังสวนเบญจกิติ เขตคลองเตย เพื่อปฏิบัติภารกิจผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายแรก ด้วยการร่วมปลูกต้นไม้ ตามนโยบาย 1 ล้านต้น
